ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 296

พูดจบ ไป๋ชิงหลิงก็พูดเพิ่มอีกประโยค:“วันนี้เจ้ามาพูดคุยกับพระชายารองหวู่ที่นี่ เพื่อยืนยันว่านางคิดจะขอโทษข้าจริงๆ หรือแสร้งทำไม่ใช่หรือ? เช่นนั้นเจ้ายืนยันไหมล่ะ?”

เสิ่นหรูเหลียนถูกเธอถามเช่นนี้ ก็นิ่งเงียบสนิท

เขาเหลือบมองหญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขาอย่างอึ้งๆ

วันนี้เธอไม่ได้พกผ้าคลุมหน้ามาด้วย บนหน้าก็ไม่ได้แต่งหน้าเติมแป้งอะไรมากมาย แต่ใบหน้านั้นกลับขาวเนียนละเอียดราวกับทาแป้งเพิ่ม นัยน์ตาสดใส

มองจนเขาพูดไม่ออก

ลูกกระเดือกเขาเคลื่อนไหวอยู่หลายครั้ง เลยหยิบแก้วชาขึ้นมาดื่มอึกหนึ่ง:“ข้าเห็นนางเติบโตมาตั้งแต่ข้าอายุยังน้อย มองนางเหมือนเป็นน้องสาว ก่อนที่พี่ชายนางจะออกจากเมืองหลวง ก็ฝากให้ข้าช่วยดูแล ในเมื่อนางพูดเช่นนี้ ก็คง......อยากจะไปขอโทษพระชายาหรงจริงๆพ่ะย่ะค่ะ”

ไป๋ชิงหลิงหัวเราะเยาะเบาๆ:“แม่ทัพเสิ่นไม่ได้เจอพระชายารองหวู่มากี่ปีแล้ว?”

อึก......

คำถามนี้ทำเอาเสิ่นหรูเหลียนไปไม่เป็น

เขาพึ่งจะกลับเมืองหลวงมาสองปี ยิ่งตอนนั้นมีข่าวลือว่าอาการบ้าของพระชายารองหวู่กำเริบ ถูกส่งเข้าเรือนวิปลาสอีก

เขาเพียงแค่มาเยี่ยมเธอ ได้พูดคุยกับเธอเพียงแค่ไม่กี่ครั้งเอง

“แล้วนี่มีปัญหาอะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ?”

“ปัญหาก็อยู่ที่ เวลาเปลี่ยน ใจคนก็เปลี่ยน พระชายารองหวู่ที่เจ้ารู้จักในตอนเด็ก อาจจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคนแล้วก็ได้ แม้แต่ตัวเจ้าเองยังไม่แน่ใจเลยว่านางอยากจะขอโทษข้าจริงๆหรือเปล่า”

“ไม่หรอกพ่ะย่ะค่ะ” เสิ่นหรูเหลียนกำแก้วชาแน่น ไม่ว่าใครเขาก็ไม่เชื่อว่าหวู่ไหวเมิ่งกลายเป็นคนไม่ดีไปแล้ว ในสายตาเขานางก็คือน้องสาวที่จิตใจดีมาตลอด

และไป๋ชิงหลิงก็มองเห็นถึงความมั่นใจ ความยืนหยัดในแววตาของเขา

เธอหรี่ตาลงทั้งสองข้าง แล้วถามกลับ:“เช่นนั้นถ้าหากว่า......พระชายารองหวู่มีคำพูดที่ปิดบังไว้ หรือว่าถูกคน......ขู่บังคับล่ะ?”

เสิ่นหรูเหลียนกลอกตาไปมาเล็กน้อย จู่ๆในสมองก็เกิดสั่นคลอน นึกถึงใครคนหนึ่งขึ้นมาทันที

มีแค่คนคนนั้นที่ขู่บังคับเธอได้

“แม่ทัพเสิ่น บอกสิ่งที่เจ้ารู้มาให้ข้าฟังได้หรือไม่ สำหรับข้าแล้วมันสำคัญมาก ตอนนี้ข้าเหมือนตกลงไปในหลุม แถมยังไม่รู้จุดประสงค์ของคนร้ายอีกด้วย” ไม่ใช่เธอไม่เชื่อเสิ่นหรูเหลียน เพียงแต่กลัวว่าเสิ่นหรูเหลียนจะเชื่อใจผิดคน

เธอไม่ได้มีความขัดแย้งอะไรกับพระชายารองหวู่ ฉะนั้นเธอไม่มีเหตุผลที่ต้องจัดการนาง

จะว่าไป เธอควรเป็นผู้มีพระคุณของพระชายารองหวู่ด้วยซ้ำ ถ้าหากไม่มีเธอตรวจชีพจรและแก้ปัญหาอาการป่วยให้นาง เด็กในท้องนางคงไม่มีทางรอด

เสิ่นหรูเหลียนลังเล:“ตอนนี้กระหม่อมเพียงแค่คาดเดา พระชายาให้เวลากระหม่อมอีกหน่อยเถอะพ่ะย่ะค่ะ”

พูดจบ เขาก็หยิบดาบที่วางไว้ด้านข้าง แล้วลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว คำนับทำความเคารพไป๋ชิงหลิง แล้วออกไปอย่างรีบร้อน

เขาต้องไปยืนยันเรื่องหนึ่ง

คำพูดของไป๋ชิงหลิงได้เตือนสติเขา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น