ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 300

สรุปบท บทที่ 300 รับไป๋หมิงฮุ่ยเป็นศิษย์: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น

บทที่ 300 รับไป๋หมิงฮุ่ยเป็นศิษย์ – ตอนที่ต้องอ่านของ ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น

ตอนนี้ของ ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น โดย พระจันทร์ขี้เมา ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายการเกิดใหม่ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 300 รับไป๋หมิงฮุ่ยเป็นศิษย์ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

สีหน้าของหงเหนียงเปลี่ยนไปด้วยความโกรธ:“ข้าน้อยจะไปพูดเองเพคะ”

“เจ้าไปเรียกไป๋เสี่ยวฮุ่ยมา บอกนางว่า ข้าจะรอนางที่รถม้า”

“เพคะ” หงเหนียงรีบเดินไปยังห้องที่สามชั้นสอง ไป๋ชิงหลิงกับจื่ออีเดินออกจากโรงหมอ

ส่วนพ่อบ้านฉีอยู่ที่นี่ต่อ

หลังจากที่ไป๋ชิงหลิงขึ้นรถม้าได้ไม่นาน ไป๋หมิงฮุ่ยมองขึ้นไปบนรถม้าด้วยนัยน์ตาสองข้างที่แดงก่ำ แต่หลังจากที่ขึ้นรถม้าไปแล้ว ไป๋หมิงฮุ่ยกลับยืนค้างอยู่ไม่กล้าเข้าไปนั่ง

เธอปาดน้ำตาที่หางตา แล้วทำความเคารพไป๋ชิงหลิง:“ข้าน้อยถวายบังคมพระชายาเพคะ”

“นั่งสิ”

“ขอบพระทัยเพคะพระชายา” ไป๋หมิงฮุ่ยนั่งลงเบาๆ

ไป๋ชิงหลิงสังเกตไป๋หมิงฮุ่ยตั้งแต่บนลงล่าง

เธอแต่งกายธรรมดา บนมวยผมก็ปักปิ่นไม้ที่ดูราคาถูก ส่วนข้อมือกับคอไม่ได้ใส่เครื่องประดับใดๆอยู่เลย

ดูท่าทางก็เหมือนหญิงสาวธรรมดาที่เดินออกมาจากกลุ่มชาวบ้านทั่วไป

สายตาของเธอมองไปที่ใบหน้าของไป๋หมิงฮุ่ย ใบหน้าเล็กๆที่ขาวผ่องนั้น มีรอยแดงจากการโดนฝ่ามือตบ น้ำตายังคงคลออยู่ในเบ้า แต่นางก็รีบเช็ดน้ำตาออกอย่างรวดเร็ว

คิดจะไม่ให้คนสงสารนั้นคงยาก

“หมิงฮุ่ย” ไป๋ชิงหลิงเรียกเบาๆ

ไป๋หมิงฮุ่ยนั่งหลังตรงขึ้นมาทันที สีหน้าตึงเครียด:“พระชายา อย่าไล่ข้าน้อยไปเลยนะเพคะ ข้าน้อยจะไม่ทำให้ความเชื่อใจและคำสั่งของพระชายาเสียเปล่าแน่นอนเพคะ จะตั้งใจเรียนวิชาแพทย์”

“ใครบอกจะไล่เจ้ากัน” ไป๋ชิงหลิงมองเธอที่ท่าทางระมัดระวัง แล้วยื่นมือไปจับมือของไป๋หมิงฮุ่ย

ไป๋หมิงฮุ่ยพึ่งจะอายุสิบสาม เทียบในศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด อายุสิบสามยังเป็นแค่เด็กคนหนึ่งอยู่เลย

ไป๋หมิงฮุ่ยก้มหน้ามองมือของไป๋ชิงหลิง ใบหน้าแดงระเรื่อ:“ข้าเป็นคนโง่ มาที่โรงหมอได้ครึ่งปีแล้ว แม้แต่ยาสมุนไพรก็ยังแยกแยะไม่ได้”

“อาจารย์ของเจ้าชื่ออะไร?”

