บรรยากาศตกอยู่ในความอึดอัดครู่หนึ่ง แต่หลังจากที่หรงฉี่มีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมา เสียงที่โกรธจัดก็ดังขึ้นมาทันที:“เจ้าล้อเลียนข้า”
เสียงของเขาดังมาก ห้องโถงและทางเดินทั้งหมดล้วนดังก้องกังวานด้วยเสียงของเขา จนผู้คนต่างตกตะลึงและตื่นตระหนก
ไป๋ชิงหลิงหัวเราะในใจ
ไม่น่าแปลกใจเลยที่อ๋องต้วนแย่ลงเรื่อย ๆ แม้แต่หน้าที่สำคัญของศาลต้าหลี่ก็ได้รับการดูแลโดยหรงเยี่ย ด้วยความอดทนแบบนี้ ควรค่าแค่ไปเที่ยวเล่นกับหญิงสาวที่จวนหลังเรือนเท่านั้น และวางแผนการชั่วร้ายฆ่าแกงเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ก็เท่านั้น
นางไม่อ่อนน้อมถ่อมตนหรือเย่อหยิ่ง แต่กลับพูดอย่างใจเย็นว่า:“ หม่อมฉันเป็นหมอ จะพูดล้อเลียนได้อย่างไรกัน ? ”
“เจ้า……”หรงฉี่โกรธมากเขาชี้มือไปมาระหว่างหรงเยี่ยและไป๋ชิงหลิง ในที่สุดก็สะบัดแขนเสื้อของเขาหันมากอดไป๋จิ่นและพูดว่า:“มันก็แค่บ่อน้ำร้อนหลิวเหยียนก็เท่านั้น จิ่นเอ๋อร์ รอข้ากลับไปที่จวนแล้ว จะเชิญหมอปีศาจมารักษาเจ้าบาดแผลให้เจ้านะ”
สิ้นเสียง หรงเยี่ยก็หัวเราะอย่างเย็นชาขึ้นมาอีกครั้ง
หรงฉี่หันไปมองและรู้สึกว่ารอยยิ้มบนใบหน้าของหรงเยี่ยช่างดูแพรวพราวมาก
เขาโกรธไม่ออก ดวงตาที่ขุ่นมัวและดุร้าย:“ท่านภูมิใจอะไรนักหนา เชิญหมอที่ไร้ความรู้มารักษาบาดแผลลูกธนูของลูกชายท่าน อย่าปล่อยให้หญิงสาวนางนี้ทำลายมันซะล่ะ”
เมื่อพูดถึง ลูกชายของเขา ในใจของหรงฉี่ก็รู้สึกสบายขึ้นมาก
ถ้ามันถูกทำลายไป ก็คงจะดีกว่านี้
เขาแต่งงานกับจิ่นเอ๋อร์มาสี่ปีแล้ว แต่ยังไม่มีลูกเป็นของตัวเองเลย ในทางกลับกันหรงเยี่ย อยู่ในสงครามมาสี่ปี ในตอนที่กลับมาก็พาลูกกลับมาด้วยแล้ว
เด็กน้อยยังอายุไม่ครบเดือน เสด็จพ่อของเขาก็แต่งตั้งให้ลูกชายเขาเป็นซื่อจื่อแล้ว มีฐานะสูงส่ง อีกทั้งยังเอาเข้ามาเลี้ยงในวังด้วยพระองค์เองอีก เขาเลยมักจะถูกเสด็จพ่อดุเรื่องนี้เป็นประจำ
ตายไป ดีที่สุดแล้ว !
และด้านมืดอีกด้านของเขา มันถูกส่งออกมาทางสายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธ จนถูกไป๋ชิงหลิงจับได้
ในขณะนี้ ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างนาง ทันใดนั้นก็เดินขึ้นมายืนเคียงข้างไป๋ชิงหลิง
หรงเยี่ยที่สวมเสื้อคลุมดำยาว จนทำให้ร่างกายดูผอมเพรียวและสูง
อีกทั้งเขายังมีส่วนสูงที่สูงกว่าหรงฉี่มาก และเมื่อทั้งสองคนยืนเคียงข้างกัน รัศมีอันน้อยนิดของหรงฉี่แทบเทียบไม่ติดเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น