ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 310

สรุปบท บทที่ 310 พระชายาหราวกลับกลอก: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น

สรุปเนื้อหา บทที่ 310 พระชายาหราวกลับกลอก – ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น โดย พระจันทร์ขี้เมา

บท บทที่ 310 พระชายาหราวกลับกลอก ของ ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น ในหมวดนิยายการเกิดใหม่ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย พระจันทร์ขี้เมา อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

“เกี่ยวอะไรกับข้า?” หวู่ซือหลิงบีบแก้วชาแน่น มองไปทางพระชายาหราว:“ใครๆก็รู้ ข้ากับน้องห้าความสัมพันธ์แน่นแฟ้นที่สุด”

พอได้ยินคำพูดนี้ สายตาของพระชายารองหวู่ก็อึมครึมลง

ส่วนไป๋ชิงหลิงนั้นกลับหัวเราะเยาะ:“ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นที่สุด เลยแต่งกับท่านอ๋องหราวแทนพระชายารองหวู่ ขึ้นมาแทนตำแหน่งที่นางอยู่ในจวนอ๋องหราวตอนนี้น่ะหรือ”

“เจ้า…...” สายตาของหวู่ซือหลิง มองไป๋ชิงหลิงด้วยความตกใจ หลังจากนั้นก็มองไปที่พระชายารองหวู่:“น้องห้า เจ้าพูดทุกอย่างกับคนนอก เจ้าไม่กลัวว่านางจะทำร้ายเจ้าหรือไง”

“นางไม่มีทางทำร้ายข้า” พระชายารองพูดอย่างอ่อนโยน แต่เสียงกลับเย็นชาอย่างมาก

สีหน้าของหวู่ซือหลิงเคร่งขรึมลงอีกครั้ง ในใจคาดเดาถึงจุดประสงค์ที่ไป๋ชิงหลิงมาหาเธอในวันนี้

เธอก็นึกว่าหมอปีศาจอะไรกัน ที่แท้ก็แค่เป็นวิชาแพทย์นิดหน่อย

แต่กลับประเมินวิธีการของนางต่ำไป

ทว่า ต่อให้เธอรู้ว่านางวางแผนจะจัดการเธอ แล้วจะทำอะไรได้

ไม่มีหลักฐาน นางก็ทำอะไรเธอไม่ได้อยู่ดี

“พระชายาหรงสงสัยข้า ว่าใช้ประโยชน์จากพระชายารองหวู่มาทำร้ายเจ้างั้นเหรือ”

“ไม่ใช่หรือไง!” ไป๋ชิงหลิงรินน้ำชา แล้วเป่าไอความร้อนด้านบนถ้วย

หวู่ซือหลิงยิ้มเยาะ:“พูดปากเปล่า ไม่มีหลักฐาน เท่ากับเจ้ากำลังใส่ร้ายข้าอยู่นะ”

ไป๋ชิงหลิงวางน้ำชาลงอย่างทันที วินาทีที่มองไปที่พระชายาหราว ใบหน้าคิ้วโก่งนั้น:“เดาได้นานแล้ว ว่าพระชายาหราวคงไม่มีทางยอมรับ ข้าเลยพาอีกคนมาให้เจ้าดู”

ในใจพระชายาหราวเป็นกังวลขึ้นมาอีกครั้ง

เห็นเพียงแค่ไป๋ชิงหลิงปรบมือ ประตูก็เปิดออกอีกครั้ง

หญิงชราคนหนึ่งที่สีหน้าซีดเซียว ถูกทหารองครักษ์เหยี่ยวดำสองนายพยุงเข้ามา หลังจากนั้นก็คุกเข่าลงกับพื้น

พอพระชายาเห็นหนิงซื่อ ก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้อย่างรวดเร็ว ส่วนนางกำนัลที่อยู่กับเธอก็ถูกทหารองครักษ์เหยี่ยวดำกดลงกับพื้น

หนิงซื่อมองไปที่พระชายาหราว ทั้งโกรธทั้งกลัว แต่ชีวิตนั้นตายไปแล้วครั้งหนึ่ง เธอสามารถฟื้นกลับมาได้นั้นก็ไม่มีประโยชน์อยู่ดี มิสู้กอดขาที่พระชายาหรงยื่นมาไว้ให้แน่นดีกว่า

“พระชายาหราว เจ้าจิตใจอำมหิตเกินไปมากเลยนะ ผู้หญิงคนนี้นางจัดการธุระแทนเจ้า เจ้ากลับเอาชีวิตนางที่หยิบเงินไม่กี่ตำลึงไป” หนิงซื่อพึ่งจะผ่าตัดเสร็จได้ไม่ถึงสามวัน ร่างกายยังอ่อนแออยู่

แต่แผลผ่าตัดนางสมานได้ดี หลังจากผ่าตัดเสร็จวันที่สองก็ลงมาเดินได้แล้ว ตอนนี้ได้แต่อดทน ฝืนใจมาขอความเป็นธรรมจากพระชายาหราว

เวลานี้ ประตูห้องน้ำชายังไม่ได้ปิด

แขกที่เข้าออก ต่างก็เห็นว่าห้องเยว่จื้อนั้นคึกคัก เลยทยอยกันเข้ามาดู

ในใจพระชายาหราวตกใจ เห็นว่ามีแขกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดเธอก็รู้แล้วว่าไป๋ชิงหลิงต้องการทำอะไร

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็เชิญคนเล่านิทานขึ้นมาหน่อยเป็นไง” ไป๋ชิงหลิงพูดขึ้นมา

เธอมีเวลาเล่นแง่กับพระชายาหราวได้ทั้งวัน

แต่พอหวู่ซือหลิงได้ยิน ก็ลุกลี้ลุกลนขึ้นมา

ในเวลานี้คนนอกที่เข้ามาดูยิ่งเยอะขึ้นเรื่อยๆ ชั่วพริบตาเดียวก็แน่นขนัดแล้ว ตรงหน้าเต็มไปด้วยผู้คนล้นหลาม

สายตาของทุกคนจ้องมาที่เธอ ว่าจะจัดการเรื่องนี้ยังไงต่อ

หลังจากนั้น คนเล่านิทานก็ขึ้นมา เป็นคนชราที่มีชื่อเสียงอายุหกสิบปี ในครอบครัวไม่มีลูก อาศัยปากของตนเองในการเล่าเรื่องหาเลี้ยงชีพ

เขาถูกอิงเหลียนเตะขาจนคุกเข่าลงไปกับพื้น ดูแล้วหวาดกลัวจนตัวสั่น

ขณะที่ถูกกดอยู่นั้น อิงเหลียนก็บอกเขาว่า พระชายาหรงจะจัดการกับเขา ทางที่ดีให้เขาตอบคำถามของพระชายาหรงไปตามตรงเสียดีกว่า

เขาคิดว่า ต้องเป็นเรื่องของจวนอ๋องหรงที่เขาเล่าช่วงนี้เป็นแน่ ถูกท่านอ๋องหรงจ้องมองเข้าให้แล้วสินะ

เขาเผชิญหน้ากับหวู่ซือหลิง คุกเข่าคำนับด้วยความสั่นเทา:“พระชายาหรง กระหม่อมไม่ได้ทำนะพ่ะย่ะค่ะ ไว้ชีวิตกระหม่อมด้วย”

ทุกคนที่มาดูต่างก็เริ่มวิจารณ์กัน:“ดูแล้วเหมือนจะมีพิรุธจริงๆนั่นแหละ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น