ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 305

หลังจากที่ทั้งสองคนได้ยิน ก็ไม่ได้แปลกใจ

เพราะยังไงซะ ก่อนที่ไป๋ชิงหลิงจะมาก็ได้คิดไว้บ้างแล้ว แต่กลับไม่คิดว่าพระชายาหราวจะเป็นคนจิตใจอำมหิตที่ชอบแทงข้างหลัง

“นางกำนัลคนนั้นที่อยู่กับพระชายาหราว แต่เดิมมีอาชีพเป็นมือสังหาร ซังจวี๋กับชิงจู๋รับมือไม่ไหวหรอก” หรงเยี่ยพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด สายตาเผยให้เห็นไอพิฆาต เหลือบมองไปยังร่างทั้งสองที่อยู่นอกประตู:“อิงเหลียน”

ด้านนอกประตูมีเสียงของอิงเหลียนดังมา:“เพคะ ข้าน้อยอยู่นี่”

“ไปตามหาแมว”

“เพคะ!” อิงเหลียนหมุนตัวแล้วเดินออกไป

ไป๋ชิงหลิงรับรู้ได้ถึงไอพิฆาตที่เผยออกมาจากหรงเยี่ย:“ท่านจะฆ่าคนที่อยู่ข้างกายพระชายาหราว”

ริมฝีปากของหรงเยี่ยกระตุกขึ้น มือแตะไปที่ใบหน้าของไป๋ชงเซิง ลูบเบาๆแล้วพูด:“ก็แค่เตือนน่ะ”

“แต่การเตือนเช่นนี้ ก็แค่เตือนฝั่งพระชายาหราวไม่ใช่หรือเพคะ ไม่ได้ห้ามให้นางลงมือกับพวกเรา จุดประสงค์ของนางแน่ชัดแล้วว่าต้องเป็นจวนอ๋องหรง คงจะคิดว่า......ตอนนี้ขาทั้งสองของท่านเป็นเช่นนี้ เลยต่อกรกับข้าง่าย” ไป๋ชิงหลิงกวาดสายตามองขาของเขาแล้วพูดอย่างเรียบเฉย

“พระชายามีความคิดอื่นงั้นหรือ”

เธอเดินมาตรงหน้าเขา นั่งลง มือทั้งสองจับที่เข่าของเขา:“มีเพคะ ตอนที่เห็นหวู่โป๋หย่วนในห้องของท่าน ข้าก็คาดเดาวิธีการของอีกฝ่ายได้แล้ว เรื่องนี้ให้ข้าจัดการก็พอเพคะ”

หรงเยี่ยก้มตามองเธอ นิ้วที่เรียวยาวเชยคางเธอขึ้น“ได้”

ได้รับคำอนุญาตจากเขา ไป๋ชิงหลิงก็พยักหน้า แล้วให้อิงซาตามอิงเหลียนไป พร้อมกำชับอิงซา ส่งหญิงชรานั่นไปที่หอหลิวเหยียน

หลังจากที่อิงซาเดินไปแล้ว เธอก็หันกลับมา:“ข้าต้องกลับไปที่หอหลิวเหยียนอีกรอบเพคะ”

“ข้าจะไปกับเจ้า” ในมือของหรงเยี่ยยังอุ้มเซิงเอ๋อร์อยู่ เขาก้มหน้ามองเด็กๆ แล้วพูด:“พาลูกไปด้วย”

“เพคะ” ไป๋ชิงหลิงเข็นเขาออกจากห้อง

ทหารองครักษ์เหยี่ยวดำที่แฝงตัวอยู่ในเงามืดออกมาอย่างรวดเร็ว ทำตามคำพูดที่ไป๋ชิงหลิงพูดออกมา เข็นหรงเยี่ยออกจากจวนติ้งเป่ยโหว

วินาทีที่หรงเยี่ยเหยียบหอหลิวเหยียนนั้น ทำให้ผู้คนตกใจไม่น้อย......

หงเหนียงที่รู้มาตลอดว่าหรงเยี่ยคือเจ้าของของที่นี่ ทุกครั้งที่ยืนต่อหน้าเขา เธอมักจะรู้สึกว่าหอหลิวเหยียนหนาวขึ้นมาทันที

และวันนี้เป็นครั้งแรกที่หรงเยี่ยปรากฏต่อหน้าผู้คนด้วยภาพลักษณ์ที่เขานั่งอยู่บนรถเข็น

แต่ถึงแม้ว่าเป็นเช่นนี้ ชื่อเสียงเกียรติยศและความหนาวเหน็บที่มาจากร่างของเขานั้น ยังคงไม่ลดน้อยลง ถึงขนาดว่า หน้าตาที่ซูบผอมของเขา ยังคงเพิ่มความเย็นชามากขึ้นไปอีก

บรรดาหมอหญิงรีบมารวมตัว แล้วทำความเคารพพร้อมกับหงเหนียง:“ถวายบังคมท่านอ๋องหรง พระชายาหรงเพคะ”

“ลุกขึ้น” หรงเยี่ยพูดออกมาคำเดียวสั้นๆ

บรรดาหมอหญิงก็ค่อยๆลุกขึ้น

อวิ๋นมู่เอ๋อร์ที่ยืนอยู่หน้าสุดในบรรดาหมอหญิง เหลือบตาขึ้นมองหรงเยี่ยอย่างระมัดระวัง ความสง่าและหน้าตาหล่อเหลาของเขาเป็นสิ่งที่บรรดาหมอหญิงในหอหลิวเหยียนได้แต่เฝ้ามองแต่ไม่สามารถเข้าใกล้ได้

ตอนนี้เขานั่งอยู่บนรถเข็น กลับทำให้อวิ๋นมู่เอ๋อร์คิดว่า เขามีชีวิตชีวาขึ้นเยอะ

ไม่ได้มีความรู้สึกว่ายืนอยู่บนยอดเขา น่าเกรงขามจนผู้คนไม่กล้าเข้าใกล้เหมือนแต่ก่อน

ไป๋ชิงหลิงไม่ได้สนใจความคิดของอวิ๋นมู่เอ๋อร์ เธอรีบจัดห้องฉุกเฉินให้เรียบร้อย:“หงเหนียง ข้าต้องการห้องผ่าตัดที่สะอาดห้องหนึ่ง เอาห้องที่อยู่ชั้นแรก เจ้ารีบหามาให้ข้า อีกเดี๋ยวจะมีผู้ป่วยบาดเจ็บหนักมารักษา”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น