เว่ยซือเฉิงลูบเคราอย่างใจเย็น จากนั้นเอื้อมมือออกไปและผลักทหารที่อยู่ข้าง ๆ ตัวเองอย่างแรง
ทหารคนนั้นเซไปสองสามก้าว ล้มลงตีลังกาแล้วลงไปนั่งบนพื้น มองดูผู้คนรอบตัวด้วยความงุนงง
และผู้คนในลานนี้ ไม่เข้าใจว่าทำไมเว่ยซือเฉิงถึงทำแบบนี้อย่างกะทันหัน
ทหารจับหัวของเขา ยืนขึ้นจากพื้นแล้วพูดว่า “เมื่อกี้ใครผลักข้า?”
“ข้าผลักเจ้าเอง” เว่ยซือเฉิงพูดว่า “เมื่อครู่จ้ารู้สึกว่ามือข้างไหนของข้าผลักเจ้า?”
“ใช้มือไหน……” ทหารคนนั้นคิดอย่างรอบคอบ เมื่อครู่เขายืนนิ่งอย่างจริงจัง เขาคิดได้อย่างไรว่าจะมีคนผลักเขากะทันหัน เขารู้แค่ว่าเขาถูกใครบางคนผลักลงมา และเขาก็ไม่รู้ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายใช้มือไหน เขาพูดอย่างไร้เดียงสา“ข้าน้อยไม่รู้ขอรับ”
เว่ยซือเฉิงพยักหน้า และโบกมือเป็นสัญญาณให้ทหารถอยไป
อ๋องเฉินถามด้วยสีหน้าอึดอัดใจ “ใต้เท้าเว่ยนี่หมายความว่าอย่างไร?”
“ข้าน้อยเพิ่งทำการทดลอง เมื่อคนคนหนึ่งไม่ได้เตรียมตัว ปฏิกิริยาแรกคือใครผลักเขา ประการที่สองหากเจอเหตุการณ์อย่างเช่นเมื่อวาน ปฏิกิริยาตามสัญชาตญาณของเหยื่อคือการเอาตัวรอด เนื่องจากพระชายาเฉินบอกว่ามีคนมาผลักหลังนาง ในเวลานั้นพระชายาหรงมีสาวใช้อยู่ข้าง ๆ คนหนึ่ง พระชายาเฉินรู้ได้อย่างไรว่าคนที่ผลักนางคือพระชายาหรง?” เว่ยซือเฉิงถามกลับ
สีหน้าของอ๋องเฉินตกตะลึงไปครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็ตะโกนด้วยความโกรธ “ใต้เท้าเว่ย ท่านกำลังสงสัยคำพูดพระชายาของข้าใช่ไหม ? หรือท่านคิดว่าการล้มของนางยังแย่ไม่พอ ผู้หญิงคนนี้ยืนอยู่ตรงหน้าท่านโดยไม่เป็นอะไรเลย แต่ท่านกลับ……”
“พระชายาของข้า แก้วหูข้างซ้ายแตก และหูข้างหนึ่งหนวก” หรงเยี่ยที่ไม่ได้พูดมานาน พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
อ๋องเฉินมีอาการหัวใจหยุดเต้นไปชั่วขณะ เงยหน้าขึ้นมองหูซ้ายของไป๋ชิงหลิง และพบว่าหูซ้ายของนางเต็มไปด้วยก้อนสำลีสีขาว !
แต่ เขาไม่เชื่อ !
นางเจ้าเล่ห์มากถึงเพียงนี้ จะต้องตั้งใจยัดอะไรบางอย่างเข้าไปข้างในอย่างแน่นอน !
และไป๋ชิงหลิงก็รู้ว่า อ๋องเฉินคงไม่เชื่อว่านางได้รับบาดเจ็บ ในสายเขามีเพียงเสิ่นโหรวเม่ย
เขาคิดเอาไว้แล้วว่านางจะต้องผลักเสิ่นโหรวเม่ย
และเสิ่นโหรวเม่ยที่คุ้นเคยกับการใช้เล่ห์เหลี่ยม นางใช้การแท้งบุตรเพื่อซ่อนตัวอยู่ในห้องและไม่ออกมา
เว่ยซือเฉิงไม่สามารถรีบเร่งและจับกุมนางเพื่อไปที่ว่าการได้ ดังนั้น เรื่องในวันนี้จึงยังไม่มีผลสรุป
ในเมื่อเป็นแบบนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องสิ้นเปลืองเวลาอยู่ที่จวนท่านอ๋องเฉินอีกต่อไปแล้ว
นางเงยหน้าขึ้นมองไปที่อ๋องเฉินด้วยสายตาเย็นชาและพูดว่า “ข้าไม่จำเป็นต้องใช้เรื่องหูหนวกของตัวเองมาแสดงความเห็นอกเห็นใจ ข้าแค่อยากเป็นผู้บริสุทธิ์ ในเมื่อพระชายาเฉินไม่กล้าออกมา เรื่องของวันนี้ก็จะจบลง และก่อนที่ข้าจะออกจากจวนท่านอ๋องเฉิน ข้าอยากจะอธิบายให้ชัดเจน ”
นางมองผ่านอ๋องเฉิน ไปที่ประตูเรือน ราวกับว่านางสามารถมองเห็นหญิงสาวข้างในจากประตูนั้น และพูดว่า “ถ้าข้าผลักพระชายาเฉิน ภายภาคหน้าเมื่อไป๋เจาเสวี่ยจะไม่มีที่ฝังศพ จะไม่ตายดี เมื่อตายก็จะตกนรก เนื่องจากพระชายาเฉินก็เป็นผู้บริสุทธิ์ เช่นนั้น เจ้ากล้าสาบานต่อฟ้าไหม ว่าเจ้าไม่ได้ผลักข้า ตัวข้าจะรีบคุกเข่าลงทันที และโค้งคำนับขอโทษเจ้าสามครั้ง”
เสียงของไป๋ชิงหลิงดังก้องไปทั่วลาน และดังเข้าไปถึงภายในห้อง
ทุกคนกลั้นหายใจทันที และมองไปที่ไป๋ชิงหลิงด้วยความประหลาดใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...