พระชายารองหวู่ขมวดคิ้วเล็กน้อย ดวงตาเต็มไปด้วยความเศร้า “ก่อนที่จะตกจากหลังม้าเมื่อห้าปีที่แล้ว แม่นางหลิ่วแม่ของพระชายาหราวมาหาข้า นางใช้ความก้าวหน้าทางขุนนางของพ่อข้า ขอให้ข้าไปที่สนามแข่งม้า เพื่อเรียนรู้วิธีขี่ม้า นางจัดหาม้าป่า ให้ข้าต้องตกจากหลังม้า จากนั้นข้าก็บ้า เมื่อข้าเข้าไปในเรือนวิปลาส แม่นางหลิ่วขอให้อารองช่วยจัดการเรื่องหย่าให้ข้า และส่งพ่อแม่ไปทำงานนอกเมืองหลวง พี่ชายก็จะมีงานที่ดีทำ ไม่อย่างนั้น พวกเขาก็จะ……”
พูดถึงเรื่องนี้ พระชายารองหวู่ก็ตื่นตระหนกทันที และเสียงของนางก็เปลี่ยนไป “พวกเขาจะทำทุกวิธีทาง เพื่อให้พ่อแม่ของข้าหายตัวไป เดิมทีพ่อของข้าเป็นบุตรนอกสมรสของจวนกั๋วกง และแม่ก็มาจากตระกูลเล็ก ๆ ในจวนกั๋วกงมีลูกนอกสมรสอย่างพ่อข้าเยอะเกินไป ท่านปู่ไม่เคยสนใจพ่อผู้ต่ำต้อยของข้าเลย ดังนั้นข้าจึงตอบตกลง”
เมื่อพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อห้าปีก่อน พระชายารองหวู่ยังคงไม่สบายใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรู้ว่าทั้งหมดนี้เป็นของ อ๋องหราว เขาไม่ต้องการแต่งงานกับนางเลย และวางแผนที่จะรับหญิงสาวคนอื่นจากจวนกั๋วกงมานานแล้ว หัวใจของนางเจ็บปวดและอึดอัด
พระชายารองหวู่พูดอีกครั้ง “พระชายาหรงคงสงสัยว่า ข้าจะหมั้นหมายกับอ๋องหราวได้อย่างไร ในเมื่อพ่อของข้าเกิดมาเป็นลูกนอกสมรส”
ดวงตาของไป๋ชิงหลิงกะพริบเล็กน้อย เพื่อรอให้นางพูดต่อ
“ขาของพี่ชายข้า เกิดบาดเจ็บเพราะช่วยอ๋องหราว เขาไม่มีภูมิหลังเกี่ยวข้องกับราชวงศ์ ตระกูลของนางต้องการฉวยโอกาสนี้สร้างความสัมพันธ์กับจวนกั๋วกง ดังนั้นพวกเขาจึงเลือกข้า”
หลังจากได้ฟังคำพูดเหล่านี้ ความประทับใจของไป๋ชิงหลิงที่มีต่อพระชายารองหวู่ก็เปลี่ยนไปในทันที
เจ้าเห็นไหมว่านางไม่ได้โง่เขลา
พระชายาหวู่เห็นเหตุผลของเหตุการณ์นี้อย่างชัดเจน แต่เพราะรอบข้างใช้คนในครอบครัวมาข่มขู่นาง การบีบบังคับที่สะสมมาทำให้ค่อย ๆ นางอ่อนแอลง
แต่นางไม่โง่เขลาอย่างแน่นอน
นางใสซื่อยิ่งกว่าใคร ๆ
ไป๋ชิงหลิงรู้สึกว่าตัวเองเลือกคนที่เหมาะสมแล้ว
“เจ้ายังคิดถึงอ๋องหราวอยู่หรือเปล่า ? ” นางลองถามดู
พระชายารองหวู่ยิ้มอย่างขมขื่น……
พระชายารองหวู่ยิ้มอย่างขมขื่น “เขาวางแผน ข้ายังจะคิดถึงหรือ ?”
ถูกต้อง ชายหนุ่มช่างคิดวางแผนแบบนี้ ใครยังจะกล้าคิดถึง
เช่นเดียวกับที่อ๋องต้วนปฏิบัติต่อเจ้าของร่างเดิม ตอนนี้ร่างกายนี้ไม่น่ารังเกียจเหมือนเมื่อก่อนแล้ว และยิ่งห่างไกลจากจิตวิญญาณของนางมากขึ้นเรื่อย ๆ
นางรู้สึกได้ว่า ไป๋ชิงหลิงเจ้าของเดิมได้หมดใจต่ออ๋องต้วนแล้ว
ไม่คิดถึงแล้ว !
“พี่ชายของเจ้าอยู่ในจวนอ๋องหรง และเขาโดนธนูสามดอก ซึ่งแต่ละดอกนั้นมีความรุนแรง อย่างไรก็ตามมีหมอเทวดาซูคอยช่วยเขาดึงลูกศรออก และข้าเองก็เฝ้าดูเขาด้วย ตอนนี้เขาพ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าไม่ต้องกังวล” ก่อนที่ไป๋ชิงหลิงจะจากไป นางตบหลังมือของพระชายารองหวู่เบา ๆ
พระชายารองหวู่ซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก
ไม่ว่าผู้หญิงตรงหน้าจะดีหรือไม่ดี ตราบใดที่นางเต็มใจคนในครอบครัวของนาง นางก็ยินดีที่จะตาย
“ขอบพระทัยพระชายาหรง” พระชายารองหวู่กำลังจะคุกเข่าอีกครั้ง ไป๋ชิงหลิงรีบประคองข้อศอกด้วยฝ่ามือของนาง และพูดว่า : “ออกมานานถึงเวลาต้องกลับแล้ว ถ้าอ๋องต้วนถาม เจ้าก็บอกความจริงเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในโรงน้ำชาซินเยว่ ไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไร
“ตกลง”
พระชายารองหวู่ออกไปแล้ว
ไป๋ชิงหลิงยืนอยู่ที่หน้าต่าง มองดูนางจากไป
หลังจากนั้นไม่นาน ประตูห้องข้างก็ถูกเคาะอีกครั้ง ไป๋ชิงหลิงหันศีรษะไปมองและพูดว่า “เข้ามา”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...