ไป๋ชิงหลิง ไม่คาดคิดว่าเสิ่นโหรวเม่ยซึ่งตนเองก็เป็นแพทย์หญิงจะขอให้นางมาที่โรงหมอฮุ่ยหมิน
เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
“ข้าจะออกไปดูหน่อย”
“ข้าก็จะออกไปดูด้วย”
"เจ้ายังเหลืออีกสองรอบถึงจะเสร็จการกายภาพบำบัดของวันนี้ เจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปก่อนเวลา อิงซา ดูเจ้านายของเจ้าให้ดี" ไป๋ชิงหลิงพูดอย่างจริงจัง
อิงซาตอบเสียงดัง "ขอรับ พระชายา"
หรงเยี่ยมองอิงซา อย่างเย็นชา
อิงซา ปาดเหงื่อและพูดกับตัวเองว่า "ท่านอ๋อง ท่านอดทนอีกซักหน่อยเถิด ฟังพระชายาให้มากขึ้น มิฉะนั้น ท่านจะถูกลงโทษให้นั่งในเรือนตากลมตากฝนอีกครั้ง"
ไป๋ชิงหลิงไม่รู้ถึงความเจ็บปวดในใจของหยิงซา ดังนั้นนางจึงเดินออกจากห้องพักฟื้นอย่างรวดเร็ว และตามหงเนียงไปที่ห้องปรึกษาหมายเลข 3 ที่ชั้นหนึ่ง
แต่ก่อนที่นางและหงเนียงจะก้าวเข้าไปในห้องห้องตรวจโรค ท่านอ๋องเฉินก็ร้องอุทานขึ้นมาว่า "อ๊ะ นี่มันอะไรกัน เม่ยเอ๋อร์ พวกเรารีบไปเร็วเข้า"
“ท่านอ๋อง เรื่องนี้ดูเหมือนจะไม่เป็นความจริง”
“ยังไง จะเป็นไปได้ยังไง เร็วเข้า รีบเปิดมันเร็วเข้า”
เมื่อหงเนียงได้ยินเช่นนี้ นางก็ได้ยินเสียง "ตึกตัก" ในใจ ยกมือขึ้นลูบหัวตัวเองอีกครั้งและพูดว่า "ข้าลืมเอาแม่พิมพ์พวกเก็บไป คงถูกอ๋องเฉินทำให้ตกใจมากเกินไป"
"ไม่เป็นไร ข้าจะเข้าไปดูเอง" ไป่ชิงหลิงผ่านแม่สื่อโดยตรงและเดินเข้าไปในห้องปรึกษาหารือ
แม่พิมพ์รูปหัวกระโหลกหลายอันตกลงบนพื้นอย่างกระจัดกระจาย อ๋องเฉิน กอดเสิ่นโหรวเม่ยแน่น และยืนพิงหน้าต่างด้วยสีหน้าสยดสยองราวกับว่าแม่พิมพ์โครงกระดูกเหล่านั้นเป็นผีที่น่ากลัว
ไป๋ชิงหลิงเดินไปที่แม่พิมพ์และเก็บพวกมันขึ้นมา
อ๋องเฉินเข้ามาและพูดด้วยใบหน้าเศร้าหมอง "พี่สะใภ้เจ็ด การฆาตกรรมมันผิดกฎหมายนะ"
ไป๋ชิงหลิงชำเลืองมองแม่พิมพ์ในมือด้วยความตกตะลึงและพูดว่า "น้องแปด สิ่งที่ข้าถืออยู่ในมือไม่ใช่โครงกระดูกของคนจริงๆ แต่เป็นโครงกระดูกที่มนุษย์สร้างขึ้น เจ้าเองก็สามารถบอกได้ว่าของจริงหรือของปลอมได้อย่างรวดเร็ว เจ้าก็ดูเอาเองก็แล้วกัน"
นางผลักแม่พิมพ์หัวกระโหลกในมือไปทางเขา
อ๋องเฉินตะโกนด้วยความตกใจ: "อย่า...อย่าเอามาทางนี้ ข้าไม่สนหรอกว่าจะของจริงหรือปลอม ถ้าเจ้ายยังปล่อยมันไว้แบบนี้ เจ้าจะทำให้คนไข้หวาดกลัวจนตาย และถ้าเป็นเช่นนั้น จากของไม่จริงก็จะกลายเป็นของจริงแล้ว"
เขากอด เสิ่นโหรวเม่ยไว้แน่นแล้วก้าวถอยหลัง
ไป๋ชิงหลิงไม่คาดคิดว่าอ๋องเฉินจะใจเสาะเช่นนี้ ดังนั้นนางจึงสั่งให้หงเหนียงถอดแม่พิมพ์ออก
หลังจากที่แม่พิมพ์ถูกนำออกไปแล้ว อ๋องเฉินก็ปล่อย เสิ่นโหรวเม่ยอย่างเขินๆและนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆ
ตอนนั้นเองที่ ไป๋ชิงหลิง ค้นพบว่ามีบางอย่างผิดปกติกับขาซ้ายของอ๋องเฉิน เมื่อครู่ขาซ้ายของเขายังไม่ได้แตะลงบนพื้น แต่ตอนที่เขานั่งลง เขาก็ยกขาซ้ายขึ้นสูง
“ขาของเจ้าบาดเจ็บหรือเปล่า” ไป๋ชิงหลิงถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
เสิ่นโหรวเม่ยพยักหน้า "ใช่ ข้าให้ยาเขามาสองสามวัน แต่มันไม่เพียงไม่หายไปเท่านั้น แต่อาการยังแย่ลงด้วย"
เมื่อเกี่ยวกับขาของอ๋องเฉิน เสิ่นโหรวเม่ยไม่กล้าที่จะวางใจ
แทนที่จะให้หมอหวางประจำวังออกมาตรวจดู นางคิดว่ามันจะดีกว่าถ้าให้ ไป๋ชิงหลิงตรวจดู ท้ายที่สุดโรคเบ็ดเตล็ดหรือแม้แต่โรคที่รักษาหายยากมากมายในวังก็รักษาได้ด้วยมือของนาง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...
อ่านถึงตรงนี้แล้วยอมรับเลยว่าเหนื่อยแทนไป่ชิงหลิงจริงๆ...มีเรื่องตลอด...ช่วงดีๆแทบจะไม่มีเลย..แอดขาาาาตามอ่านจนจะทันแล้วนะคะลงต่อเถอะค่ะเข้ามาส่องทุกวันว่าขยับจาก 460ไปบ้างรึยังพรีสสสสส😽😽😽...
เจอแล้ว..เจอแล้ว..เป็นเรื่องที่อยากอ่านมากๆอีกเรื่องนึง..กรี๊ดลั่นรถจนลูกผัวตกอกตกใจ55555....แอดขาาา..อัพต่อไปเรื่อยๆนะคะจะตามอ่านให้ทันแน่นอนค่ะ😄🤗😊...
ตอนนี้ชื่อหรงฉี่กับอ๋องต้วนสลับกันอยู่นะอย่าทำให้สับสนสิคะ...
บท 433 แล้วมีต่อใช่มั้ยคะ...
อ่านแล้ว ยังไม่จบ แต่สถานะทำไมเสร็จสิ้นแล้ว น่าจะยังอีกหลายตอน ทำไมไม่มีการลงต่อคะ...