ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 294

สรุปบท บทที่ 294 พระชายารองหวู่ก่อเรื่อง: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น

สรุปตอน บทที่ 294 พระชายารองหวู่ก่อเรื่อง – จากเรื่อง ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น โดย พระจันทร์ขี้เมา

ตอน บทที่ 294 พระชายารองหวู่ก่อเรื่อง ของนิยายการเกิดใหม่เรื่องดัง ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น โดยนักเขียน พระจันทร์ขี้เมา เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ในตอนที่ไป๋ชิงหลิงได้ยินคำพูดนี้นั้น ไม่รู้ว่าต้องทำตัวยังไง

ชีวิตที่น่าสงสารของเด็กหนึ่ง ถึงแม้จะต้องพนันด้วยชีวิตของตนเองก็ต้องช่วยชีวิตจิ่งหลินให้ได้

เธอกอดคอของเขาไว้ แล้วกดเขาเอาไว้ใต้ร่าง แยกนิ้วเขาออกเล็กน้อย ริมฝีปากแดงระเรื่อแนบชิดไปกับริมฝีปากบางของเขา

ลมพัดผ่านเข้ามาทางหน้าต่าง ปัดเป่าเทียนที่อยู่บนโต๊ะจนดับ และมีเสียง“เอี๊ยดอ๊าด”ดังมาจากเตียง

เสียงครางของหญิงสาวดังมาจากในด้านผ้าม่านเตียง

พอฟ้าสว่าง หรงเยี่ยก็ไม่อยู่ในห้องแล้ว

ขณะที่จื่ออีกับชิงอีเข้ามาปรนนิบัติรับใช้นั้น สีหน้าดูลำบากเป็นอย่างมาก เพียงแค่แวบเดียวไป๋ชิงหลิงก็ดูออกได้ทันทีว่าหญิงรับใช้ทั้งสองผิดปกติ

“เป็นอะไรไป?”

จื่ออีกับชิงอีสบตากัน สีหน้าทั้งสองคนดูหนักใจเป็นอย่างมาก

ในใจไป๋ชิงหลิงอึมครึมเล็กน้อย เธอถาม:“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

“หม่อมฉันพูดเองเพคะ” ชิงอีวางอ่างล้างหน้าลง แล้วพูดด้วยความโมโห:“วันนี้ช่วงที่ฟ้ายังไม่สว่าง พระชายารองหวู่มายืนอยู่หน้าจวนท่านอ๋องหรงเพคะ”

ไป๋ชิงหลิงขมวดคิ้ว

ชิงอีพูดต่อ:“นางจะยืนก็ยืนสิเพคะ เหตุใดต้องวิ่งโร่มายืนที่หน้าจวนท่านอ๋องหรงด้วย คนรับใช้ของท่านอ๋องหรงเลยเข้าไปถามนาง พระชายารองหวู่นางก็บอกว่าตนเองไม่มีหน้าจะไปเจอพระชายาหรง แต่ว่าไม่มีหน้าก็ส่วนไม่มีหน้าสิเพคะ จะมาเดินเพ่นพ่านแถวจวนท่านอ๋องทำไม คนที่เฝ้าหน้าประตูเลยไปบอกกับพ่อบ้านฉี พ่อบ้านฉีไม่ทันได้สวมชุดให้เรียบร้อย ก็รีบวิ่งออกไปเลยเพคะ พ่อบ้านฉีเชิญพระชายารองหวู่เข้าไปนั่งในจวน พระชายารองหวู่ก็พูดว่า ไม่ล่ะ เกรงว่าจะรบกวนเวลาพักผ่อนของพระชายาหรง นางเลยเลือกที่จะรอพระชายาหรงตื่นก่อน แล้วค่อยรายงานพระชายาหรง นางเลยรออยู่ที่หน้าประตู......”

พูดถึงตรงนี้ ชิงอีก็โมโหจนแทบบ้า

จื่ออีก็คล้อยตามพร้อมพยักหน้าเช่นกัน

ไป๋ชิงหลิงเห็นว่าทั้งสองโมโหขนาดนี้ คิดว่าเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ

“จื่ออี เจ้าพูดต่อ” ไป๋ชิงหลิงถาม

จื่ออีขึ้นไปด้านหน้าแล้วจับเสื้อผ้าของเธอ เพื่อแสดงถึงการขอความกรุณา แล้วพูดด้วยท่าทีโกรธเคือง:“พ่อบ้านฉีเชิญนางเข้าไปไม่ได้ เลยไปหาแม่นมซั่งเพคะ เพราะว่าตอนนั้น ท่านอ๋องและพระชายาต่างก็กำลังพักผ่อนอยู่ แต่กว่าจะรอแม่นมซั่งออกมา พระชายารองหวู่ก็ทำท่ากุมท้อง จนถูกคนของจวนท่านอ๋องต้วนพยุงขึ้นรถม้าไปแล้วเพคะ”

“จวนท่านอ๋องหรงอยู่ติดกับถนนใหญ่ มีชาวบ้านเดินไปเดินมากันให้ควั่ก หม่อมฉันเห็นพระชายารองหวู่ยืนขอเข้าพบพระชายาหรงที่หน้าจวนท่านอ๋องหรงตั้งแต่เช้าตรู่แล้วเพคะ แต่ว่า ชาวบ้านพวกนั้นพูดกันว่า......”

