สรุปเนื้อหา บทที่ 302 ท่าทางที่ขี้หึงของเขาดูน่ากลัวเล็กน้อย – ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น โดย พระจันทร์ขี้เมา
บท บทที่ 302 ท่าทางที่ขี้หึงของเขาดูน่ากลัวเล็กน้อย ของ ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น ในหมวดนิยายการเกิดใหม่ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย พระจันทร์ขี้เมา อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ไป๋ชิงหลิงหันศีรษะมองเข้าไปในตาของหรงเยี่ยและทันใดนั้นก็คิดถึงอะไรบางอย่างแล้วพูดว่า"มีคนใช้ญาติของพระชายารองหวู่มาข่มขู่นาง?"
ก่อนที่หรงเยี่ยจะทันได้ตอบ เสียงของแม่บ้านเหวินก็ดังมาจากข้างนอก"ท่านอ๋อง พระชายา แม่ทัพเสิ่นต้องการพบท่าน"
"รีบตอบกลับไป"ก่อนที่หรงเยี่ยจะเปิดปากไป๋ชิงหลิงก็ชิพูดขึ้นก่อน
เมื่อเห็นเช่นนี้หรงเยี่ยก็อิจฉา
ความกระตือรือร้นของนางที่จะได้เจอเสิ่นหรูเหลียนทำให้เขานึกถึงข่าวลือข้างนอกที่เขาได้ยินตอนที่จะออกจากจวนเช้านี้
แม้ว่าข่าวลือจะไม่น่าเชื่อถือแต่เขารู้สึกเหมือนมีหนามแทงในใจเขาโดยเฉพาะวันนี้ที่เขาเห็นท่าทางที่กระตือรือร้นของไป๋ชิงหลิง ความปรารถนาอันแรงกล้าก็ครอบงำจิตใจของเขาทันที
"เจ้ารีบปล่อยข้า แม่ทัพเสิ่นต้องการพบพวกเรา......"
ก่อนที่นางจะพูดจบหรงเยี่ยก็จับหัวของนาง โน้มตัวลงและจูบไปที่ริมฝีปากของนาง
นางถูกบังคับให้เอนตัวลงไปในอ้อมแขนของเขาและถูกเขาจับไว้แน่นจนขยับตัวไม่ได้ ในขณะเดียวกันริมฝีปากของนางก็ถูกชายผู้นี้ขโมยจูบไปอย่างไร้เหตุผล
"อื้อ....."นางวางมือบนไหล่ของเขาแล้วผลักออกสองสามครั้งแต่กลับไม่ได้ผลักชายคนนั้นออกไป
แต่กลับกลายเป็นจูบที่เร่าร้อนยิ่งกว่าเดิม
นางรู้สึกถึงอารมณ์ที่แปรปรวนจากชายผู้นี้อย่างชัดเจน
เขา.....โกรธหรอ?
เขาโกรธเพราะเหตุใด?
หรือเป็นเพราะเสิ่นหรูเหลียนมาที่จวนอ๋อง
นางผลักไหล่ของเขาอีกครั้ง แต่ด้วยแรงทั้งหมดของนางก็ยังทำอะไรหรงเยี่ยไม่ได้
สุดท้ายเขาก็ยอมผละออกจากริมฝีปากของนาง
นางเปิดปากเล็กน้อย มองเขาแล้วพูดว่า"ท่านโกรธหรือ?"
"ข้าไม่อนุญาตให้เจ้าใจร้อนกับชายผู้อื่น"
นางไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้"วันนี้ข้าเจอกับแม่ทัพเสิ่นที่หอหลิวเหยียน"
นางบอกเขาเกี่ยวกับเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นในหอหลิวเหยียนรวมถึงเรื่องที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆในหอหลิวเหยียน
แต่หรงเยี่ยกลับเพิกเฉยต่อเรื่องที่ไป๋ชิงหลิงบอกว่าจะปรับเปลี่ยนหอหลิวเหยียนแล้วพูดด้วยใบหน้าเคร่งขรึม"ต่อไปนี้พระชายาห้ามรักษาชายอื่นแบบตามใจอีก"
เอ่อ......
"เจ้าตกลงไปในบ่อขี้หึงหรือ สำหรับหมอไม่มีการแบ่งแยกระหว่างชายและหญิง เจ้าทำแบบนี้ไม่ได้......"
