แต่นางไม่ใช่คนที่พาลโกรธผู้อื่นง่าย ๆ
“พ่อบ้านฉี วันหน้าข้าไม่ขอพบนายของท่านอีก” ไป๋ชิงหลิงกล่าวน้ำเสียงเรียบเฉย
ใบหน้าของพ่อบ้านฉีปรากฏรอยยิ้มที่อ่อนโยน พลางเอ่ยขึ้นว่า “แม่นาง ท่านอย่าเพิ่งรีบร้อนเอ่ยออกมา บางครั้งโชคชะตามักเล่นตลก ข้าน้อยเห็นท่านอ๋องตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่ ท่านไม่ได้เลวร้ายเช่นนั้น ท่านอ๋องเป็นคนรักสันโดษ จวนอ๋องท่านอื่น ๆ ล้วนเต็มไปด้วยบรรดาอนุ มีเพียงจวนอ๋องหรงเท่านั้นที่สวนหลังบ้านยังคงเงียบเหงาอยู่ ท่านทะนุถนอมเอาใจใส่ซื่อจื่อ ข้าน้อยมั่นใจว่า หากวันใดที่ท่านอ๋องหรงเอ่ยปากต้องการแต่งพระชายาด้วยตนเองแล้วล่ะก็ ท่านจะต้องดูแลพระชายาของตนอย่างไม่ขาดตกบกพร่องแน่นอน”
มุมปากของไป๋ชิงหลิงยกขึ้น...
ทำไมนางกลับรู้สึกได้ถึงคำโฆษณาชวนเชื่อจากน้ำเสียงของพ่อบ้านฉีล่ะ
ยังไม่ทันได้ตอบกลับไป ไป๋ชงเซิงก็วิ่งออกมาจากด้านใน พร้อมร้องตะโกนโหวกเหวก “ท่านแม่ ท่านแม่”
“เซิงเอ๋อร์” ไป๋ชิงหลิงเดินเข้าไปหาอย่างรวดเร็วและอุ้มเด็กน้อยไว้ในอ้อมแขน
ซั่งมามาหายใจกระหืดกระหอบวิ่งตามออกมาจากด้านใน ในมือมีขนมอยู่ถุงหนึ่ง นางยัดใส่มือไป๋ชิงหลิง “นี่เป็นสิ่งที่ท่านอ๋องมอบให้เด็กน้อย แม่นางรับไว้ด้วยเถิด”
นางตั้งใจจะปฏิเสธ แต่ไป๋ชงเซิงคว้าถุงขนมเอาไปกอดไว้แน่นอย่างไม่เกรงใจ ทั้งยังพูดด้วยน้ำเสียงขึ้นจมูกว่า “ยังนับว่าเขามีมโนธรรม รู้จักตอบแทนบุญคุณ ท่านแม่ของข้าชอบตั๋วเงิน นางต้องลำบากมากในการรักษาบาดแผลซื่อจื่อของพวกท่าน พวกท่านก็ควรจะตอบแทนท่านแม่ของข้าด้วยตั๋วเงินสิ ไม่ต้องมากก็ได้ สักหนึ่งร้อยตำลึงทองก็ยังดี พวกท่านกลับไปเรียนนายของพวกท่านตามนี้นะ”
ในขณะที่นางพูด นางก็กินขนมไปด้วย ทำให้คำพูดของนางไม่ชัดไปบ้าง แต่โดยรวมทุกคนก็พอฟังเข้าใจ
สีหน้าของซั่งมามาตึงเครียด นางรู้สึกว่าเด็กน้อยผู้นี้ช่างไม่รู้ขนบธรรมเนียมมารยาทเลยแม้แต่น้อย แต่ตอนนี้เด็กน้อยจะไปจากจวนอ๋องแล้ว นางก็ไม่จำเป็นต้องใส่ใจอีกแล้ว
พ่อบ้านฉียังคงมีใบหน้ายิ้มแย้มต่อทุกคน เมื่อสิ้นคำพูดของเสี่ยวเซิงเอ๋อร์ เขารีบตอบกลับทันทีว่า “คุณหนูน้อยได้โปรดวางใจ คำพูดของท่าน ข้าน้อยจะเรียนให้ท่านอ๋องทราบ”
แต่จะทำจริงหรือไม่ นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ใครจะกล้าทาบรัศมีกับจวนอ๋องหรง ช่างไม่รักชีวิตตนเองเลยหรือไร
แน่นอนว่าไป๋ชิงหลิงก็คิดเช่นนั้น
นางมาที่จวนอ๋องหรงก็เพื่อซื้อชีวิตของตนเองคืน บัดนี้ชีวิตรักษาเอาไว้ได้แล้ว นางยังจะกล้ารับเงินจากอ๋องหรงอีกหรือ...
ตอนอยู่นอกเมืองฝั่งตะวันตก เขาทำให้มือข้างหนึ่งของนางเจ็บ ที่จวนอ๋องก็โดนทั้งสองข้าง พอกันที! เขาทำให้มือข้างหนึ่งของนางเจ็บ ที่จวนอ๋องก็โดนทั้งสองข้าง พอกันที!
นางยังต้องเหลือมือเอาไว้เพื่อออกเดินทางรักษาผู้คนไปทั่วหล้า
หลังจากไป๋ชิงหลิงอุ้มไป๋ชงเซิงขึ้นรถม้าไปแล้ว นางนำยาสองห่อส่งให้พ่อบ้านฉี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...