พูดกับทหารคุ้มกันที่อยู่ข้างหลังเขาว่า “ตามไปดูว่านางทำอะไร ! ”
“ขอรับ ! ”
ไม่นานหลังจากที่ไป๋ชิงหลิงออกจากจวน อิงอู๋ ก็พูดว่า “พระชายา พวกเราถูกสะกดรอย ”
“กำจัดเขาซะ ” ไป๋ชิงหลิงตรงเข้าไปในโรงน้ำชา และเมื่อนางออกมาอีกครั้ง นางก็เปลี่ยนชุดแล้ว และออกไปทางประตูหลัง
อิงอู๋สวมเสื้อคลุมและผ้าคลุมหน้า แล้วเดินผ่านประตูหน้า คนผู้นั้นตามอิงอู๋ทันที และไล่ตามเขาไปหลายช่วงตึก……
หลังจากไล่ตามจนถึงทางตันแล้ว อิงอู๋ก็เอาผ้าคลุมหน้าออกแล้วหันกลับมา “เฮ้ เจ้าเล่นพอหรือยัง ? ”
ฮวาอิ่งหยุดฝีเท้าชั่วคราว และเมื่อนางเห็นใบหน้าที่แท้จริงภายใต้ผ้าคลุม ฮวาอิ่งขมวดคิ้วและตะโกนด้วยความโกรธ “ทำไมถึงเป็นเจ้า ? ”
อิงอู๋กระโดดขึ้นไปบนกำแพง และพูดติดตลกว่า “น้องฮวาอิ่ง ทำไมเจ้าถึงไล่ตามข้าตลอดเวลา หรือว่า……เจ้าชอบข้า ! ”
“เจ้า……”ฮวาอิ่งดึงแส้ออกมาอย่างรุนแรง และเหวี่ยงมันไปที่อิงอู๋
“เพี๊ยะ ! ” แส้ตีลงไป และอิงอู๋ก็กระโดดขึ้นบนกำแพง ฮวาอิ่งขยับแส้และเขวี้ยงไปยังอิงอู๋อีกครั้งหนึ่ง
ครั้งนี้อิงอู๋ไม่หลบ เขายื่นมือออกไปจับแส้ของฮวาอิ่ง และดึงมันอย่างแรง
ร่างของฮวาอิ่งถูกเขาลากไปข้างหน้าเป็นระยะทางหนึ่ง และเห็นว่าเขากำลังจะถึงหน้าอิงอู๋ ฮวาอิ่งรีบกระโดดขึ้นอย่างรวดเร็ว……
อิงอู๋ใช้ประโยชน์จากการดึงแส้ และฮวาอิ่งที่เพิ่งกระโดดก็ถูกปัดปลิวไป
นางไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากปล่อยแส้ และล่าถอยไปไกล
ในเวลานี้ แส้ของฮวาอิ่งอยู่ในมือของอิงอู๋ และเขาเล่นอาวุธของนาง และพูดว่า : “อย่าติดตามพระชายาของเรา ถ้านายท่านรู้ เจ้าจะต้องตาย ”
“หึ……”ฮวาอิ่งจ้องมองที่แส้ในมือของเขา และส่งเสียงเยาะเย้ย
อิงอู๋ตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขาจึงรีบเปิดฝ่ามือของเขาและเห็นว่าฝ่ามือของเขาถูกกรีดด้วยอาวุธมีคม และมีรอยเลือดไหลทั้งลึกและยาว……
อิงอู๋เงยหน้าขึ้นมองไปทางฮวาอิ่ง แต่ฮวาอิ่งก็ได้หายไปแล้ว
เขาก้าวไปข้างหน้าสองก้าวอย่างรวดเร็ว หันกลับไปในตรอก ตรวจสอบให้แน่ใจว่าฮวาอิ่งไม่อยู่ที่นี่แล้ว จากนั้นจึงหันหลังกลับหยิบแส้ของฮวาอิ่งและจากไป
ไป๋ชิงหลิงก็สลัดคนตามนางได้สำเร็จ และมาถึงร้านของช่างตีเหล็กจาง
อิงเหลียนยืนอยู่ในโรงเก็บของด้านหลังตีเหล็กจาง จ้องมองไปที่ช่างตีเหล็กจางที่กำลังตีเหล็กชิ้นสุดท้ายอย่างตั้งใจ
ไป๋ชิงหลิงเดินเข้าไปในร้าน เปิดประตูและถามว่า “เสร็จหรือยัง ? ”
อิงเหลียนหันกลับมาอย่างรวดเร็ว และเมื่อเขาเห็นร่างของไป๋ชิงหลิง เขารีบทำความเคารพทันที “พระชายา ใกล้จะเสร็จแล้วขอรับ”
ไป๋ชิงหลิงส่งเสียงตอบรับ แล้วไปรอที่เก้าอี้ หลังจากนั้นประมาณครึ่งชั่วโมง ช่างตีเหล็กจางก็ได้สร้างรถเข็นตามแบบที่ไป๋ชิงหลิงวาดออกมา
นางเดินไปลอง และลองใช้เทคนิคบางส่วน
หยิงเหลียนรู้สึกเหลือเชื่อ “ท่านอ๋องมีรถเข็นคันนี้ มันจะสะดวกมากเลย ”
“มันเป็นเทคโนโลยีของยุคนี้ จึงไม่สามารถทำระบบไฟฟ้าอัตโนมัติได้ ไม่อย่างนั้นมันจะช่วยประหยัดแรงได้มาก ” ไป๋ชิงหลิงพูดเสียดาย
แต่นี่ก็ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...