ทุกคนตกใจจนส่งเสียงกรีดร้อง ฮองเฮาอู่ก็ตกใจกับรูปลักษณ์ของหลวนอี๋เช่นกัน ไทเฮารีบยกมือห้าม “ รีบพาองค์หญิงออกไป”
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?” จักรพรรดิเหยาขมวดคิ้ว
สี่ซ่านและเหลียนซินก้าวไปข้างหน้าและกอดองค์หญิงหลวนอี๋
พระชายารองหวู่ถูกแม่นมที่อยู่ข้าง ๆ ประคองขึ้นข้างเธอ และคุกเข่าลงกับพื้น
หลวนอี๋ร้องไห้น้ำตาไหลอาบใบหน้า “เสด็จพ่อ เสด็จแม่ เสด็จย่า ผู้หญิงคนนี้... ผู้หญิงคนนี้นางด่าลูกของพี่สะใภ้เจ็ดว่าเป็นลูกนอกสมรส และบอกว่าลูกของพี่สะใภ้เจ็ดไม่ใช่ลูกของท่านพี่เจ็ด เพื่อที่จะได้ตำแหน่งเล่ห์เหลี่ยมอะไรก็เอามาใช้หมด หม่อมฉันก็เถียงสู้กันกับนาง ท้ายที่สุดจึงเกิดการลงมือขึ้น หลังจากนั้น……จิ่งหลิน และเซิงเอ๋อร์ก็หายตัวไปแล้ว ”
“อ๋า...” ทุกคนร้องลั่น
"ซื่อจื่อน้อยและองค์หญิงหายไปแล้ว !!" ฮองเฮาอู่กรีดร้องพร้อมกับเบิกตากว้าง
หลวนอี๋หน้าซีดด้วยความตกใจกับเสียงร้องของฮองเฮาอู่ และร่างกายก็ถอยกลับไปโดยไม่รู้ตัว
ไทเฮาดุพระชายารองหวู่ด้วยความโกรธ “พระชายารองหวู่ เป็นจริงหรือ”
พระชายารองหวู่ก็เงยหน้าขึ้นและสบตากับพระชายาหราว
พระชายาหราวซึ่งยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน จ้องมองเธออย่างเย็นชา ซึ่งทำให้หัวใจของพระชายารองหวู่สั่นสะท้าน นางรีบก้มศีรษะลงและพยักหน้าเล็กน้อย
“ทำไมเจ้าถึงพูดเรื่องแบบนี้กับเด็ก? นางอายุเพียงห้าขวบ นอกจากนี้สายเลือดของราชวงศ์สามารถรับรู้ได้โดยไม่ได้ตั้งใจงั้นหรือ? จักรพรรดิได้ถามปรมาจารย์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพื่อยืนยันว่าเด็กทั้งสองมาจากแม่คนเดียวกัน เจ้ากำลังสงสัยศักดิ์ศรีของจักรพรรดิอยู่หรือ ?”
พระชายารองหวู่โน้มตัวลง และโค้งคำนับอย่างหนักแน่น “ท่านย่า หลานสะใภ้ผิดไปแล้ว หลานสะใภ้ก็แค่... แค่พูดเร็วไปหน่อย"
“ฉี่เอ๋อร์ล่ะ เรียกฉีเอ๋อร์มา” ไทเฮาตะโกนด้วยความโกรธ
หลังจากนั้นไม่นาน หรงฉี่ก็เดินออกมาจากฝูงชน และคุกเข่าลงต่อหน้าไทเฮา “ท่านย่า”
“รีบไปดูแลลูกสะใภ้ของเจ้าให้ดีเถอะ ถ้ายังไม่สั่งสมคุณธรรมไว้ แล้วใครในเรือนหลังของเจ้าจะมอบทายาทให้แก่เจ้าได้” ไทเฮาสอนเขาด้วยความโกรธ
เนื่องจากการแท้งบุตรของไป๋จิ่น ทำให้ไทเฮาไม่พอใจกับจวนท่านอ๋องต้วนมาเป็นเวลานานแล้ว
หรงฉี่หันศีรษะและจ้องมองพระชายารองหวู่อย่างโหดเหี้ยม หน้าผากของนางยังคงอยู่ที่พื้น และนางยังคงรักษาท่าทางนั้น ไม่กล้าขยับ
หรงฉี่ก็อยากรู้อยากเห็นเช่นกัน ผู้หญิงคนนี้ปกติมักจะขี้อายมาก วันนี้นางมาที่ห้องโถงใหญ่เพื่อสร้างปัญหาได้อย่างไร นางต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ
ใช่ ผู้หญิงคนนี้บ้าอีกแล้ว !
“ท่านย่า พระชายารองหวู่เสียสติ ข้าเกรงว่าจะเป็นเพราะความวิกลจริตจนควบคุมตัวเองไม่ได้ จึงพูดจาหยาบคายออกมา” หรงฉี่กล่าว
“เสียสติหรือ?” หลวนอี๋หันศีรษะพูดอย่างโกรธเคือง “นางยังไม่หายเป็นปกติหรือ? ในตอนแรกพี่สะใภ้เจ็ดไม่ได้รับการวินิจฉัยว่าเสียสติ นางเพียงความจำเสื่อม หมอหลวงบอกว่าความจำเสื่อมไม่ได้เสียสติ ข้ากับจิ่งหลินและเซิงเอ๋อร์กำลังตั้งตะเกียงที่ริมทะเลสาบ แต่เพียงเพราะว่าเซิงเอ๋อร์ชนนางเข้าโดยบังเอิญ นางจึงผลักเด็กล้มลง และยังพูดหยาบคายกับนาง สรุปแล้วเป็นเพราะเสด็จพี่ห้าสั่งหรือว่าพระชายารองหวู่เสียสติไปแล้วจริง ๆ "
"หลวนอี๋ อาหารสามารถกินตามอำเภอใจได้ แต่คำพูดไม่สามารถพูดตามอำเภอใจได้นะ เมื่อครู่ข้าอยู่ด้วยกันกับหมอหลวงฮั่ว ข้าจะสั่งให้พระชายารงหวู่ตีเด็กทั้งสองได้อย่างไร" หรงฉี่โต้กลับด้วยใบหน้าที่แดง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...