การทดสอบครั้งนี้ ถ้าแม้แต่ศพพวกเธอยังกลัว วันหน้าคงไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่จะผ่าตัดให้ผู้ป่วย
บางทีมีดยังยกไม่ทันขึ้น พวกเขาก็ถูกคนเป็นๆที่นอนอยู่ตรงหน้าทำให้ตกใจเสียก่อนแล้ว
หมอหญิงที่อายุมากที่สุดกัดฟัน แล้วยกมือขึ้น เดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว
ไป๋ชิงหลิงถามกลับ:“เจ้าจะยอมแพ้งั้นหรือ?”
“ไม่ใช่เพคะ ข้าน้อยแค่อยากถามให้แน่ใจ ไปอี้จวงครั้งนี้เกี่ยวข้องกับการเรียนวิชาแพทย์ใช่หรือไม่เพคะ รวมถึงการที่ให้พวกเราตรวจสอบฐานะของศพที่ตาย ติดต่อกับญาติผู้ตาย ซื้อศพ แล้วก็นำศพกลับมาด้วย” ซีเหมินฮว๋าถาม
เธอกลัวที่จะไปอี้จวงจริงๆ เพราะอายุก็เยอะมากแล้ว ถึงแม้ว่าจะกลัว แต่ก็ไม่อยากยอมแพ้ไปทั้งเช่นนี้
เชื่อว่าหมอหญิงที่เข้ามาทำงานด้านนี้ทั้งหมด ต่างก็มีจุดประสงค์เดียวกันคือหมอปีศาจ
ไป๋ชิงหลิงบอกพวกเขาอย่างชัดจน:“ใช่ สิ่งที่ข้ากำชับให้พวกเจ้าทำล้วนเกี่ยวข้องกับวิชาแพทย์ การไปอี้จวงก็แค่ด่านแรกเท่านั้น วันหน้าพวกเจ้ายังต้องทำงานคู่กับศพทุกวัน พวกเจ้าคิดว่า......คนเป็นๆจะให้พวกเจ้าได้ฝึกฝีมือกับร่างกายของเขางั้นหรือ?”
ทุกคนต่างก็เงียบกันหมด
มันก็เป็นไปไม่ได้จริงๆนั่นแหละ
ที่คนเป็นๆจะเต็มใจให้เด็กใหม่ผ่าตัด
แต่พวกเธอคิดว่า เหมือนตนเองกำลังจะทำการชันสูตรศพ เลยยากที่จะเข้าใจ
ไป๋หมิงฮุ่ยเข้าใจความหมายของไป๋ชิงหลิงเป็นคนแรก:“พระชายาเพคะ ข้าเข้าใจแล้ว ข้าเต็มใจที่จะไปอี้จวง แต่ว่าไม่จำเป็นต้องสองคนก็ได้เพคะ ข้าไปคนเดียวได้”
อีผิงถิงรีบจับมือเธอไว้:“เสี่ยวฮุ่ย พวกเรากลุ่มเดียวกัน เจ้าอย่าทิ้งข้าสิ พวกเราจะไปอี้จวงที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวงเพคะ”
“ดี พวกเจ้าจัดการเองเลย ถ้าหากต้องการสละสิทธิ์ก็บอกข้าได้เลยตั้งแต่ตอนนี้ ข้าจะจัดการให้พวกเจ้าไปที่อื่น แต่คนที่ยังอยู่ ข้าจะถ่ายทอดวิชาแพทย์ให้พวกเจ้าด้วยตัวข้าเองอย่างแน่นอน”
ขณะที่ไป๋ชิงหลิงพูดจบประโยคแรก ก็มีคนจำนวนกว่าครึ่งคิดจะสละสิทธิ์แล้ว แต่พอเธอพูดจบประโยคหลัง ทุกคนต่างก็กดความคิดที่จะสละสิทธิ์เอาไว้
ซีเหมินฮว๋ากลับไปเข้าแถวดังเดิม ไม่ได้พูดอะไรอีก
ไป๋ชิงหลิงมองพวกเธอด้วยความพอใจ:“ไม่สละสิทธิ์จริงๆหรือ?”
“ไม่สละสิทธิ์เพคะ!” ทั้งหมดคนพูดเป็นเสียงเดียวกัน
“ไปถึงอี้จวงแล้ว พวกเจ้าอาจจะเจอกับพวกผีสางนางไม้ แถมยังต้องเผชิญหน้ากับศพที่อาจจะพิการหรือสภาพยับเยิน ไม่กลัวหรือ?”
“มะมะ…...ไม่กลัวเพคะ!” พูดถึงคำว่า“ไม่กลัว”สองคำนี้ จิตใจของพวกเธอก็เริ่มผวาขึ้นมาอีกครั้ง
มีแค่ไป๋หมิงฮุ่ยกับอีผิงถิงที่ตอบได้ชัดเจนได้ที่สุด
แปดคน มีแค่สองคนที่มีความมั่นใจมากที่สุด ไป๋ชิงหลิงคิดว่าก็ไม่เลวเท่าไหร่
เธอคาดเดาถึงคนที่เหลืออยู่ในวันพรุ่งนี้ คงไม่เกินครึ่งเป็นแน่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...