" ไป๋ชิงหลิง เจ้าเจ็บปวดไหม รู้สึกเศร้าไหม ครอบครัวของเสี่ยวจี๋ทุกคนเป็นผู้มีบุญคุณต่อเจ้าและเซิงเอ๋อร์ แต่เจ้ากลับปล่อยให้คนที่นอนข้างเจ้ารังแกพวกเขา ความเป็นมนุษย์ของเจ้าถูกหมาคาบไปกินแล้วหรือ"
อาการปวดหัวรุนแรงได้ถาโถมเข้ามาอย่างหนัก
ไป๋ชิงหลิงใช้มือกุมหัว แล้วก็กัดฟันทนความเจ็บปวดไว้
สิ่งที่โผล่ออกมาในสมองและความรู้สึกนึกคิดนั้น มีเพียงความรู้สึกเดียวเท่านั้น คือ เจ็บปวด
เจ็บปวดมาก
" เจ็บปวดใช่ไหม ปวดมาก ปวดร้าว ถ้าเจ้าไม่อยากเจ็บก็ฆ่าเด็กสองคนนี้ซะ จะได้ชดใช้ชีวิตให้อาจี๋"
ไม่
ไป๋ชิงหลิงกลัวว่าตัวเองจะเสียสติแล้วก็ทำลายลูกจึงปล่อยตัวเองตกลงจากเตียง
ความเจ็บปวดและความตื่นตระหนกทำให้นางเสียการทรงตัว เดินโซเซออกจากห้องแล้วก็วิ่งออกไป แล้วก็วิ่งไปหน้าห้องด้วยความยากลำบาก
นางปล่อยมือที่กดหัวไว้แล้วก็ดึงประตูออก กระโจนเข้าไปข้างในอย่างรวดเร็ว
ซบเข้าไปในอ้อมกอดของหรงเยี่ยที่เฝ้านางและลูกอยู่พอดี
แล้วนางก็ทรุดเข่าลงกับพื้น ใช้มือทั้งสองข้างจับหัวตัวเองไว้ กัดฟันทนด้วยสีหน้าที่ซีดเผือด
หรงเยี่ยเห็นว่านางผิดปกติ จึงรีบประคองนาง " นี่เจ้า เจ้าเป็นอะไรไป"
" เจ้าอย่ามาแตะต้องข้า" ไป๋ชิงหลิงหายใจหอบ สะบัดมือเขาออกแล้วก็ลุกขึ้นวิ่งไปห้องของตัวเอง
หรงเยี่ยตามไปด้วยความรีบเร่ง
หลังจากที่เข้าไปห้องตรงข้ามแล้ว ไป๋ชิงหลิงก็รีบปิดประตูทันที
แต่ก่อนที่ประตูจะถูกปิดนั้น หรงเยี่ยก็ยื่นมือจับขอบประตูไว้ได้ แล้วจ้องมองไป๋ชิงหลิง
เห็นในตาของไป๋ชิงหลิงนั้นมีแสงขาว สีหน้าขาวเหมือนหิมะ เหมือนกับเป็นโรคอะไรสักอย่าง
เขาตกตะลึงมาก " นี่เจ้า"
"เจ้าไสหัวไปซะ" ไป๋ชิงหลิงเดินไปข้างหน้าแล้วก็ผลักรถเข็นของเขา
การผลักของนางทำให้ล้อรถเข็นถอยหลังทันที องครักษ์เหยี่ยวดำที่อยู่ข้างๆ ก็ตะลึงงัน คิดจะยื่นมือช่วยนั้น กลับเห็นแส้สีดำฟาดผ่านหน้าของพวกเขา ลอยไปพันกับไม้คานที่อยู่ด้านบน
ล้อที่กำลังจะกลิ้งถอยหลังนั้นหยุดชะงักทันที
เขากระตุกแส้นิดหน่อย รถเข็นก็กลับไปสู่พื้นเหมือนเดิม
แต่ไป๋ชิงหลิงได้ปิดประตูและได้ใส่กลอนประตูเรียบร้อยแล้ว
องครักษ์ที่ซ่อนอยู่ในความมืดปรากฏออกมาข้างหรงเยี่ย เอ่ย " นายท่าน เมื่อกี้พระชายาต้องการฆ่าท่าน"
" ถอยไปซะ"
" นายท่านมีอันตราย พระชายาต้องการฆ่าท่าน"
" ข้าให้พวกเจ้าถอยไปซะ" องครักษ์เหยี่ยวดำนั้นภักดีต่อหรงเยี่ยเท่านั้น ถ้าพวกเขารับรู้ได้ว่านายของตัวอยู่ในอันตราย พวกเขาจะกำจัดเสี้ยนหนามออกไปทันทีโดยไม่สนราคาที่ต้องจ่าย ต่อให้คนคนนั้นจะเป็น...พระชายาของพวกเขาก็ตาม
องครักษ์เหยี่ยวดำสี่ห้าคนถอยออกมาสิบกว่าเมตร แต่ก็ไม่ได้ห่างจากหรงเยี่ยมากนัก
เวลานี้ ข้างในห้องส่งเสียงเครื่องเคลือบออกมา " เพล้ง เพล้ง เพล้ง "
หรงเยี่ยรวบรวมพลังจิต ปล่อยมือทาบลงไปบนประตู แล้วก็เดินพลังภายใน
กลอนประตูข้างในหักแล้วประตูก็เปิดออกทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...