ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงหลังจากที่ไป๋หมิงฮุ่ยออกไปหรงเยี่ยก็พาเซิงเอ๋อร์กลับจวน
คนรับใช้ที่อยู่ข้างหลังพวกเขาถือกล่องของขวัญกลับมามากมาย ดูเหมือนจะเป็นรางวัลจากการเข้าวัง
ไป๋ชงเซิงวิ่งไปหาไป๋ชิงหลิงแล้วกระโจนเข้าสู่อ้อมแขนของนางอย่างมีความสุขแล้วพูดว่า"ท่านแม่ ผู้หญิงคนนั้นกำลังจะถูกประหารชีวิตแล้ว"
ไป๋ชิงหลิงวางมือลงบนศีรษะของไป๋ชงเซิงแล้วมองลงมาที่หรงเยี่ย"เสด็จพ่อพูดอะไรกับเจ้าบ้าง?"
"ไม่ได้พูดอะไร แค่บอกว่าจะประหารชีวิตนาง"
"แล้วอวิ๋นมู่เอ๋อร์ไม่ได้เปิดเผยว่าใครอยู่เบื้องหลังหรือ?"ไป๋ชิงหลิงขมวดคิ้วแล้วถามเขา
หรงเยี่ยวางมือลงบนที่วางแขนและพูดอย่างใจเย็น"ถ้านางไม่สารภาพว่าใครอยู่เบื้องหลัง เสด็จพ่อคงไม่ตัดสินใจประหารนางเร็วขนาดนี้หรอก"
แต่เขาไม่ได้บอกว่าคนที่อวิ๋นมู่เอ๋อร์สารภาพเป็นใคร
ไป๋ชิงหลิงก็รู้ความหมายของคำพูดหรงเยี่ยที่เขาจะสื่อ"เสด็จพ่อท่านไม่อยากพูดถึงคนที่อยู่เบื้องหลังหรือ?"
หรงเยี่ยพยักหน้าเขายกมือขึ้นกุมมือเล็กๆของไป๋ชิงหลิงไว้แล้วพูดอย่างอ่อนโยน"แม้ว่าท่านจะไม่พูดอะไรแต่ข้าก็พอเดาได้ว่าเป็นใคร อีกไม่นานเสด็จพ่ออาจจะแต่งตั้งรัชทายาท"
นางเดินเข้าไปหาเขา คุกเข่าลงแล้วพูดว่า"เช่นนั้นท่านอ๋องอันจวินว่าอย่างไร?"
"นี่เป็นเรื่องของเสด็จพ่อ แต่ข้าก็เคยคุยๆเรื่องนี้กับท่านอ๋องอันจวินไว้บ้างแล้ว ถ้ามีบุคคลอื่นที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้อีกแน่นอนว่าไม่ใช่พระชายาของข้าแน่นอน ข้าขอให้ท่านอ๋องอันจวินไปหาคำตอบจากเสด็จพ่อด้วยตัวเขาเองเสด็จพ่อจะให้คำตอบเขาหรือไม่นั้นเจ้าก็ไม่ต้องกังวลไปหรอก"ริมฝีปากบางของเขาโค้งเป็นรอยยิ้ม ไป๋ชิงหลิงรู้สึกว่าท่าทางของเขาตอนนี้ดูร้ายกาจ
"เจ้าวางแผนต่อต้านเสด็จพ่อ!"
"ก็ทำนองนั้น"
"หมายความว่าอย่างไร"คำว่าทำนองนั้นนี่เหมือนจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น
เขาจับใบหน้าของนางแล้วพูดอย่างอ่อนโยนว่า"ไม่มีอะไร"
"ท่าทางเจ้าตอนนี้ต้องมีเรื่องอีกมากมายที่เจ้ายังไม่ได้พูดแน่นอน ข้าเดาว่าเสด็จพ่อตาเฒ่าเจ้าเล่ห์นั่นต้องคิดว่าตอนนี้ข้าสามารถสงบความโกรธของเสด็จอาสะใภ้ได้ ให้เจ้ากลับจวนมาเพื่อมากดดันข้าทำให้ข้าจำเป็นจะต้องรักษาอันจวินน้อยให้หายและให้คำอธิบายแก่จวนท่านอ๋องอันจวินให้ได้ เขาไม่อยากพูดถึงคนที่อยู่เบื้องหลังอีกต่อไปและเขาต้องการใช้ประโยชน์จากข่าวลือจากโลกภายนอกเพื่อทำให้ข้าได้รับโทษ เจ้าโกรธมากจึงไปหาท่านอ๋องอันจวินและบอกเรื่องนี้ให้ท่านอ๋องอันจวินก่อน จากนั้นจึงให้เขาไปตรวจสอบด้วยตนเอง"ไป๋ชิงหลิงเลิกคิ้วแล้วพูด
หรงเยี่ยหัวเราะเบาๆแล้วมองไปที่แผ่นแปะแผลบนใบหน้าของนาง รอยยิ้มบนใบหน้าก็ค่อยๆหายไป"พระชายาเป็นคนที่ไร้เดียงสาที่สุด ข้าไม่สามารถอนุญาตให้เจ้าทำสิ่งนี้ได้ เขาวางแผนจัดการข้าได้แต่ไม่ควรจัดการเจ้าด้วย"
"โถ่!"ไป๋ชิงหลิงถอนหายใจเบาๆ
หรงเยี่ยไม่เข้าใจ"เกิดอะไรขึ้น?"
"เสด็จพ่อเองก็ตกที่นั่งลำบากเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นท่านอ๋องคนไหนก็ล้วนแต่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของท่าน แต่ลูกสะใภ้นั้นไม่เหมือนกันนะ ถ้าไม่มีลูกสะใภ้ลูกชายก็ยังอยู่ได้......"
ก่อนที่นางจะพูดเสร็จหรงเยี่ยก็จับมือนางไว้
เขาหรี่ตาแล้วพูดว่า"ถ้าเจ้าพูดอะไรไร้สาระอีกข้าจะไม่เกรงใจเจ้าแล้วนะ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...