ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 404

สรุปบท บทที่ 404 การโต้เถียงกันระหว่างฮองเฮาอู่กับท่านอ๋องเฉิน: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น

สรุปตอน บทที่ 404 การโต้เถียงกันระหว่างฮองเฮาอู่กับท่านอ๋องเฉิน – จากเรื่อง ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น โดย พระจันทร์ขี้เมา

ตอน บทที่ 404 การโต้เถียงกันระหว่างฮองเฮาอู่กับท่านอ๋องเฉิน ของนิยายการเกิดใหม่เรื่องดัง ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น โดยนักเขียน พระจันทร์ขี้เมา เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ท่านอ๋องเฉินเอื้อมมือไป จับเสื้อของฮองเฮาอู่

ฮองเฮาอู่ชะงักไปสักพัก หันมามองเขาและพูดอย่างจริงจังว่า “เฉินเอ๋อร์ เมื่อไหร่เจ้าจะได้สติ คนที่ดีกับเจ้าพูดอะไรเจ้าก็ไม่เชื่อแม้แต่น้อย เสิ่นโหรวเม่ยพูดอะไรก็ดีไปหมด เจ้าไม่คิดดูว่าขาของเจ้าใครเป็นคนรักษา”

เมื่อได้ยินฮองเฮาอู่บ่นเสิ่นโหรวเม่ย จู่ๆท่านอ๋องเฉินก็ปล่อยมือจากเสื้อของฮองเฮาอู่ เม้มปากด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย ขมวดคิ้วและพูดว่า “เสด็จแม่ ไม่ใช่ความผิดของเม่ยเอ๋อร์”

“ใช่ ไม่ใช่ความผิดของนาง นางประเสริฐที่สุด ก่อนหน้านี้พี่สะใภ้เจ็ดของเจ้าสั่งยาให้เจ้าก็ไม่ยอมกิน เอาไปเลี้ยงปลา ข้าไม่เชื่อว่าเสิ่นโหรวเม่ยไม่ได้ทำการยุยงเจ้าอย่างลับๆ” ฮองเฮาอู่รู้สึกโกรธจึงต่อว่าโดยตรง และไม่พูดอ้อมค้อมเหมือนก่อน

ท่านอ๋องเฉินไม่คิดว่าฮองเฮาอู่จะมีอคติต่อเสิ่นโหรวเม่ยมากเช่นนี้ หันไปมองฮองเฮาอู่ด้วยความประหลาดใจ

“เสด็จแม่ ไม่ใช่ นางไม่เคยยุยงข้า ปิ่นหยกเป็นของขวัญที่ข้านั้นอยากมอบให้กับนาง”

“พอละ ไม่ต้องเอ่ยถึงปิ่นหยก” ตราบใดที่เธอพูดถึงเรื่องนี้ เธอก็รู้สึกโกรธขึ้นมาทันที

เสิ่นโหรวเม่ยสามารถพูดเปลี่ยนสีขาวให้เป็นสีดำได้ แม้ว่าเธอตั้งใจยุยง ลูกชายที่ซื่อบื้อของเธอจะสังเกตเห็นได้อย่างไร

ตอนนี้เธอรู้สึกเสียใจจริงๆที่ตกลงและเห็นด้วยกับเรื่องแต่งงาน เธอควรจะส่งเสิ่นโหรวเม่ยออกไปให้ไกลๆ และไม่ให้กลับมาที่เมืองหลวงอีกตลอดกาล

ท่านอ๋องเฉินไม่รู้ความคิดในใจของเสด็จแม่ เขาเงยหน้ามองที่ขาของเขา “เสด็จแม่ ในเมื่อขาของข้าได้รับการผ่าตัดแล้ว ข้าก็สามารถกลับตำหนักอ๋องได้แล้วใช่ไหม”

“เจ้าพูดอะไร?” จู่ๆน้ำเสียงของฮองเฮาอู่ก็แหลมสูงขึ้น

ท่านอ๋องเฉินหดคอ ตั้งใจฟังและพูดว่า “เม่ยเอ๋อร์อยู่คนเดียวในตำหนัอ๋องก ลูกกลัวว่านางจะกังวล”

“เจ้า.........” ฮองเฮาอู่ชี้ไปยังท่านอ๋องเฉิน โมโหจนพูดอะไรไม่ออกเป็นเวลานาน

หมอหลวงจ้าวเดินเข้ามาเกลี้ยกล่อมว่า “ท่านอ๋องเฉิน แม้ว่าพระชายาท่านอ๋องหรงได้ทำการผ่าตัดให้กับท่าน ตัดเอาเนื้อเน่าออก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าฝ่าบาทพ้นช่วงอันตรายแล้ว!”

