ตอน บทที่ 397 ความน่าเกรงขามของท่านอ๋องอันจวิน จาก ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 397 ความน่าเกรงขามของท่านอ๋องอันจวิน คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายการเกิดใหม่ ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น ที่เขียนโดย พระจันทร์ขี้เมา เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
หลังจากพูดจบ ทั้งสามคนก็เดินไปตามทางของตัวเอง และแยกจากกันหลังจากนั้นไม่นาน อ๋องเฉินซึ่งยืนนิ่งอยู่ก็ลูบหัวตัวเอง และเขาใช้เวลานานกว่าจะได้สติกลับมา
เขาเข้ามาทำอะไรที่พระราชวัง?
ใช่แล้ว เขาจะมาเอาปิ่นหยกให้เม่ยเอ๋อร์
“พี่เจ็ด พี่สะใภ้เจ็ด พวกท่านรอข้าด้วย” อ๋องเฉินลากเท้าที่บาดเจ็บของเขาและไล่ตามเขาไปทีละก้าว เมื่อเขามาถึงตำหนักเฟิ่งหลวน ปิ่นหยกก็อยู่ในมือของฮองเฮาอู่แล้ว
หลวนอี๋เอนตัวพิงฮองเฮาอู่ด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยประกาย จ้องมองที่ปิ่นหยกในมือของนาง
“ว้าว ที่แท้ปิ่นหยกของเสด็จย่าเป็นแบบนี้นี่เอง มีลักษณะสวยงามมากเพคะ” หลวนอี๋ดูตื่นเต้น
ใบหน้าฮองเฮาอู่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม “นี่เป็นของขวัญที่พี่สะใภ้เจ็ดเตรียมไว้ให้เจ้าล่วงหน้า ยังไม่รีบขอบคุณพี่สะใภ้เจ็ดอีก”
หลวนอี๋ลุกขึ้น วิ่งไปที่ด้านข้างของไป๋ชิงหลิง กอดแขนของไป๋ชิงหลิงด้วยมือทั้งสองข้าง และพูดว่า “พี่สะใภ้เจ็ด ขอบคุณมาก ข้าซาบซึ้งในความเมตตาของท่านมาก แต่ปิ่นหยกนี้ท่านพี่เจ็ดมอบให้ท่าน ข้ารับไว้ไม่ได้”
ไป๋ชิงหลิงคิดไม่ถึงว่าหลวนอี๋จะปฏิเสธ
นางยกมือขึ้นและกำลังจะตบหลังมือของหลวนอี๋ แต่ในขณะนี้เสียงของอ๋องเฉินดังมาจากด้านหลัง “ในเมื่อหลวนอี๋ไม่ต้องการ เช่นนั้นเสด็จแม่ก็ยกปิ่นหยกให้ลูกเถอะ วันเกิดของเม่ยเอ๋อร์ใกล้จะถึงแล้ว ลูกต้องการมอบปิ่นหยกนี้ให้เม่ยเอ๋อร์ เป็นของขวัญวันเกิด”
ทันทีที่พูดจบ สีหน้าของฮองเฮาอู่ก็เปลี่ยนไปอย่างมาก และกล่องไม้ในมือของนางก็ถูกปิดอย่างแรงเช่นกัน
สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่อ๋องเฉิน
เขาประคองเท้าที่บาดเจ็บด้วยมือข้างเดียว ก้าวข้ามธรณีประตู และเดินกะโผลกกะเผลกเข้าไปในห้องโถง
หรงเยี่ยขมวดคิ้ว มือทั้งสองข้างของเขาจับที่วางแขนของเก้าอี้แน่น
หลวนอี๋จ้องมองอย่างโกรธแค้นไปที่อ๋องเฉิน
ฮองเฮาอู่ยืนขึ้นและกล่าวว่า “เฉินเอ๋อร์ เจ้าเคยสัญญากับเสด็จแม่ ว่าจะอยู่ในจวนอ๋องเพื่อพักฟื้นจากอาการบาดเจ็บ เหตุใดเจ้าจึงกลับเข้ามาที่วังอีก เท้าของเจ้า……”
“เสด็จแม่ หลังจากที่ลูกได้ปิ่นหยกแล้ว ก็จะกลับจวนอ๋องไปพักฟื้นพ่ะย่ะค่ะ”
