หน้าตาเธอไม่นับว่าสวยจนตกตะลึง แต่ก็มีความเป็นผู้หญิงอยู่บ้าง ทว่าเวลาร้องไห้กลับสวยกว่าเวลาที่ไม่ร้อง
อวิ๋นมู่เอ๋อร์ร้องไห้สะอึกสะอื้น:“ปะ......เปล่านะเพคะ”
ชิงอีพูดด้วยความโมโหอย่างมาก:“เข้าไปในห้องผ่าตัด จะอาเจียนออกมาตามใจชอบได้อย่างไร นี่เป็นคุณสมบัติพื้นฐานที่สุดที่หน่วยพยาบาลในห้องผ่าตัดควรมี พระชายาให้เจ้าออกไป หนึ่งเพื่อช่วยชีวิตคน สองเพื่อช่วยชีวิตคน และสามก็เพื่อช่วยชีวิตคนเหมือนกัน พระชายาเคยพูดกับเหล่านางกำนัล เข้าห้องผ่าตัดไปแล้ว ช่วยชีวิตคนสำคัญที่สุด ถ้าสิ่งสกปรกที่เจ้าอาเจียนออกมาไปโดนร่างกายผู้ป่วย กระทบต่อขั้นตอนการผ่าตัด ทำให้ผู้ป่วยเสียช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการพ้นขีดอันตราย เจ้าแบกรับไหวหรือ?”
ทุกคนต่างก็ตกใจ ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้
ก่อนหน้านี้ถามอวิ๋นมู่เอ๋อร์ ให้ตายยังไงเธอก็ไม่พูด ที่แท้ก็เพราะอาเจียน
มิน่าล่ะหลังจากที่เธอถูกดันออกมาจาก“ห้องผ่าตัด” ก็อาเจียนอย่างเอาเป็นเอาตาย
จื่ออีกลับไม่ได้ระเบิดลงเท่าชิงอี เธอพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย:“ชิงอีพูดถูก คนที่ทำการผ่าตัดกับพระชายา จะมีข้อผิดพลาดเช่นนี้ไม่ได้ การผ่าตัดต้องอยู่ในห้องที่ทำการฆ่าเชื้อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ของในปากเจ้ามีเชื้อโรค ทำให้ผู้ป่วยมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อ”
อวิ๋นมู่เอ๋อร์ฟังจบ สีหน้าก็แดงขึ้นกว่าเดิม
เดิมทีเธอแค่ต้องการเปิดเผยโฉมหน้าที่แท้จริงของไป๋ชิงหลิงต่อหน้าทุกคน ทำให้ทุกคนได้รู้ ว่าไป๋ชิงหลิงก็ไม่ได้ดีเลิศอะไร
ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า“การผ่าตัด”มีรายละเอียดยิบย่อยขนาดนั้น
แต่อวิ๋นมู่เอ๋อร์ก็ยังคงไม่เชื่อคำพูดของชิงอีและจื่ออี เธอคิดว่าไป๋ชิงหลิงเป็นคนให้นางกำนัลสองคนนี้มาทำให้เธออับอายขายหน้า
“เป็นเช่นนี้…...จริงๆหรือเพคะ?” อวิ๋นมู่เอ๋อร์มองไปทางไป๋ชิงหลิง สายตาเต็มไปด้วยความรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม
ไป๋ชิงหลิงพูดด้วยสีหน้าเยือกเย็น:“เจ้าไม่จำเป็นต้องสงสัยนางกำนัลทั้งสองของข้า ข้าถามเจ้ากลับ ถ้าเจ้าเป็นแพทย์ที่ทำการผ่าตัด หลังจากที่ผ่าท้องของผู้ป่วยให้เปิดออก แล้วดึงลำไส้ของผู้ป่วยออกมา จากนั้นก็อาเจียนลงบนร่างกายของผู้ป่วย มันเรื่องปกติงั้นหรือ?”
อุก......
พออวิ๋นมู่เอ๋อร์ได้ยินคำว่า“ลำไส้”สองคำนี้ ก็คลื่นไส้ขึ้นมาอีกครั้ง
บรรดาหมอหญิงที่อยู่ด้านข้าง ขณะที่กำลังฟังคำพูดของไป๋ชิงหลิง ของเหลวในกระเพาะก็เหมือนจะตีกลับขึ้นมา
อีผิงถิงกลับตอบคำถามแทนอวิ๋นมู่เอ๋อร์ด้วยสีหน้าที่ไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิม:“แน่นอนว่าไม่สามารถให้สิ่งสกปรกจากการอาเจียนโดนร่างกายผู้ป่วยเพคะ เช่นนั้นจะช่วยชีวิตคนอย่างไร”
ไป๋ชิงหลิงมองไปที่อีผิงถิงด้วยสายตาชื่นชม สีหน้าอบอุ่นไม่น้อย แล้วพูด:“ต่อให้ไม่ได้อาเจียนโดนตัวผู้ป่วย ต่อให้เจ้าอาเจียนลงบนพื้นก็ไม่ได้เช่นกัน ข้าเคยให้โอกาสเจ้า เจ้าไม่จำเป็นต้องมาร้องห่มร้องไห้ต่อหน้าทุกคน แล้วพูดให้ทุกคนคิดว่าข้ารังแกเจ้าหรอก”
“เจ้าไม่มีอะไรที่ควรค่าพอจะให้ข้ารังแกเลยสักนิด ในสายตาข้า เจ้าก็แค่หมอหญิงที่ทำงานที่หอหลิวเหยียน ไม่แตกต่างอะไรกับหมอหญิงคนอื่นๆ ถ้าเจ้ายินยอมจะอยู่ที่โรงหมอ ก็ทำหน้าที่ของเจ้าให้ดี ถ้าเจ้าไม่ยินยอม โรงหมอก็ไม่บีบบังคับเจ้า”
พูดจบ ไป๋ชิงหลิงก็จูงมือเด็กทั้งสอง เดินผ่านร่างของอวิ๋นมู่เอ๋อร์ไป
หงเหนียงเรียกคนให้มาลากอวิ๋นมู่เอ๋อร์ออกไป
หรงเยี่ยไม่ได้เอ่ยปากอะไรออกมา แต่มีความคิดอยู่นานแล้ว
หอหลิวเหยียนของเขา ไม่ต้องการหมอหญิงเช่นนี้
หลังจากที่ช่วยชีวิตหญิงชรากลับมาได้ ไป๋ชิงหลิงกับหรงเยี่ยก็ออกจากหอหลิวเหยียนทันที
หรงเยี่ยไม่วางใจ เลยส่งทหารองครักษ์เหยี่ยวดำสี่นายไปคอยเฝ้าสังเกตการณ์
หลังจากที่ขึ้นรถม้า ไป๋ชงเซิงก็พูดด้วยความโกรธ:“เมื่อครู่ผู้หญิงคนนั้นเอาแต่มองที่เสด็จพ่อตลอดเลยเพคะ”
อะไรนะ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...