“อย่าพูดเหลวไหล ข้าแค่บาดเจ็บที่ขา จะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้อย่างไร!” ท่านอ๋องเฉินรู้สึกว่าเสด็จแม่ของเขากำลังหลอกเขา

และคนที่หลอกเสด็จแม่ของเขา ก็คือพี่สะใภ้เจ็ดของเขา

ฮองเฮาอู่ตะโกนด้วยความโกรธ “มาถึงขนาดนี้แล้ว เจ้ายังคิดว่าข้าโกหกเจ้าเหรอ เฉินเอ๋อร์ เจ้ามีสมองบ้างไหม”

“เสด็จแม่.......”

“ห้ามกลับตำหนักอ๋อง รออาการบาดเจ็บของเจ้าหายดีค่อยว่ากัน มิฉะนั้นข้าจะส่งเสิ่นโหรวเม่ยออกไปจากเมืองหลวง เจ้าจะไม่ได้พบนางอีก” ฮองเฮาอู่โกรธจนร้อนใจ จึงพูดจารุนแรงกับเขา

แต่ท่านอ๋องเฉินกลับจริงจังกับคำพูดของเธอ

เขานั่งลงอย่างอารมณ์เสีย และพูดว่า “เสด็จแม่ หากท่านกล้าส่งเม่ยเอ๋อร์ออกไป งั้นลูกก็จะไม่กลับมาเมืองหลวงอีก ท่านจะไม่ได้พบข้าอีกเช่นกัน!”

“เจ้า......เจ้า.........” ฮองเฮาอู่กุมหน้าอกและทุบหน้าอกตัวเอง

เมื่อพูดถึงจุดนี้ เธอลดสายตามองขาที่บาดเจ็บของท่านอ๋องเฉิน ชี้ไปยังขาที่บาดเจ็บและพูดว่า “ตอนนี้เพิ่งทำการผ่าตัดให้เจ้า ขูดเนื้อเน่าออกให้เจ้า แต่ว่า ถ้าไม่ดูแลดีๆแล้วเกิดติดเชื้อภายหลัง ต่อให้เซียนก็ไม่สามารถรักษาขอของน้องแปดได้ ถ้าเจ้ายอมรับการตัดขาทิ้งได้ ก็สามารถกลับตำหนักอ๋องได้เลย”

ท่านอ๋องเฉินตัวสั่น และมองไปที่ขอของเขา เขารู้สึกว่ามันไม่เจ็บเลย จึงไม่ได้ใส่ใจ เขารู้สึกว่าไป๋ชิงหลิงกำลังพูดเพื่อให้เขากลัว

เช่นเดียวกับครั้งแรกที่เขาไปหาเธอที่โรงหมอของเธอ ก็ได้พูดเรื่องการตัดแขนขาเพื่อให้เขากลัว

และตอนที่อยู่ในห้องโถงใหญ่ เสด็จพ่อเสด็จแม่และน้องสาวของเขาก็ทำให้เขากลัวแบบเดียวกัน

พวกเขาต่างไม่อยากให้ข้ากลับตำหนักอ๋องเพื่ออยู่กับเม่ยเอ๋อร์ ดังนั้นเขาจะไม่ตกหลุมพรางเด็ดขาด

“กลับ ข้าจะกลับตำหนักอ๋อง” ท่านอ๋องเฉินกล่าว

ดวงตาของฮองเฮาอู่แดงก่ำ เธอหันกลับออกจากห้องโถงด้านข้าง ท่านอ๋องเฉินชำเลืองมองฮองเฮาอู่ จากนั้นก้มศีรษะลง ไม่กล้ามองไปมากกว่านี้

เขากลัวว่าเขาจะใจอ่อนและยอมอยู่ต่อ

เขาจะใจอ่อนไม่ได้ เม่ยเอ๋อร์ยังรอเขาอยู่ที่ตำหนักอ๋อง เขาต้องกลับตำหนักอ๋อง

หรงเยี่ยยังคงเงียบ แต่หลังจากที่ฮองเฮาอู่จากไป เขาก็หรี่ตา และพูดเสียงต่ำว่า “เจ้ายอมรับการสูญเสียขาข้างหนึ่งได้จริงๆหรือ?”

ท่านอ๋องเฉินอึ้งไป มองไปยังชายที่นั่งอยู่ข้างประตูห้องโถงด้านข้าง กำหมัดแน่นและพูดว่า “พี่เจ็ด พวกท่านบอกจะตัดขาของข้า แต่สุดท้ายขาของข้าก็ยังอยู่ดี อย่ามาโกหกข้าเลย”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น