พี่ชายของอวิ๋นมู่เอ๋อร์ไม่ได้มาที่หอหลิวเหยียนเป็นเวลาสองเดือนแล้ว ไม่มีใครพบเห็นเขาอีกเลย เป็นไปได้ไหมว่าเขาก็ถูกอวิ๋นมู่เอ๋อร์สังหารแล้ว นอกจากนี้ ยัง........
ไป๋ชิงหลิงเห็นว่าเธอสีหน้าไม่ค่อยดี ก็ถามว่า “มีอะไรเหรอ?”
“พระชายา จู่ๆข้าก็นึกขึ้นได้ว่าเมื่อสองเดือนก่อนอวิ๋นมู่เอ๋อร์ได้ส่งเนื้อไปให้หงเหนียง บอกว่าเป็นเนื้อหมูป่าที่พ่อของนางไปล่ามาจากบนภูเขา และพวกเราก็ไม่ได้เจอพี่ชายของอวิ๋นมู่เอ๋อร์มาสองเดือนแล้ว ทรัพย์สินของครอบครัวเขาก็ถูกพี่ชายล้างผลาญหมดไปนานแล้ว เมื่อก่อนก็เคยล่าหมูป่าเช่นกัน แต่พวกเขาก็เอามาขายหมดแล้ว ครอบครัวนางตัดใจกินไม่ลง ไม่เคยส่งให้หงเหนียง แต่ครั้งนั้นนางส่งไปเยอะมาก และยังเป็นเนื้อที่แล่เรียบร้อยแล้วด้วย!”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ไป๋หมิงฮุ่ยก็อาเจียนออกมาทันที!
ไป๋ชิงหลิงก็หันกลับมา เอามือกุมหน้าอกแล้ว“อาเจียน”ออกมา
ทหารที่ส่งไปได้กลับมาแล้ว พวกเขาถือถุงในมือ วางไว้ข้างๆศพทั้งสองร่าง และรายงานว่า “ใต้เท้า นี่คือกระดูกที่พวกข้าขุดขึ้นมาจากก้นบ่อน้ำของครอบครัวนั้น”
หลังจากได้ยินสิ่งนี้ ไป๋หมิงฮุ่ยก็อาเจียนจนเป็นลมไป
และไป๋ชิงหลิงก็เข่าอ่อน ทรุดนั่งลงกับพื้น
เมื่อสองเดือนที่แล้ว เนื้อที่อวิ๋นมู่เอ๋อร์ส่งไปที่หอหลิวเหยียนนั้น.......
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ไป๋ชิงหลิงก็อาเจียนออกมาอย่างหนัก อยากจะอาเจียนกระเพาะอาหารออกมา และชำระล้างมันให้สะอาด
หรงเยี่ยรีบดึงเธอขึ้นจากพื้น อุ้มเธอไว้บนตัก และพูดว่า “รีบเอาน้ำมา”
อิงเหลียนนำชามน้ำมาให้ เมื่อไป๋ชิงหลิงเห็นน้ำชามนั้น ก็ยื่นมือออกไปผลักออก จากนั้นเอามือปิดปากและอาเจียนอีกครั้ง
หรงเยี่ยจับข้อมือของเธอไว้แน่น เอามือที่เธอปิดปากไว้ออก ก้มหน้าลง และปิดปากเธอด้วยริมฝีปากของเขา
กลิ่นอายของชายชาตรีก็แผ่ซ่านไปทั่ว
มือทั้งคู่ของเธอโอบที่คอของเขา ดูดของเหลวจากปากของเขาอย่างคลั่งไคล้
วันนั้นเธอได้ชิมไปหนึ่งชิ้น แต่รู้สึกว่ารสชาติมันแปลกๆจึงไม่ได้กินเนื้อที่อวิ๋นมู่เอ๋อร์ส่งมาให้
แต่อวิ๋นมู่เอ๋อร์กินอย่างเอร็ดอร่อย แต่ทันทีที่เธอนึกถึงเนื้อเหล่านั้น อาจจะเป็นเนื้อของพี่ชายเธอ เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกกระอักกระอ่วน และอยากอาเจียน!
ปรากฏว่าโรงหมอของเธอได้เลี้ยงฆาตกรไว้
เว่ยซือเฉิงเห็นปฏิกิริยาของไป๋ชิงหลิงและไป๋หมิงฮุ่ยแล้ว ก็เข้าใจเหตุผลในทันที
จักรพรรดิเหยาสีหน้าหม่นหมอง “อวิ๋นมู่เอ๋อร์อยู่ที่ไหน?”
“หายตัวไปแล้ว” เว่ยซือเฉิงกล่าว “เมื่อเสวี่ยหลางชนประตูเปิดออก ก็ไม่มีใครอยู่ข้างใน”
“ออกหมายจับสีดำ ปิดประตูเมือง และใช้เวลาค้นหาผู้หญิงคนนั้นให้เจอโดยเร็วที่สุด” จักรพรรดิเหยาออกคำสั่ง
เสิ่นหรูเหลียนรับคำสั่งทันที จากนั้นก็นำทหารเกราะเงินออกจากสนามประลอง
พระชายาอันจวินมองไปที่เว่ยซือเฉิง และพูดว่า “ฆาตกรผู้นั้นเกี่ยวข้องอะไรกับการที่ฝูงม้าเสียการควบคุม พวกเจ้ากำลังพยายามใช้เรื่องนี้มาหลอกข้าหรือ”
“พระชายา!” ท่านอ๋องอันจวินขมวดคิ้วและพูดว่า “เจ้าไม่ได้ยินที่ใต้เท้าเว่ยและพระชายาท่านอ๋องหรงพูดเมื่อกี้.......”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...