“พูดกันว่าพระชายาหรงจิตใจอำมหิต ทั้งๆที่พระชายารองหวู่ตั้งครรภ์อยู่แต่ก็ไม่สนใจ ให้นางยืนอยู่หน้าจวนหลายชั่วยาม ใช่ไหม?” ไป๋ชิงหลิงพูดต่อจากจื่ออี

จื่ออีนิ่งอึ้งไป เงยหน้ามองเธออย่างเงียบๆ

ชิงอีเดินเข้ามา พูดด้วยความโมโห:“ใช่เพคะ พอฟ้าสว่างหม่อมฉันก็ออกไปซื้อของกับจื่ออี ตอนที่กลับมานั้นก็เห็นว่าหน้าประตูจวนท่านอ๋องหรงมีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งล้อมอยู่ พวกเขาบอกว่าทั้งๆที่ลูกทั้งสองคนของพระชายากลับมาโดยไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร แต่กลับไม่ยอมปล่อยพระชายารองหวู่เพราะเรื่องนี้ ด่าพระชายาอำมหิต แม้แต่หญิงตั้งครรภ์ก็ไม่เว้นเพคะ”

หญิงตั้งครรภ์!!

พระชายารองหวู่พึ่งจะประกาศว่าตั้งครรภ์ไม่นาน คิดไม่ถึงว่าชาวบ้านจะรู้ข่าวไวขนาดนี้ แค่คืนเดียว ก็ทะลุปรุโปร่งเรื่องเมื่อคืนที่เกิดขึ้นในวังแล้ว

ถ้าบอกเบื้องหลังไม่มีคนช่วย เธอคงไม่เชื่อ

ดูเหมือนว่า......มีคนต้องการจะลงมือกับเธอแล้วสินะ

พ่อบ้านฉีพูดสีหน้าเคร่งเครียด:“พระชายารองหวู่ท่าทางเป็นมิตรมากพ่ะย่ะค่ะ ท่านมาขออภัยพระชายาเรื่องเมื่อคืน ที่เกือบทำร้ายองค์หญิงน้อยกับซื่อจื่อน้อย แถมยังบอกว่าต้องการจะพบพระชายาด้วยตนเอง เพื่อจะขอโทษต่อหน้าพระชายาพ่ะย่ะค่ะ”

แม่นมซั่งได้ยินคำพูดนี้ ก็ขมวดคิ้วด้วยความรังเกียจ:“พระชายารองหวู่คิดจะฆ่าพระชายาของพวกเราน่ะสิ”

“ก็นั่นน่ะสิ ข้ากับจื่ออีกลับมาจากซื้อของด้านนอกพอดี ชาวบ้านที่อยู่ข้างนอกพวกนั้นพูดไม่เข้าหูเลยสักนิด ตอนนี้พระชายาพวกเรากลายเป็นคนไม่ดีไปแล้ว ส่วนพระชายารองหวู่คือผู้บริสุทธิ์ น่าโมโหเสียจริง” ชิงอีพูดด้วยความโกรธแค้น

ไป๋ชิงหลิงพลิกดูบัญชีไปด้วย ฟังที่พ่อบ้านฉีพูดไปด้วย

ความสามารถในการทำบัญชีของพ่อบ้านฉีนั้นละเอียดรอบคอบ

สุดท้าย เธอกลับเห็นคำสามคำ คำว่า“หอหลิวเหยียน”ในหน้าที่สาม

ช้าก่อน!

หอหลิวเหยียน!

“หอหลิวเหยียนก็เป็นสมบัติของท่านอ๋องเหมือนกันงั้นหรือ?” เธอถามด้วยความตกใจ

พ่อบ้านฉีได้สติกลับมาจากเรื่องของพระชายารองหวู่ เดินมาข้างหน้าเพื่อดู แล้วยิ้ม:“หอหลิวเหยียนเป็นสมบัติของท่านอ๋องก็จริง แต่ว่า......ในเมืองหลวงไม่มีใครทราบเรื่องนี้พ่ะย่ะค่ะ พวกเขาทราบแค่เบื้องหลังเจ้าของของหอหลิวเหยียนนั้นค่อนข้างมีอิทธิพล พระชายา มีปัญหาอะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ?”

มีสิ!

มีอย่างแน่นอน!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น