กล้าดียังไงมาเรียกผู้หญิงคนนั้นว่าพี่สะใภ้?
ชื่อเสียงและศักดิ์ศรีของตระกูลพวกเขาถูกผู้หญิงคนนั้นทำลายจนสิ้น
เดิมที เมื่อครึ่งปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ของเขากับจวนโหวก็ไม่ตึงเครียดถึงเพียงนี้ เท่าที่เห็น อีกไม่นานเขาก็สามารถกลับไปอยู่ในจวนโหวได้ แต่ใครจะไปรู้ว่าสุดท้ายแล้วจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น
ติ้งเป่ยโหวชำเลืองมองใบหน้าของอนุภรรยา “ออกไปจากจวนโหวตั้งแต่วันนี้ ไม่เพียงแค่ฮูหยินอาวุโสและอนุภรรยาสี่ อนุภรรยาของพวกเจ้าเองก็พาภรรยาและลูกของพวกเจ้าออกไปด้วย ตั้งแต่บัดนี้ไป ห้ามเข้ามาในจวนโหวแม้แต่เพียงครึ่งก้าว”
“พี่ใหญ่ อนุภรรยาของพวกข้าไม่ได้ทำสิ่งใดผิด ท่านจะให้พวกข้า......”
“เรื่องของไป๋หมิงอวี้ เจ้าคิดว่าข้าไม่สนใจเลยอย่างนั้นหรือ!” จู่ ๆ ติ้งเป่ยโหวก็เอ่ยถึงไป๋หมิงอวี้ที่ตายจากไป นายท่านรองก็เงียบในทันที
ติ้งเป่ยโหวมองมาที่ไป๋ชิงหลิง “พระชายา ลูกน้องของข้าล้วนแต่เป็นคนหยาบคาย ไม่ค่อยรู้หนังสือ จึงไม่ต้องพูดถึงเกี่ยวกับเรื่องการคิดบัญชี หากเจ้ายังมีคนเหลือให้ใช้งานบ้าง เช่นนั้นก็ช่วยข้าหาพ่อบ้านที่สามารถจัดการเกี่ยวกับเรื่องบัญชี เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาเร่งด่วนพวกนี้ให้ข้าเป็นการชั่วคราว”
ไป๋ชิงหลิงกำลังรอให้ติ้งเป่ยโหวเอ่ยปาก ทรัพย์สมบัติของจวนโหวเกรงว่าจะมีไม่น้อย ฮูหยินอาวุโสใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายตลอดหลายปีที่ผ่านมา หากต้องการทำบัญชี เกรงว่ามันคงไม่ใช่เรื่องที่จะจัดการได้ภายในวันหรือสองวัน
หงเหนียงช่วยจัดการเรื่องทรัพย์สมบัติในจวนอ๋องให้กับหรงเยี่ยอย่างเงียบ ๆ ถือว่าเป็นผู้ที่มีความสามารถในการทำบัญชีที่ยอดเยี่ยม หากให้นางมาทำบัญชี แน่นอนว่าจะไม่มีปัญหา
“ท่านพ่อ ทางข้าก็มีผู้มีความสามารถอยู่พอดี ท่านจัดการกับเรื่องที่อยู่ตรงหน้าไปก่อน บัญชีที่ต้องชำระนั้นแม้ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่อาจหลีกหนีได้!” ไป๋ชิงหลิงกล่าวออกมา
ติ้งเป่ยโหวพยักหน้า สั่งให้ลูกน้องพาตัวฮูหยินอาวุโสขึ้นไปบนรถม้าเพื่อไปส่งยังชนบท
ส่วนไป๋อู้อี้และแม่นางหลิ่ว พวกเขาถูกคนในตระกูลจับใส่กระสอบและพาตัวออกไป......
หลังจากที่คนในห้องโถงใหญ่ออกไปหมดแล้ว ติ้งเป่ยโหวนั่งลงบนพื้นอย่างแรง ไป๋กัวจ้าวเข้าไปพยุงเข้าพร้อมกับกล่าวด้วยความเป็นห่วง “ท่านโหว!”
“นางยอมรับจากปากของนางเอง......นางบอกกับข้าว่า นอกจากชิงหลิงและจิ่นเอ๋อร์ คนอื่นก็ไม่ใช่ลูกของข้า และแม่ของพวกนางทั้งสอง......” พูดถึงตรงนี้ ติ้งเป่ยโหวก็กระอักเลือดออกมา
ไป๋ชิงหลิงคุกเข่าลง หยิบเข็มเงินออกมาฝั่งไปบนจุดฝังเข็มบนหน้าอกของเขาพร้อมกับกล่าวว่า “ท่านพ่อ ท่านไม่จำเป็นต้องโกรธ แม้ว่าคำพูดดังกล่าวนั้นจะเหมาะสมกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมากเพียงใด แต่ลูกขอแนะนำท่านพ่อ ร่างกายนั้นสำคัญ หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับท่าน ติ้งเป่ยโหวจะเปลี่ยนมือ ข้าและเซิงเอ๋อร์เองก็จะได้รับการแก้แค้นจากฮูหยินอาวุโส”
ร่างกายของติ้งเป่ยโหวสั่นเทาราวกับว่าเขาพบแสงซึ่งนำไปสู่บ่อเกิดแห่งความหวัง เขาจับข้อมือของไป๋ชิงหลิงไว้ “ใช่ ข้าจะเป็นอะไรไม่ได้ ข้าจะปล่อยให้ตัวเองเป็นไปตามแผนของพวกเขาไม่ได้ ทรัพย์สินที่มอบให้พวกเขาไปยังไม่ได้กลับคืนมา ข้าจะยังล้มไม่ได้ รีบพยุงข้าเร็ว”
ไป๋กัวจ้าวพยุงเขาขึ้นมาจากเก้าอี้ ติ้งเป่ยโหวจิบชาเล็กน้อย จากนั้นก็ค่อย ๆ สงบลง
“พระชายา เจ้ากลับตำหนักไปก่อนเถิด รอข้าจัดการเรื่องในจวนเรียบร้อยแล้ว ค่อยพูดคุยกับเจ้าอีกครั้ง”
“ตกลง” เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ มีเพียงติ้งเป่ยโหวเท่านั้นที่จะเข้าใจความเจ็บปวดและความเกลียดชังของมันได้ และความเจ็บปวดนี้ก็จำเป็นต้องใช้เวลาในการเยียวยา
ไม่มีใครสามารถช่วยเขาได้ทั้งนั้น
แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ดึงดูดความสนใจของนาง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...