“ฮูหยินอาวุโสไม่จำเป็นต้องเอาครอบครัวข้ามาขู่ข้าอีก ข้ารู้ดี.......พวกเขาตายหมดแล้ว” แม่นางอู๋จ้องมองฮูหยินอาวุโส ด้วยสีหน้าที่เศร้าหมอง
เธอรอวันนี้มานานมากแล้ว
“เรื่องนี้ต้องเริ่มเล่าจากตอนที่ข้านั้นยังเป็นคนรับใช้ล้างเท้าให้ฮูหยินอาวุโส ก่อนที่ฮูหยินจะแต่งเข้าจวนโหว ก็มีความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยากับไป๋อู้อี้แล้ว แต่ฮูหยินมีรูปโฉมงดงาม ท่านอ๋องโหวจึงตกหลุมรักแต่แรกเห็น เพื่อรักษาตำแหน่งในจวนโหวให้มั่นคง และควบคุมท่านอ๋องโหวให้อยู่ในกำมือ ฮูหยินอาวุโสจึงได้พรากคู่สามีภรรยานี้ออกจากกัน”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ แม่นางอู๋ก็เงยหน้าขึ้นมองติ้งเป่ยโหว “ท่านอ๋องโหวน่าจะเคยได้ยินมาก่อน เรื่องที่ว่าภรรยาคนแรกของเขาเสียชีวิต ก่อนที่ไป๋อู้อี้จะแต่งงานกับข้า”
ติ้งเป่ยโหวกำหมดแน่น จ้องมองฮูหยินอาวุโสด้วยดวงตาที่แดงก่ำ “ภรรยาคนแรกของน้องสี่ไม่ได้เสียชีวิต ท่านฉวยโอกาสจากความจริงที่ว่ามีเพียงไม่กี่คนที่รู้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ปล่อยข่าวว่าภรรยาของน้องสี่เสียชีวิตไปแล้ว และให้แม่นางหลิ่วแต่งงานกับข้า เพื่อต้องการควบคุมจวนโหว และควบคุมข้า”
“อย่าฟังที่นางพูด นางพูดจาเหลวไหล” ฮูหยินอาวุโสหยิบไม้เท้าขึ้นมา ยกขึ้นเหนือหัวของเธอ และกำลังจะฟาดไปที่แม่นางอู๋
องครักษ์เหยี่ยวดำที่อยู่ข้างๆ ก็ดึงไม้เท้าออกจากมือของเธอโดยตรง และผลักฮูหยินอาวุโสนั่งลงบนเก้าอี้
เมื่อฮูหยินอาวุโสเผชิญหน้ากับองครักษ์เหยี่ยวดำ เธอก็ไม่กล้าขยับเขยื้อน
ไป๋ชิงหลิงมองเธออย่างเย็นชาและพูดว่า “เล่าต่อสิ”
“อย่างที่ท่านอ๋องโหวพูด ทั้งหมดนี้ก็เพื่อที่จะควบคุมทรัพย์สินในนามของท่านอ๋องโหว ฮูหยินอาวุโสไม่เคยคิดว่าท่านเป็นคนในครอบครัว หลังจากที่ฮูหยินคลอดลูกแฝด ฮูหยินอาวุโสก็ให้ฮูหยินขึ้นเตียงกับไป๋อู้อี้ ระหว่างที่ท่านอ๋องโหวไม่อยู่ ฮูหยินก็ตั้งท้อง เด็กคนนี้ก็คือลูกของไป๋อู้อี้ ฮูหยินอาวุโสกล่าวว่า........ขอเพียงให้กำเนิดสายเลือดของตระกูลไป๋ อนาคตตำแหน่งท่านอ๋อง ก็เป็นของตระกูลไป๋”
“เท่านี้ยังไม่พอ!” แม่นางอู๋ชำเลืองมองแม่นางหลิ่ว พร้อมกับรอยยิ้มที่เหน็บแนมบนใบหน้าของเธอ “ฮูหยินเห็นว่าพี่รองอาศัยอยู่ในเรือนเป็นเวลานาน รูปโฉมหล่อเหลากว่าบัณฑิตทั่วไป ช่วงที่ท่านอ๋องโหวไม่อยู่ นางก็พยายามยั่วยวนพี่รอง”
“พี่รอง”ที่แม่นางอู๋พูดถึง ก็คือลูกชายที่ฮูหยินอาวุโสคลอดคนแรก ชายที่ขาข้างหนึ่งเป็นง่อย
“แม่นางหลิ่วคิดว่า ผู้ชายทุกคนในเรือนนี้ ต่างก็ชอบใบหน้าที่งดงามของนาง แต่น่าเสียดาย ที่นางยั่วยวนพี่รองไม่สำเร็จ มีอยู่ครั้งหนึ่ง........ข้าอยู่ข้างสระบัวมองเห็นแม่นางหลิ่วพุ่งเข้าไปกอดพี่รอง แต่พี่รองผลักนางออก และตำหนินางอย่างรุนแรง ตั้งแต่นั้นมา พี่รองก็แทบจะไม่ออกจากเรือนของตัวเองอีกเลย”
ความโกรธ ควมเจ็บปวก ความสิ้นหวังของท่านอ๋องโหวในตอนแรก ตอนนี้ค่อยๆสงบลง
แม้ว่าจะสงบลง แต่เขาก็ตกใจอย่างมาก กับธาตุอีกด้านหนึ่งของแม่นางหลิ่ว
เขาเดินเข้าไป หยิบผ้าที่อุดปากของแม่นางหลิ่วออก
แม่นางหลิ่วกรีดร้องเหมือนคนบ้าทันที “ไม่นะ ไม่ใช่อย่างนั้น สิ่งที่แม่นางอู๋พูดเป็นเพียงความข้างเดียว เพราะข้าถูกบังคับ เมื่อข้าแต่งงานกับท่านอ๋องโหวข้าก็อยากเป็นภรรยาของท่านอ๋องโหวจริงๆ แต่ท่านแม่บังคับข้า นางบังคับข้า”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...