ไป๋ชิงหลิงลุกขึ้นยืน แล้วเดินมาตรงหน้าอีผิงถิง
อีผิงถิงเรียกด้วยความตื่นเต้น:“แม่นางไป๋”
“บังอาจ” หงเหนียงหน้าแดงก่ำ ตำหนิด้วยความโกรธ:“ยังไม่ทำความเคารพพระชายาหรงอีก”
รอยยิ้มบนใบหน้าของอีผิงถิงแข็งเล็กน้อย แล้วรีบก้มศีรษะถอนสายบัว ทำความเคารพพร้อมกันกับบรรดาหมอหญิงคนอื่นๆ:“ข้าน้อยถวายบังคมพระชายาหรงเพคะ”
“ไม่ต้องมากพิธีหรอก”
“ขอบพระทัยเพคะพระชายาหรง”
บรรดาหมอหญิงต่างก็ยืนขึ้นเรียบร้อย แต่ละคนเก็บกรามล่าง สายตานอบน้อม เห็นได้ชัดว่าผ่านการอบรมที่เข้มงวดมาแล้ว
กฎนี้เป็นกฎในวังที่ทำตามกัน
ไป๋ชิงหลิงยืนอยู่ที่หัวแถว กวาดสายตาสอดส่องหญิงสาวทุกคนอย่างรวดเร็ว
ในบรรดาพวกเขา คนที่อายุมากที่สุดไม่เกินยี่สิบเก้า ส่วนอายุน้อยที่สุดคือสิบเอ็ดปี
เธอยกมือขึ้น แล้วเรียกอีผิงถิงให้มาหา อีผิงถิงมองเธอด้วยสีหน้ามึนงง
หงเหนียงพูดด้วยอย่างเคร่งขรึม:“ไปยืนหลังพระชายา”
“ค่ะ” อีผิงถิงรีบเดินไปที่ว่างด้านหลังไป๋ชิงหลิง
เวลานี้ ไป๋ชิงหลิงก็เลือกหมอหญิงออกมาหกคน จากในบรรดาหมอหญิงที่เหลือสิบเก้าคน
คนที่อายุมากสุดยี่สิบเก้า คนที่อายุน้อยสุดสิบเอ็ด ส่วนสี่คนที่เหลืออายุอยู่ที่ประมาณสิบหกถึงยี่สิบปี
เธอยังต้องหาอีกหนึ่งคน
ทว่าคนที่เหลือในบรรดาคนพวกนี้นั้น กลับไม่มีคนที่เธอพอใจ
และในเวลานี้ หญิงสาวที่หน้าตาสวยสดงดงามคนหนึ่ง จู่ๆก็เดินขึ้นมาข้างหน้า
หงเหนียงตกใจ แล้วรีบยกมือห้ามไว้ทันที:“กลับไป”
อวิ๋นมู่เอ๋อร์คุกเข่าลงบนพื้น แล้วพนมมือทั้งสองขึ้น:“พระชายาเพคะ พระชายาลองดูหน่อยว่าหม่อมฉันเหมาะสมหรือไม่เพคะ หม่อมฉันอยากเรียนวิชาแพทย์กับพระชายา”
ก่อนที่พวกเธอจะได้เจอกับไป๋ชิงหลิง หงเหนียงเคยพูดกับพวกเธอไว้แล้ว ว่านายท่านหญิงของหอหลิวเหยียนต้องการจะฝึกอบรมหมอหญิงในหอหลิวเหยียน
พอเธอได้รู้จักถึงฐานะที่แท้จริงของไป๋ชิงหลิง อวิ๋นมู่เอ๋อร์ก็เกิดความมุ่งมั่นขึ้นมา
พระชายาหรงเป็นถึงหมอปีศาจเชียวนะ เรียนวิชาแพทย์กับหมอปีศาจต้องได้วิชามากมายแน่นอนอยู่แล้ว ที่สำคัญก็คือ......
“เจ้าไม่เหมาะสม!” ทันใดนั้น น้ำเสียงเย็นชาก็ดังขึ้นอย่างฉับพลัน ทำให้อวิ๋นมู่เอ๋อร์ได้สติกลับมา
เธอเงยหน้ามองไป๋ชิงหลิง ถามอย่างไม่ยอมแพ้:“พระชายาตัดสินข้าน้อยว่าไม่เหมาะสมยังไงหรือเพคะ”
ไป๋ชิงหลินเดินขึ้นมาข้างหน้าหนึ่งก้าว สายตามองไปที่ร่างของอวิ๋นมู่เอ๋อร์ แม่นางคนนี้ไม่ได้สวยอะไรมากมาย เพียงแค่สวยคนละแบบกับคนอื่นๆ ถ้าหากพูดถึงหน้าตาส่วนไหนโดดเด่นที่สุด คงจะเป็นดวงตาทั้งสองข้างของเธอ
ดวงตาคู่นี้กลมมนราวกับละอองน้ำ ดูแล้วเหมือนน้ำตาคลอ เห็นแล้วก็อดสงสารไม่ได้
เมื่อครู่ตอนที่เธอคัดเลือกหมอหญิงนั้น ก็สังเกตเห็นหญิงสาวคนนี้แล้ว สายตาเธอกลอกไปมาบ่อยๆ สีหน้าเต็มไปด้วยความมั่นใจและท่าทางโอหัง ดูแล้วฉลาดหลักแหลม แต่กลับเป็นคนที่ถือดี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...