ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 299

สรุปบท บทที่ 299 พวกเราเรียนวิชาแพทย์ แต่ทำไมต้องไปอี้จวง: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น

สรุปตอน บทที่ 299 พวกเราเรียนวิชาแพทย์ แต่ทำไมต้องไปอี้จวง – จากเรื่อง ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น โดย พระจันทร์ขี้เมา

ตอน บทที่ 299 พวกเราเรียนวิชาแพทย์ แต่ทำไมต้องไปอี้จวง ของนิยายการเกิดใหม่เรื่องดัง ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น โดยนักเขียน พระจันทร์ขี้เมา เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

การทดสอบครั้งนี้ ถ้าแม้แต่ศพพวกเธอยังกลัว วันหน้าคงไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่จะผ่าตัดให้ผู้ป่วย

บางทีมีดยังยกไม่ทันขึ้น พวกเขาก็ถูกคนเป็นๆที่นอนอยู่ตรงหน้าทำให้ตกใจเสียก่อนแล้ว

หมอหญิงที่อายุมากที่สุดกัดฟัน แล้วยกมือขึ้น เดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว

ไป๋ชิงหลิงถามกลับ:“เจ้าจะยอมแพ้งั้นหรือ?”

“ไม่ใช่เพคะ ข้าน้อยแค่อยากถามให้แน่ใจ ไปอี้จวงครั้งนี้เกี่ยวข้องกับการเรียนวิชาแพทย์ใช่หรือไม่เพคะ รวมถึงการที่ให้พวกเราตรวจสอบฐานะของศพที่ตาย ติดต่อกับญาติผู้ตาย ซื้อศพ แล้วก็นำศพกลับมาด้วย” ซีเหมินฮว๋าถาม

เธอกลัวที่จะไปอี้จวงจริงๆ เพราะอายุก็เยอะมากแล้ว ถึงแม้ว่าจะกลัว แต่ก็ไม่อยากยอมแพ้ไปทั้งเช่นนี้

เชื่อว่าหมอหญิงที่เข้ามาทำงานด้านนี้ทั้งหมด ต่างก็มีจุดประสงค์เดียวกันคือหมอปีศาจ

ไป๋ชิงหลิงบอกพวกเขาอย่างชัดจน:“ใช่ สิ่งที่ข้ากำชับให้พวกเจ้าทำล้วนเกี่ยวข้องกับวิชาแพทย์ การไปอี้จวงก็แค่ด่านแรกเท่านั้น วันหน้าพวกเจ้ายังต้องทำงานคู่กับศพทุกวัน พวกเจ้าคิดว่า......คนเป็นๆจะให้พวกเจ้าได้ฝึกฝีมือกับร่างกายของเขางั้นหรือ?”

ทุกคนต่างก็เงียบกันหมด

มันก็เป็นไปไม่ได้จริงๆนั่นแหละ

ที่คนเป็นๆจะเต็มใจให้เด็กใหม่ผ่าตัด

แต่พวกเธอคิดว่า เหมือนตนเองกำลังจะทำการชันสูตรศพ เลยยากที่จะเข้าใจ

ไป๋หมิงฮุ่ยเข้าใจความหมายของไป๋ชิงหลิงเป็นคนแรก:“พระชายาเพคะ ข้าเข้าใจแล้ว ข้าเต็มใจที่จะไปอี้จวง แต่ว่าไม่จำเป็นต้องสองคนก็ได้เพคะ ข้าไปคนเดียวได้”

อีผิงถิงรีบจับมือเธอไว้:“เสี่ยวฮุ่ย พวกเรากลุ่มเดียวกัน เจ้าอย่าทิ้งข้าสิ พวกเราจะไปอี้จวงที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวงเพคะ”

“ดี พวกเจ้าจัดการเองเลย ถ้าหากต้องการสละสิทธิ์ก็บอกข้าได้เลยตั้งแต่ตอนนี้ ข้าจะจัดการให้พวกเจ้าไปที่อื่น แต่คนที่ยังอยู่ ข้าจะถ่ายทอดวิชาแพทย์ให้พวกเจ้าด้วยตัวข้าเองอย่างแน่นอน”

ขณะที่ไป๋ชิงหลิงพูดจบประโยคแรก ก็มีคนจำนวนกว่าครึ่งคิดจะสละสิทธิ์แล้ว แต่พอเธอพูดจบประโยคหลัง ทุกคนต่างก็กดความคิดที่จะสละสิทธิ์เอาไว้

ซีเหมินฮว๋ากลับไปเข้าแถวดังเดิม ไม่ได้พูดอะไรอีก

ไป๋ชิงหลิงมองพวกเธอด้วยความพอใจ:“ไม่สละสิทธิ์จริงๆหรือ?”

