พระชายารองหวู่ร้องออกมาด้วยความตกใจ
ในตอนที่ดาบในมือของหวู่ซือหลิงแทงเข้าไปที่หน้าอกของหลิงฮว๋านนั้น เลือดก็กระเด็นไปโดนหน้าของพระชายารองหวู่ทันที
พระชายารองหวู่เงยหน้า ตอนที่เห็นว่าเลือดเต็มมือนั้น ตาทั้งสองข้างก็กลอกขึ้น แล้วหมดสติไป
หงเยว่นางกำนัลข้างกายเธอ รีบเข้ามาพยุงพระชายารองหวู่ หงเยว่ร้องห่มร้องไห้:“นายท่าน นายท่าน”
“รีบพาพระชายาหวู่ไปขึ้นรถม้าข้า” หวู่ซือหลิงวางดาบลง แล้วแสร้งออกคำสั่งด้วยสีหน้าเป็นกังวล
ไป๋ชิงหลิงยื่นมือขวางไว้หน้าหวู่ซือหลิง แล้วยิ้มเบาๆ:“พระชายาหราวจัดการเรื่องทางนี้ให้เรียบร้อยก่อนดีกว่า คงไม่อยากให้มีศพนอนตายอยู่ที่โรงน้ำชาซินเยว่หรอกนะ”
“เจ้า…...”
“ที่นี่อยู่ใกล้กับหอหลิวเหยียน ถึงแม้ว่าช่วงนี้หอหลิวเหยียนจะกำลังตกแต่งใหม่ ไม่เปิดกิจการ แต่พระชายารองหวู่นั้นหมดสติกะทันหัน คิดว่าพวกเขาคงไม่ปฏิเสธหรอก ข้าจะส่งพระชายาหวู่ไปพักฟื้นที่หอหลิวเหยียนก่อน ส่วนพระชายาหราวก็อยู่จัดการที่นี่อย่างสบายใจเถอะ” ไป๋ชิงหลิงไม่สนใจเธอ เดินผ่านหน้าเธอไปทันที
ถึงแม้ว่าจะจัดการพระชายาหราวไม่ได้ในคราเดียว แต่ก็ไม่รีบ
เนื้ออวบใหญ่คงกินภายในคำเดียวไม่หมดหรอกนะ
ตราบใดที่พระชายาหราวยังกล้าที่จะยื่นมือมาทางเธอ ครั้งหน้า เธอก็จะเอามือข้างหนึ่งของเขามา ถ้ายังกล้าทำผิดอีก ก็จะตัดมืออีกข้าง
จนกว่านางจะจ่ายด้วยชีวิต......
ส่วนคนเล่านิทานจะเป็นยังไงต่อนั้น
คิดดูแล้ว มีคนที่มาล้อมดูเรื่องเมื่อครู่เต็มไปหมด พระชายาหราวคงไม่กล้าทำอะไรเขา
ไม่เช่นนั้น ต่อให้พระชายาหราวจะจัดการเรื่องนี้เรียบร้อยแล้ว แต่ก็ต้องกระโดดลงน้ำสกปรกอยู่ดี พอถึงตอนนั้นอยากจะล้างก็คงไม่สะอาดแล้ว
ส่วนหนิงซื่อถูกเธอพากลับมาที่หอหลิวเหยียนด้วย
พอพาพระชายารองหวู่มาถึงหอหลิวเหยียน นางก็ได้สติพอดี
เพียงแต่ร้องไห้ไม่มีเสียง ระบายอารมณ์ออกมาอยู่นาน
หลังจากที่เธอร้องไห้เสร็จ ก็พูดออกมาด้วยสีหน้ารู้สึกผิด:“พระชายาหรง รบกวนแล้วเพคะ”
“ไม่มีการรบกวนอะไรทั้งสิ้น เรื่องนี้ข้าก็มีส่วนเหมือนกัน ข้าก็ต้องออกมือเพื่อล้างมลทินให้ตัวเอง” ไป๋ชิงหลิงพูดกับพระชายารองหวู่ ไม่มีความสงสารแม้แต่นิด
ผู้หญิงอย่างนาง อ่อนแอนเกินไป ง่ายที่จะถูกผู้อื่นจูงจมูก ไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง
ไม่เช่นนั้นก็คงไม่ตกอยู่ในสภาพนี้
“เรื่องวันนี้เจ้าคิดจะจัดการอย่างไร?” ไป๋ชิงหลิงถาม
จู่ๆพระชายารองหวู่ก็ลงมาจากเตียง แล้วคุกเข่าลงต่อหน้าไป๋ชิงหลิง
ไป๋ชิงหลิงสะดุ้งตกใจกับการกระทำของนาง
ร่างกายเธอสั่นเล็กน้อย หลังจากนั้น ก็เห็นว่าพระชายารองหวู่จับมือทั้งสองของเธอไว้ พูดทั้งร้องไห้:“พระชายาหรง หม่อมฉันไม่มีทางเลือกแล้ว ถึงมาขอร้องท่าน ท่านช่วยหม่อมฉัน ช่วยหม่อมฉันเถอะนะเพคะ หม่อมฉันไม่อยากให้ชีวิตของท่านพ่อท่านแม่ แล้วก็ชีวิตของพี่ชายผูกไว้กับหม่อมฉัน หม่อมฉันหวังว่าพวกเขาจะไม่ได้รับการข่มขู่จากหม่อมฉัน สามารถอยู่ในเมืองหลวงได้อย่างเปิดเผยเพคะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...