“อวิ๋นมู่เอ๋อร์เพคะ”

“ปกตินางสอนเจ้ายังไง เคยวิเคราะห์ความรู้ทางทฤษฏีของยาสมุนไพรให้เจ้าฟังหรือไม่”

ไป๋หมิงฮุ่ยเงยหน้าขึ้นมาทันที มองไป๋ชิงหลิงด้วยสีหน้างงงวย

ไป๋ชิงหลิงเห็นเช่นนี้ ก็เปลี่ยนวิธีการพูด:“นางได้บอกเจ้าหรือไม่ ถึงสรรพคุณของสมุนไพรไป๋จู๋กับไป๋จื่อ”

“นี่…...ไม่ได้บอกเพคะ”

“เช่นนั้นนางให้ตำราเจ้าหรือไม่?”

“ตำราของหมอหญิงอวิ๋นเป็นของบรรพบุรุษ นางบอกให้ข้าน้อยดูไม่ได้เพคะ ไม่เช่นนั้นจะเท่ากับฉีกกฎของบรรพบุรุษ แล้วกรรมจะตามสนองนางเพคะ แต่หมอหญิงอวิ๋นบอกว่าจะตั้งใจสอนข้าน้อย” ไป๋หมิงฮุ่ยเป็นแค่เด็ก ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่อวิ๋นมู่เอ๋อร์พูดนั้นมีแต่คำโกหก หลอกลวงนางมาตลอด

และในตอนที่ไป๋ชิงหลิงได้ยินนางพูดเช่นนี้ ก็เข้าใจความคิดว่าอวิ๋นมู่เอ๋อร์ได้ในทันที

เธอเดิมทีก็ไม่ได้ตั้งใจสอนไป๋หมิงฮุ่ย เลยเป็นสาเหตุให้ไป๋หมิงฮุ่ยเรียนมาครึ่งปี แต่ยังคงแยกแยะยาสมุนไพรไม่ได้

ไป๋หมิงฮุ่ยรับด้วยสองมือ สีหน้าประหลาดใจ

ไป๋ชิงหลิงพูด:“นี่เป็นขั้นแรก เจ้าท่องจำสรรพคุณของยาสมุนไพรในนี้ให้หมดภายในห้าวัน ครบห้าวันข้าจะสุ่มตรวจ”

“ห้ะ…...” ไป๋หมิงฮุ่ยอุทานออกมาเบาๆ มองคัมภีร์แพทย์เล่มหนาในมือ แล้วแอบปาดเหงื่อ:“ท่องจำภายในห้าวัน”

ไป๋ชิงหลิงพยักหน้า

“ทั้งหมดหรือเพคะ!” ไป๋หมิงฮุ่ยบีบคัมภีร์แพทย์เล่มหนาอย่างไม่อยากจะเชื่อ แล้วพูดย้ำอีกที

ไป๋ชิงหลิงพยักหน้าอีกครั้ง:“ใช่แล้วล่ะ ท่องจำทั้งหมด และต้องท่องจำให้คล่องด้วย ถ้าหากท่องจำไม่ได้ล่ะก็......”

“ข้าน้อยท่องจำได้แน่นอนเพคะ” ไป๋หมิงฮุ่ยกลัวว่าเธอจะหลุดพูดประโยคถัดไป เลยตอบรับคำสั่งของไป๋ชิงหลิง

ภายในห้าวันนี้ ต่อให้เธอต้องไม่กินไม่ดื่มไม่นอน ก็ต้องจำสมุนไพรในคัมภีร์แพทย์นี้ให้ได้

“เช่นนั้นข้าน้อยขอตัวกลับโรงหมอก่อนนะเพคะ”

“อืม” ไป๋ชิงหลิงพยักหน้า มองไป๋หมิงฮุ่ยออกไปจากรถม้า

ไม่นาน จื่ออีก็ถามจากด้านนอกหน้าต่าง:“พระชายา พวกเรากลับจวนติ้งเป่ยโหวหรือไม่เพคะ?”

“จริงสิ กลับจวนติ้งเป่ยโหวกันเถอะ”

ขณะที่รถม้ากำลังจะออก แม่บ้านเหวิน แม่บ้านอีกคนของจวนอ๋องก็รีบวิ่งมา ให้ไป๋ชิงหลิงรีบกลับไปที่จวนอ๋อง บอกว่าหรงเยี่ยมีเรื่องสำคัญเรียกหาเธอ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น