คำพูดของอ๋องเฉิน ทำให้สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปเล็กน้อย โดยเฉพาะสีหน้าของหรงเยี่ยที่เคร่งขรึมราวกับดำสนิท
เพราะการถามเรื่องปิ่นหยกของอ๋องเฉิน สีหน้าของฮองเฮาอู่กระตุกเล็กน้อย
นางยื่นปิ่นหยกให้แม่นมหยาง และพูดด้วยใบหน้าจริงจัง “เฉินเอ๋อร์ นี่เป็นรางวัลที่พี่เจ็ดของเจ้าได้รับกลับมา พี่สะใภ้เจ็ดของเจ้ามอบปิ่นหยกให้แก่น้องสาวของเจ้า แล้วเจ้าจะขอปิ่นหยกไปอย่างมั่นใจเช่นนี้ได้อย่างไร”
“ข้า……” อ๋องเฉินถูกดักไว้จนตกตะลึงพูดอะไรไม่ออก
หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป อ๋องเฉินจะถูกทำลายด้วยน้ำมือของเสิ่นโหรวเม่ย
แม้ว่าฮองเฮาอู่จะโกรธ แต่นางก็ละรึกถึงคำพูดของแม่นมหยาง และนางต้องถอยห่างเพื่อก้าวไปข้างหน้า ตอนนี้นางได้ยินคำตอบที่ตรงไปตรงมาของอ๋องเฉิน นางจึงพูดด้วยใบหน้าบูดบึ้ง “เช่นนั้นตอนนี้ทำไมพี่เจ็ดถึงต้องให้ปิ่นหยกแก่เจ้าด้วย”
“แต่……” อ๋องเฉินตกตะลึง เงยหน้าขึ้นมองฮองเฮาอู่ และพูดด้วยความคับแค้นใจ : “แต่เมื่อครู่นี้พี่สะใภ้เจ็ดให้ปิ่นปักผมแก่หลวนอี๋……”
หลวนอี๋เดินไปที่ไป๋ชิงหลิง นำปิ่นใส่กลับเข้าไปในมือของไป๋ชิงหลิง นางขัดจังหวะคำพูดของอ๋องเฉิน “ของขวัญของพี่สะใภ้เจ็ดให้ข้าเป็นอีกเรื่องหนึ่ง หากข้าไม่รับ เช่นนั้นปิ่นนี้ก็ยังเป็นของพี่สะใภ้เจ็ด พี่แปดอย่าทำกับคนอื่นในสิ่งที่ท่านไม่อยากให้คนอื่นทำกับท่าน เพื่อเสิ่นโหรวเม่ย ทำไมท่านถึงกลายเป็นแบบนี้ แม้ว่าข้าจะยอมรับปิ่นหยกนี้ หรือว่าในสายตาของท่าน ข้าน้องสาวผู้นี้ไม่เหมาะสมที่จะใช้มันหรือ?”
ดวงตาของหลวนอี๋เปลี่ยนเป็นสีแดง และน้ำตาก็คลอเบ้า
เมื่ออ๋องเฉินได้ยินคำพูดของนาง เขาก็ตื่นตระหนก “ข้าไม่คิดเช่นนั้น เม่ยเอ๋อร์และเจ้าล้วนเป็นคนสำคัญของข้า ข้าแค่อยากทำให้พี่สะใภ้แปดของเจ้ามีความสุข นางรู้สึกหดหู่ใจเพราะการสูญเสียลูกอยู่ตลอด ข้าจึงสัญญากับนาง ว่าจะนำปิ่นหยกกลับมาให้นาง”
“เอาละ หากเป็นเช่นนั้น ก็ให้พี่สะใภ้แปดมาที่พระราชวัง และบอกต่อหน้าเสด็จแม่ว่านางต้องการปิ่นหยก ตราบใดที่นางพูดเอง เช่นนั้นข้าจะเป็นคนตัดสินใจ มอบปิ่นหยกนี้ให้แก่พี่สะใภ้แปด” หลวนอี๋มองไปที่ปิ่นหยกในมือของไป๋ชิงหลิง
ด้วยสีหน้าขอโทษ เขาเดินไปหาไป๋ชิงหลิงและพูดว่า “พี่สะใภ้เจ็ด ข้าขอโทษ ข้าจัดการเรื่องปิ่นหยกนี้ด้วยตัวเองโดยพลการ!”
“ข้อเสนอขององค์หญิงดีมาก เช่นนั้นก็ทำแบบนี้เถอะ” ไป๋ชิงหลิงจับมือของหลวนอี๋ และชำเลืองมองไปที่อ๋องเฉินที่ยืนอยู่ข้าง ๆ
นางต้องการดูว่าเสิ่นโหรวเม่ยจะหน้าหนาเพียงใด……
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...