เขาปิดปากของนางโดยการจูบอีกครั้ง ไป๋ชิงหลิงกลัวเขานางจึงเปลี่ยนคำพูด"หากในอนาคตถ้าแม่ทัพเสิ่นไม่ต้องการให้ข้ารักษา ข้าก็จะไม่ทำ แบบนี้ไม่ได้หรือ"
"ไม่ได้"หรงเยี่ยคว้ามือของนางวางไว้บนใบหน้าเขา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเป็นเจ้าของ"มือของเจ้าใช้สัมผัสข้าได้เท่านั้น แม้ว่าเขาจะร้องขอหมอ เจ้าก็ต้องปฏิเสธอย่างเด็ดขาด"
"เจ้าไม่มีเหตุผล"นางดึงมือออกอย่างแรง หันหน้าหนีแล้วพูดอย่างโกรธๆว่า"ตอนนั้นใครเป็นโรคระบาดแล้วบอกให้ข้าไปหาแม่ทัพเสิ่นหลังจากที่เจ้าตายแถมยังบอกอีกว่าเขาเป็นคนดี พอตอนนี้เจ้าแตกคอกันก็กลับทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้......"
"พระชายา!"เสียงของเขาบูดบึ้งและเกิดไฟลุกโชนในใจของเขา
และเมื่อนางได้ยินเสียงเรียกของงเขานางก็เงียบไป
นางหันมามองเขา กัดริมฝีปากแล้วพูดว่า"ไม่พูดถึงก็ไม่พูดถึง"
คนหนึ่งแก้มแดง คนหนึ่งก็สดชื่น
เมื่อถึงห้องโถงด้านหน้าใบหน้าของไป๋ชิงหลิงก็ยังคงแดงอยู่ทำให้นางรู้สึกเหมือนมีไฟกำลังไหม้ที่แก้มของนางอยู่
จื่ออีที่กำลังยกน้ำชาให้เสิ่นหรูเหลียนมองเห็นรอยแดงจางๆบนคอของไป๋ชิงหลิงได้อย่างรวดเร็ว
นางเม้มริมฝีปาก ก้มหัวลงอย่างรวดเร็วแล้วยิ้มอย่างเงียบๆ
เมื่อเสิ่นหรูเหลียนเห็นทั้งสองคนเดินเข้ามา เขาก็รีบลุกขึ้นแล้วพูดว่า"ข้าขอแสดงความเคารพต่อท่านอ๋องหรง พระชายาหรง"
"ไม่ต้องพิธีรีตองมากหรอก"อิงซาที่เข็นรถเข็นอยู่ข้างหลังเดินผ่านหน้าของเสิ่นหรูเหลียนไป
ไป๋ชิงหลิงเดินตามหรงเยี่ยมาทางซ้ายมือ พอดีกับที่เสิ่นหรูเหลียนเงยหน้าขึ้น
สายตาของเขาจับจ้องไปที่รอยแดงบนคอของไป๋ชิงหลิงและในนาทีต่อมาเขาก็ก้มศีรษะลงแล้วหายใจเข้าลึกๆ
เมื่อหรงเยี่ยหันตัวมาเขาก็จับทุกการเคลื่อนไหวของเสิ่นหรูเหลียนด้วยสายตาของเขาแล้ว
เขายื่นมือไปจับมือไป๋ชิงหลิงให้นางนั่งลงบนเก้าอี้ข้างเขา จากนั้นจึงพูดว่า"แม่ทัพเสิ่น นั่งเถอะ"
"ครับ"เสิ่นหรูเหลียนตอบแต่เขากลับไม่ได้นั่งลง เขากุมมือไว้อีกครั้งแล้วพูดด้วยความเคร่งขรึม"ท่างอ๋องหรง ข้าอยากยืมกองกำลังทหารของท่าน"
"ยืมทหารหรือ?"หรงเยี่ยเลิกคิ้วแล้วจ้องไปที่เสิ่นหรูเหลียน
เสิ่นหรูเหลียนรู้ดีว่าทุกย่างก้าวของเขานั้นไม่สามารถซ่อนจากหรงเยี่ยได้เขาจึงเปิดประเด็นแล้วพูดว่า"หวู่โป๋หย่วนพี่ชายของพระชายารองหวู่ได้ขาดการติดต่อนานกว่าครึ่งเดือนระหว่างที่กำลังเดินทางกลับมายังเมืองหลวง ข้าอยากขอร้องให้ท่านอ๋องส่งทหารองครักษ์เหยี่ยวดำออกไปตามหาหวู่โป๋หย่วน นี่เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย"
ทหารเกราะเงินในมือของเขาถ้าไม่ได้รับคำสั่งจากจักรพรรดิเหยาก็ไม่สามารถปฏิบัติการได้โดยพลการ และทหารองครักษ์เหยี่ยวดำก็เปรียบเสมือนตาข่ายขนาดใหญ่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...