ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 413

สรุปบท บทที่ 413 จัดการฮูหยินอาวุโส: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น

สรุปตอน บทที่ 413 จัดการฮูหยินอาวุโส – จากเรื่อง ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น โดย พระจันทร์ขี้เมา

ตอน บทที่ 413 จัดการฮูหยินอาวุโส ของนิยายการเกิดใหม่เรื่องดัง ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น โดยนักเขียน พระจันทร์ขี้เมา เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

กล้าดียังไงมาเรียกผู้หญิงคนนั้นว่าพี่สะใภ้?

ชื่อเสียงและศักดิ์ศรีของตระกูลพวกเขาถูกผู้หญิงคนนั้นทำลายจนสิ้น

เดิมที เมื่อครึ่งปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ของเขากับจวนโหวก็ไม่ตึงเครียดถึงเพียงนี้ เท่าที่เห็น อีกไม่นานเขาก็สามารถกลับไปอยู่ในจวนโหวได้ แต่ใครจะไปรู้ว่าสุดท้ายแล้วจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น

ติ้งเป่ยโหวชำเลืองมองใบหน้าของอนุภรรยา “ออกไปจากจวนโหวตั้งแต่วันนี้ ไม่เพียงแค่ฮูหยินอาวุโสและอนุภรรยาสี่ อนุภรรยาของพวกเจ้าเองก็พาภรรยาและลูกของพวกเจ้าออกไปด้วย ตั้งแต่บัดนี้ไป ห้ามเข้ามาในจวนโหวแม้แต่เพียงครึ่งก้าว”

“พี่ใหญ่ อนุภรรยาของพวกข้าไม่ได้ทำสิ่งใดผิด ท่านจะให้พวกข้า......”

“เรื่องของไป๋หมิงอวี้ เจ้าคิดว่าข้าไม่สนใจเลยอย่างนั้นหรือ!” จู่ ๆ ติ้งเป่ยโหวก็เอ่ยถึงไป๋หมิงอวี้ที่ตายจากไป นายท่านรองก็เงียบในทันที

ติ้งเป่ยโหวมองมาที่ไป๋ชิงหลิง “พระชายา ลูกน้องของข้าล้วนแต่เป็นคนหยาบคาย ไม่ค่อยรู้หนังสือ จึงไม่ต้องพูดถึงเกี่ยวกับเรื่องการคิดบัญชี หากเจ้ายังมีคนเหลือให้ใช้งานบ้าง เช่นนั้นก็ช่วยข้าหาพ่อบ้านที่สามารถจัดการเกี่ยวกับเรื่องบัญชี เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาเร่งด่วนพวกนี้ให้ข้าเป็นการชั่วคราว”

ไป๋ชิงหลิงกำลังรอให้ติ้งเป่ยโหวเอ่ยปาก ทรัพย์สมบัติของจวนโหวเกรงว่าจะมีไม่น้อย ฮูหยินอาวุโสใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายตลอดหลายปีที่ผ่านมา หากต้องการทำบัญชี เกรงว่ามันคงไม่ใช่เรื่องที่จะจัดการได้ภายในวันหรือสองวัน

หงเหนียงช่วยจัดการเรื่องทรัพย์สมบัติในจวนอ๋องให้กับหรงเยี่ยอย่างเงียบ ๆ ถือว่าเป็นผู้ที่มีความสามารถในการทำบัญชีที่ยอดเยี่ยม หากให้นางมาทำบัญชี แน่นอนว่าจะไม่มีปัญหา

“ท่านพ่อ ทางข้าก็มีผู้มีความสามารถอยู่พอดี ท่านจัดการกับเรื่องที่อยู่ตรงหน้าไปก่อน บัญชีที่ต้องชำระนั้นแม้ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่อาจหลีกหนีได้!” ไป๋ชิงหลิงกล่าวออกมา

ติ้งเป่ยโหวพยักหน้า สั่งให้ลูกน้องพาตัวฮูหยินอาวุโสขึ้นไปบนรถม้าเพื่อไปส่งยังชนบท

ส่วนไป๋อู้อี้และแม่นางหลิ่ว พวกเขาถูกคนในตระกูลจับใส่กระสอบและพาตัวออกไป......

หลังจากที่คนในห้องโถงใหญ่ออกไปหมดแล้ว ติ้งเป่ยโหวนั่งลงบนพื้นอย่างแรง ไป๋กัวจ้าวเข้าไปพยุงเข้าพร้อมกับกล่าวด้วยความเป็นห่วง “ท่านโหว!”