“ไม่สละสิทธิ์เพคะ!” ทั้งหมดคนพูดเป็นเสียงเดียวกัน

“ไปถึงอี้จวงแล้ว พวกเจ้าอาจจะเจอกับพวกผีสางนางไม้ แถมยังต้องเผชิญหน้ากับศพที่อาจจะพิการหรือสภาพยับเยิน ไม่กลัวหรือ?”

“มะมะ…...ไม่กลัวเพคะ!” พูดถึงคำว่า“ไม่กลัว”สองคำนี้ จิตใจของพวกเธอก็เริ่มผวาขึ้นมาอีกครั้ง

มีแค่ไป๋หมิงฮุ่ยกับอีผิงถิงที่ตอบได้ชัดเจนได้ที่สุด

แปดคน มีแค่สองคนที่มีความมั่นใจมากที่สุด ไป๋ชิงหลิงคิดว่าก็ไม่เลวเท่าไหร่

เธอคาดเดาถึงคนที่เหลืออยู่ในวันพรุ่งนี้ คงไม่เกินครึ่งเป็นแน่

“นางเรียนกับใคร?”

“คนที่พระชายาพึ่งปฏิเสธไปเมื่อครู่เพคะ นางชื่ออวิ๋นมู่เอ๋อร์ เป็นหมอหญิงที่โดดเด่นในหอหลิวเหยียนของพวกเรา แต่ก็......ไม่ใช่คนที่ซื่อตรงอะไรหรอกเพคะ คิดแต่จะเข้าหาคนที่มีอำนาจ เพื่อยกระดับตนเอง ใฝ่สูงอยากจะเป็นฮูหยินฐานะสูงส่งเพคะ” หงเหนียงกล่าว

ไป๋ชิงหลิงยกมือขึ้นมาจัดมวยผมของตนเอง จื่ออีเดินขึ้นมาข้างหน้า แล้วกระซิบที่ข้างหูไป๋ชิงหลิง:“เมื่อครู่หลังจากที่พระชายาปฏิเสธอวิ๋นมู่เอ๋อร์ หม่อมฉันเห็นสายตาของอวิ๋นมู่เอ๋อร์เปลี่ยนไปเพคะ ดูท่าทางไม่ใช่คนที่ซื่อตรงอะไร นางน่าจะแค้นพระชายาที่ไม่ได้เลือกนาง”

“เข้าใจแล้ว” ไป๋ชิงหลิงนั้นให้ความสำคัญกับแปดคนที่เหลืออยู่มากกว่า ว่าจะมีสักกี่คนที่สามารถบ่มเพาะได้:“พ่อบ้านฉี เจ้าส่งคนไปจับตาดูพวกเขาแปดคนหน่อย ถ้าไม่ไหวล่ะก็ ให้คนไปพาพวกเขาออกจากอี้จวงได้เลย ไม่จำเป็นต้องฝืน”

“กระหม่อมทราบแล้วพ่ะย่ะค่ะ” พ่อบ้านฉีตอบรับ

ไป๋ชิงหลิงกำชับอีกไม่กี่ประโยค แล้วเดินออกจากห้อง ทว่าในตอนที่เธอเดินผ่านชั้นสองนั้น ก็ได้ยินเสียงด่าทอด้วยความโมโหมาจากชั้นสองห้องที่สาม

“สมุนไพรไป๋จื่อกับไป๋จู๋เจ้ายังแยกไม่ออก ข้าล่ะไม่เคยเห็นเด็กฝึกคนไหนที่โง่เท่าเจ้าเช่นนี้มาก่อน เจ้าว่าเจ้าไปเรียนกับพระชายาหรงแล้วจะทำอะไรได้ วิชาแพทย์ท่านเหนือชั้นขนาดนั้น เจ้าตามทันเวลาที่พระชายาหรงสอนหรือไง?” เสียงของอวิ๋นมู่เอ๋อร์ดังมาพอดี

หงเหนียงที่ตามหลังไป๋ชิงหลิงมา สีหน้าเปลี่ยนไปทันที

ปกติแล้วอวิ๋นมู่เอ๋อร์รุนแรงกับเด็กฝึกมาก นางมักจะก่นด่าเรื่องที่ไม่ได้ดั่งใจนาง

คำพูดที่พูดออกมานั้น ไม่น่าฟังเลยสักนิด

แต่เธอไม่คิดว่า นางจะกล้าแสดงอาการโกรธเช่นนี้ต่อหน้าพระชายาหรง......

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น