"คนของพระชายารองหวู่ส่งจดหมายมาให้เพคะ"ชิงจู๋เดินไปข้างหน้าและยื่นกระดาษด้วยมือทั้งสองข้าง
ไป๋ชิงหลิงรับกระดาษมาเปิดดูในนั้นมีข้อความว่า"พระชายาต้วนนั้นแตกต่าง ท่านอ๋องต้วนกำลังจะพาพระชายาต้วนไปอยู่ที่จวนติ้งเป่ยโหว พระชายาต้องระวังพระชายาต้วนไว้ด้วย"
หลังจากอ่านเนื้อหาในกระดาษไปแล้วไป๋ชิงหลิงก็ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว
"ข้ารู้แล้ว เจ้าลงไปก่อนและจับตาดูจวนท่านอ๋องต้วนไว้ด้วย ถ้าพระชายารองหวู่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรก็ให้รีบกลับมารายงานข้า"
"เพคะ"ไม่นานหลังจากที่ชิงจู๋ออกไป ฮูหยินอาวุโสก็ส่งคนมา"เชิญ"นาง
แม่นมซั่งเดินเข้ามาในห้องแล้วพูดว่า"พระชายาเพคะ เป็นคนของฮูหยินอาวุโสจากจวนติ้งเป่ยโหวเพคะ"
"พูดว่าอะไร?"ไป๋ชิงหลิงถาม
แม่นมซั่งพูดว่า"ฮูหยินอาวุโสบอกว่า ท่านอ๋องต้วนและพระชายาต้วนได้กลับมาที่จวนติ้งเป่ยโหวแล้ว พวกเขาจะพักในโถงการกุศลเพื่อรับประทานอาหารกลางวันในวันนี้ จึงตั้งใจอยากจะเชิญพระชายามารับประทานอาหารกลางวันด้วยกันเพคะ"
ไป๋ชิงหลิงมองดูตัวเองในกระจก นางหยิบยาขี้ผึ้งมาหนึ่งช้อนและทาลงบนบาดแผลบนใบหน้าของนาง
หมอซูรักษานางเป็นอย่างดี ตอนนี้บาดแผลบนใบหน้าของนางก็หายเป็นปกติแล้วแต่แผลเป็นที่เหลือนั้นค่อนข้างยาวแทบจะเต็มใบหน้าข้างขวาของนาง
หลังจากที่นางทายาขี้ผึ้งเสร็จแล้วนางก็พูดเบาๆว่า"คอยดูว่าท่านอ๋องจะกลับมาเมื่อไหร่ ถ้าท่านอ๋องกลับจวนแล้วก็ให้ไปด้วยกัน"
"เพคะ หม่อนฉันจะไปบอกคนเหล่านั้น"แม่นมซั่งออกจากห้องไป
หรงเยี่ยไปอยู่ตรงจุดนั้นและพาเด็กทั้งสองกลับไปที่จวนติ้งเป่ยเพื่อรับประทานอาหารกลางวัน ไป๋ชิงหลิงนำจดหมายที่พระชายารองหวู่ส่งมาให้หรงเยี่ยดู
หลังจากที่หรงเยว่อ่านเนื้อหาในจดหมายแล้ว คิ้วของเขาก็ขมวดขึ้นอย่างรวดเร็ว
ไป๋ชิงหลิงพูดว่า"ไป๋จิ่นและท่านอ๋องต้วนกลับมาที่จวนติ้งเป่ยโหวแล้ว ฮูหยินอาวุโสส่งคนมาเชิญข้าไปทานอาหารกลางวันด้วยกัน ข้าให้แม่นมซั่งบอกคนในโถงการกุศลว่ารอให้เจ้ากลับมาค่อยตัดสินใจ ท่านอ๋องอยากไปหรือไม่?"
หรงเยี่ยจ้องที่จดหมายเงียบๆครู่หนึ่ง จากนั้นเงยหน้าขึ้นแล้วถามว่า"เจ้าคิดว่าไป๋จิ่นมีบางอย่างผิดปกติหรือ?"
"มีหรือไม่มีต้องไปดูถึงจะรู้ ข้าเห็นนางเมื่อครึ่งเดือนก่อน นางดูป่วยหนักบวกกับที่ท่านอ๋องต้วนปฏิบัติกับนางแบบนั้นอีก ข้าแน่ใจว่านางจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน......."
"ข้าแน่ใจว่านางจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน นานสุดก็คงไม่เกินสองเดือน และนางสามารถจากไปได้ทุกเมื่อ"พระชายารองหวู่บอกว่าไป๋จิ่นนั้นแตกต่าง เพียงแค่ต้องดูก็จะรู้ได้ว่าแตกต่างที่ตรงไหน
หลังจากที่ประสบเจอกับอวิ๋นมู่เอ๋อร์ นางก็ไม่กล้าที่จะเข้าใกล้คนอันตรายเหล่านี้อีก
หรงเยี่ยก็ไม่อนุญาตเช่นกัน
หรงเยี่ยเผาจดหมายทิ้งแล้วมองดูเด็กทั้งสอง"จิ่งหลินและเซิงเอ๋อร์อยู่ที่สวน ข้าจะไปดูเป็นเพื่อนเจ้าด้วย"
หลังจากพูดเช่นนั้น หรงเยี่ยก็ให้คนจัดการเตรียมอาหารกลางวันให้กับเด็กทั้งสอง
ไป๋ชิงหลิงเข็นหรงเยี่ยไปที่โถงการกุศล
นายท่านใหญ่ นายท่านรอง นายท่านคนที่สามทั้งหมดต่างก็ไปที่ลานของฮูหยินอาวุโส หลังจากที่ติ้งเป่ยโหวมุ่งหน้ามาถึง รู้ว่าท่านอ๋องต้วนกลับจวนติ้งเป่ยโหวแล้วเขาก็รีบมาทันที
ติ้งเป่ยโหวไม่เคยลืมสิ่งที่เกิดขึ้นในจวนติ้งเป่ยโหวก่อนหน้านี้เลย ดังนั้นเขาจึงไม่อนุญาตให้ไป๋จิ่นกลับมาที่จวนโหวบ่อยๆ
อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้ท่านอ๋องต้วนก็กลับมาด้วยเขาจึงพูดอะไรไม่ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...