“นางยอมรับจากปากของนางเอง......นางบอกกับข้าว่า นอกจากชิงหลิงและจิ่นเอ๋อร์ คนอื่นก็ไม่ใช่ลูกของข้า และแม่ของพวกนางทั้งสอง......” พูดถึงตรงนี้ ติ้งเป่ยโหวก็กระอักเลือดออกมา

ไป๋ชิงหลิงคุกเข่าลง หยิบเข็มเงินออกมาฝั่งไปบนจุดฝังเข็มบนหน้าอกของเขาพร้อมกับกล่าวว่า “ท่านพ่อ ท่านไม่จำเป็นต้องโกรธ แม้ว่าคำพูดดังกล่าวนั้นจะเหมาะสมกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมากเพียงใด แต่ลูกขอแนะนำท่านพ่อ ร่างกายนั้นสำคัญ หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับท่าน ติ้งเป่ยโหวจะเปลี่ยนมือ ข้าและเซิงเอ๋อร์เองก็จะได้รับการแก้แค้นจากฮูหยินอาวุโส”

ร่างกายของติ้งเป่ยโหวสั่นเทาราวกับว่าเขาพบแสงซึ่งนำไปสู่บ่อเกิดแห่งความหวัง เขาจับข้อมือของไป๋ชิงหลิงไว้ “ใช่ ข้าจะเป็นอะไรไม่ได้ ข้าจะปล่อยให้ตัวเองเป็นไปตามแผนของพวกเขาไม่ได้ ทรัพย์สินที่มอบให้พวกเขาไปยังไม่ได้กลับคืนมา ข้าจะยังล้มไม่ได้ รีบพยุงข้าเร็ว”

ไป๋กัวจ้าวพยุงเขาขึ้นมาจากเก้าอี้ ติ้งเป่ยโหวจิบชาเล็กน้อย จากนั้นก็ค่อย ๆ สงบลง

“พระชายา เจ้ากลับตำหนักไปก่อนเถิด รอข้าจัดการเรื่องในจวนเรียบร้อยแล้ว ค่อยพูดคุยกับเจ้าอีกครั้ง”

“ตกลง” เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ มีเพียงติ้งเป่ยโหวเท่านั้นที่จะเข้าใจความเจ็บปวดและความเกลียดชังของมันได้ และความเจ็บปวดนี้ก็จำเป็นต้องใช้เวลาในการเยียวยา

ไม่มีใครสามารถช่วยเขาได้ทั้งนั้น

แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ดึงดูดความสนใจของนาง

แม่นางหลิ่วเปียกโชกไปทั้งตัว ร่างกายของนางสั่นสะท้าน มองมาที่หรงเยี่ยและไป๋ชิงหลิงด้วยใบหน้าซึ่งเต็มไปด้วยความหวาดกลัว “พวกเจ้า......”

“ท่านอ๋อง พระราชา นางมีคนของนางอยู่ในตระกูลไป๋ ดังนั้นนางจึงวางแผนให้อีกฝ่ายลงโทษนางโดยการถ่วงน้ำ เนื่องจากนางคิดจะหนีออกมาจากทางใต้น้ำ แต่ถูกข้าขวางเอาไว้ก่อน” อิงซากล่าวออกมา

ร่างกายของแม่นางหลิ่วสั่นเทาอย่างต่อเนื่อง “อ๋องหรง พระชายาหรง ข้าตกอยู่ในสภาพเช่นนี้แล้ว พวกเจ้ายังต้องการอะไรจากข้าอีก?”

ไป๋ชิงหลิงเดินไปหาแม่นางหลิ่ว มือสองข้างของนางยกชายกระโปรงขึ้นมาเล็กน้อย

นางเตะเข้าไปที่ลำตัวของแม่นางหลิ่วอย่างรุนแรง จากนั้นก็ใช้เท้าเหยียบร่างของนางอย่างรุนแรง มองลงไปจากด้านบน จากนั้นกล่าวออกมาว่า “แม่ผู้ให้กำเนิดของไป๋จิ่นและไป๋ชิงหลิงคือผู้ใด?”

“เจ้า......” ดวงตาทั้งสองข้างของแม่นางหลิ่วเบิกกว้าง “ติ้งเป่ยโหวไม่ได้บอกเจ้าอย่างนั้นหรือ?”

“ข้าถามอะไรเจ้า เจ้าก็แค่ตอบกลับมาเท่านั้น หากทำให้ข้าไม่พอใจ ข้าจะเตะเจ้าให้ตายไปทั้งแบบนี้”

“ข้ายังไม่อยากตาย!” แม่นางหลิ่วไม่ละอายใจที่จะพูดสิ่งที่อยู่ในใจของนาง ความปรารถนาที่จะมีชีวิตรอดของนางนั้นแข็งแกร่งมาก นางไม่อยากตายเลยแม้แต่น้อย

อาศัยอยู่ในจวนติ้งเป่ยโหวมานานขนาดนี้ นางสะสมทรัพย์สมบัติเอาไว้มากมาย ต่อให้ต้องออกไปจากจวนติ้งเป่ยโหว ชีวิตของนางก็ไม่ได้เลวร้ายแต่อย่างใด เนื่องจาก......นางสามารถใช้ชีวิตอยู่ด้วยตัวสถานะและตัวตนอื่นที่นางได้เตรียมการไว้...... 

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น