เสิ่นโหรวเม่ยมองดูยาในมือของอ๋องเฉินด้วยความสับสน คืนนี้เท่าที่นางรู้ฮองเฮาอู่ไม่สามารถควบคุมได้แล้ว
นับตั้งแต่ที่นางวางแผนอ๋องเฉิน และกลายเป็นพระชายาเฉิน เสด็จป้าฮองเฮาของนางก็ไม่อดทนเหมือนเมื่อก่อน และนางชอบใช้ฐานะแม่สามีเพื่อทำให้สิ่งต่าง ๆ ยากสำหรับนาง
ในอดีตเมื่อใดที่ฮองเฮาสร้างเรื่องยุ่งยากให้กับนาง อ๋องเฉินจะเป็นคนแรกที่ยืนหยัดและปกป้องนางเสมอ แต่คืนนี้……
“เม่ยเอ๋อร์” ฮ่องเฮาอู่มองนาง ด้วยสายตาที่เฉียบคมที่ยากจะหยั่งรู้
ทันใดนั้นเสิ่นโหรวเม่ยก็ได้สติกลับมา และพูดว่า “เสด็จแม่”
“เจ้าและไป๋เจาเสวี่ยต่างก็เป็นลูกสะใภ้ของข้า และข้าก็ไม่ต้องการเข้าข้างใคร นางให้หมอหญิงคนใหม่รับใช้อ๋องเฉินมันก็ไม่ถูกต้อง ข้าไปจะพูดกับนางแล้วกัน ส่วนเจ้า……”
“วันพรุ่งนี้ลูกสะใภ้กับอ๋องเฉินจะไปจวนอ๋องหรง เพื่อขอโทษพี่เจ็ดและพี่สะใภ้เจ็ด ” เสิ่นโหรวเม่ยเชื่อฟังอย่างยอมรับผิด
ทันใดนั้นอ๋องเฉินก็รู้สึกว่าพระชายาของตัวเองสง่างาม มีเหตุผล และมีความรู้
ทำให้เขาสบายใจมาก
“อีกทั้งต้องระวังเท้าของอ๋องเฉิน หลังจากไปที่จวนของอ๋องหรงแล้ว ให้กลับไปที่จวนของตัวเองเองเพื่อพักฟื้นสักระยะ ช่วงนี้เจ้าไม่จำเป็นต้องเข้าไปในวังเพื่อถวายความเคารพต่อข้า แต่ต้องส่งคนไปรายงานอาการบาดเจ็บที่เท้าของอ๋องเฉินทุกสามวัน” ฮองเฮาอู่จ้องมองที่เสิ่นโหรวเม่ยอย่างเฉียบคม
ทุกคำที่ฮองเฮาอู่ ล้วนพูดไม่ใช่คำที่ยาก แต่มันกลับทำให้เสิ่นโหรวเม่ยรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก และนางไม่สามารถใช้วิธีก่อนหน้านี้ในการจัดการกับฮองเฮาอู่ได้อีกต่อไป ดังนั้นนางจึงได้ตอบอย่างเสียใจ “เพคะ หม่อมฉันจะจำคำสั่งของเสด็จแม่ไว้”
หลังจากพูดจบ เสิ่นโหรวเม่ยก็กำหมัดนิ้วจมไปในฝ่ามือของนาง……
เมื่ออ๋องเฉินและภรรยาออกไป และฮองเฮาอู่ก็เปลี่ยนสีหน้าทันที
แม่นมหยางรู้ว่าให้นางระงับความโกรธมันทำให้จิตใจรู้สึกแย่ ดังนั้นจึงพูดปลอบโยน “พระมารดา อ๋องเฉินยังมีจิตใจดีและกตัญญู คืนนี้พระนางทำดีมากเพคะ พระนางไม่เห็นหรือว่าอ๋องเฉินเชื่อฟังพระนางเสมอ”
“เชื่อฟังข้าหรือ? ”ฮองเฮาอู่ตกตะลึงเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้
นางเพิ่งรู้สึกว่าในคืนนี้อ๋องเฉินไม่ได้พูดเถียงกับนางแล้ว
แม่นมหยางรินน้ำอุ่นหนึ่งแก้วแล้วยื่นให้ฮองเฮาอู่ “เพราะพระมารดาทรงไม่ทรงตำหนิพระชายาเฉินเหมือนแต่ก่อน และพระมารดายังทรงปรารภอ๋องหรง ทำให้อ๋องเฉินรู้สึกผิดต่อพระองค์เช่นกัน นี่เรียกว่ายอมถอยเพื่อบรรลุเป้าหมาย พระนางโปรดจำไว้ว่า อ๋องเฉินเป็นคนจิตใจดี แต่เขาก็ชอบพระชายาเฉินจริง ๆ หากสตรีผู้ใกล้ชิดสองทั้งสองทะเลาะกันต่อหน้าเขา อ๋องเฉินย่อมเข้าข้างพระชายาเฉินเป็นธรรมดา เพราะในสายตาของเขาพระมารดาเป็นเสด็จแม่ของเขา แต่พระชายาเฉิน……”
จู่ ๆ แม่นมหยางก็ถอนหายใจยาว
ฮองเฮาอู่เข้าใจสิ่งที่แม่นมหยางพูดแล้ว และพูดต่อจากคำพูดของแม่นมหยาง “แต่พระชายาเฉินคือความฝันในวัยเด็กของเขา เป็นสมบัติที่ยากจะไขว่คว้ามา”
“พระมารดาเข้าใจคำพูดของหม่อมฉันก็ดีแล้วเพคะ หม่อมฉันไม่ต้องการให้พระนางและอ๋องเฉินจบกันไม่ที่ทุกครั้ง และสองแม่ลูกค่อย ๆ ห่างเหินกัน”
จู่ ๆ ฮองเฮาอู่ก็ปวดหัว นางวางมือบนหน้าผากแล้วพูดว่า “เม่ยเอ๋อร์น่าจะยังคงตำหนิข้า แต่ข้าก็ปล่อยให้นางเช่นกัน แต่นางก็ไม่รู้จักพอ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...