สรุปตอน บทที่ 30 เข้าประตูจวนโหวก็ยากจะออกได้ – จากเรื่อง ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น โดย พระจันทร์ขี้เมา
ตอน บทที่ 30 เข้าประตูจวนโหวก็ยากจะออกได้ ของนิยายการเกิดใหม่เรื่องดัง ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น โดยนักเขียน พระจันทร์ขี้เมา เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
คืนนั้น รถม้าของจวนอ๋องหรงมาส่งไป๋ชิงหลิงถึงที่บ้านพักส่วนตัวของนาง
เนื่องจากรถม้าสั่นสะเทือนบวกกับอาการบาดเจ็บ ทำให้ไป๋ชิงหลิงมีอาการไข้กลับ เมื่อมาถึงบ้านพัก นางจึงหมดสติไป
ถึงขนาดไม่รู้ว่าผู้ใดเป็นผู้พยุงนางลงมาจากรถม้า
นางหลับสนิท ไม่รับรู้เรื่องใด ๆ
นางฝันอยู่เรื่องเดียวซ้ำไปซ้ำมา
ในความฝัน เสี่ยวเซิงเอ๋อร์ของนางจับจูงมือเด็กอีกคนวิ่งเล่นไปในหุบเขาเซียนไหล
เด็กทั้งสองมีความสูงไล่เลี่ยกัน
ใส่เสื้อสีม่วงเหมือน ๆ กัน
ไป๋ชิงหลิงเดินเข้าไปหา นางเอามือแตะไหล่ของเด็กผู้ชาย ผลลัพธ์ก็เหมือนเมื่อครั้งแรก สิ่งที่เห็นคือใบหน้าอันเลือนรางของเด็กน้อย
ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ หากนางก็สัมผัสได้ว่า เด็กน้อยกำลังส่งยิ้มให้นางพลางตะโกนเรียกว่า “ท่านแม่”
นางเอื้อมมือไป อยากจะจับแก้มของเด็กน้อย หากทว่าเวลานี้จู่ ๆ ก็มีเสียงแหลมเล็กปลุกนางให้ตื่นขึ้น
นางลืมตาขึ้นในทันใด สิ่งที่เห็นคือ หน้าต่าง
มีท้องฟ้าสีครามและกลุ่มเมฆสีขาว อากาศภายนอกดีมาก
ใต้ขอบหน้าต่างมีโต๊ะเครื่องแป้งแกะสลักจากไม้แดง ม่านลูกปัดสีชมพูกั้นเตียงนอนออกจากห้องน้ำชา บริเวณทางเข้ามีโต๊ะกลมไม้แดงวางอยู่ด้านข้าง ส่วนมุมห้องประดับด้วยแจกันโบราณอีกหลายใบ
ตัวบ้านไม่ได้ใหญ่มาก หากตกแต่งเอาไว้อย่างน่ารัก เหมาะสำหรับเด็กผู้หญิงเป็นอย่างมาก
เศษเสี้ยวความทรงจำบางส่วนได้แวบผ่านสมองของไป๋ชิงหลิง
ที่แห่งนี้เป็นห้องนอนของเจ้าของร่างเดิมก่อนที่จะออกเรือน
แสดงว่าเวลานี้นางอยู่ที่จวนติ้งเป่ยโหว
“เอี๊ยด” เสียงเปิดประตูดังขึ้นมา
จื่ออีเดินเข้ามาจากทางด้านนอก เมื่อเห็นไป๋ชิงหลิงนั่งอยู่บนเตียง นางก็ดีใจมาก ดังนั้นแล้วจึงวางสิ่งของที่อยู่ในมือแล้วเดินเข้าไปหาไป๋ชิงหลิงโดยเร็ว
“แม่นาง ในที่สุดท่านก็ฟื้นแล้ว” นางเดินมาที่ด้านข้างของไป๋ชิงหลิง เอื้อมมือแตะหน้าผากของไป๋ชิงหลิงและกล่าวว่า "ไม่ร้อนเสียที ดีมากเลย แต่น่าเสียดายที่ท่านโหวออกไปอีกแล้ว"
เมื่อคิดถึงชายผู้นั้น ไป๋ชิงหลิงก็มีอาการปวดศีรษะขึ้นมา
“ข้าหลับไปนานมากกระนั้นหรือ”
“หกวัน หกวันเต็ม ๆ ที่ไม่ฟื้นตื่นขึ้นมาเลยเจ้าค่ะ” จื่ออีตกใจมาก
พวกนางปิดบังไป๋ชงเซิงมาตลอด
ทุกครั้งที่ไป๋ชงเซิงพูดว่าอยากจะเจอไป๋ชิงหลิง พวกนางจะบอกว่าไป๋ชิงหลิงเพิ่งหลับไป ไป๋ชงเซิงจะมองนางจากที่ข้างหน้าต่างแวบหนึ่ง ก่อนจะไปเล่นกับตัวเองอย่างเชื่อฟัง
“คุณหนูน้อยไม่ทราบว่าแม่นางหมดสติมาโดยตลอด ยามที่ท่านโหวมีเวลาก็จะพาคุณหนูน้อยไปเดินเล่น เพื่อหันเหความสนใจของคุณหนูน้อยเจ้าค่ะ” จื่ออีกล่าว
ไป๋ชิงหลิงแอบตกใจ นางหลับไปหกวันแล้ว!
“เซิงเอ๋อร์ล่ะ” ตอนไป๋ชิงหลิงตื่นขึ้นมาก็ไม่เห็นเด็กน้อยแล้ว
จื่ออีกล่าวว่า “ลี่ว์อีและชิงอีพาออกไปเดินเล่นเจ้าค่ะ เมื่อสักครู่ยังโหวกเหวกจะพูดคุยกับแม่นางให้ได้ โชคดีที่ท่านโหวได้ให้ว่าวกับนางก่อนที่ท่านโหวจะจากไป คุณหนูน้อยจึงไปหาที่เล่นว่าวแล้วเจ้าค่ะ"
และในเวลานี้เองก็ได้มีเสียงตวาดดังมาจากทางนอกเรือน…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...