ร่างกายของนางชนเข้ากับหน้าต่างด้านหลัง กระอักเลือดออกมาในทันใด จับหน้าอกของตนเองด้วยความเจ็บปวด ร้องโหยหวนออกมา จากนั้นก็หมดสติไป
แต่ไป๋ชิงหลิงสูญเสียสติในการควบคุมตนเองทั้งหมดไป ถูกความเคียดแค้นจากเจ้าของร่างเดิมครอบงำ ดวงตาของนางเต็มไปด้วยจิตสังหารที่ต้องการแก้แค้นแม่นางหลิ่ว
ดังนั้นนางจึงตะโกนใส่แม่นางหลิ่วว่า “นางอสรพิษ อสรพิษอย่างเจ้า เหตุใดถึงต้องทำเรื่องเลวร้ายเช่นนี้ด้วย ปล่อยข้า ข้าจะสังหารนาง......”
“พระชายา!” หรงเยี่ยกอดนางไว้แน่น ในตอนที่นางเสียสติ เขาเองก็ตะคอกออกมา
แต่หูทั้งสองข้างของไป๋ชิงหลิงสูญเสียการรับรู้ทางด้านการได้ยิน นางไม่ได้ยินคำพูดของหรงเยี่ยเลยแม้แต่น้อย “ข้าจะสังหารนาง จะสังหารนาง......”
“แง่ง......” ไป๋ชงเซิงและหรงจิ่งหลินเห็นท่าทางเช่นนั้นของไป๋ชิงหลิงก็รู้สึกตกใจกลัวขึ้นมา
เด็กทั้งสองกอดกันและร้องไห้ออกมาดังลั่น
หลังจากหรงเยี่ยได้เห็นเช่นนั้น เขาจึงยกฝ่ามือของเขาขึ้นและฟาดไปบนต้นคอของไป๋ชิงหลิง
ไป๋ชิงหลิงหมดสติไปในทันที นอนนิ่งอยู่ในอ้อมแขนของหรงเยี่ย
หรงเยี่ยอุ้มนางขึ้นมา จ้องไปที่แม่นางหลิ่วด้วยดวงตาอันเหี้ยมโหด “จัดการให้เรียบร้อย”
“ขอรับ!” อิงซายกร่างของแม่นางหลิ่วขึ้น รีบเดินทางออกจากจวนติ้งเป่ยโหวอย่างรวดเร็ว เพื่อหาสถานที่ในการทำลายร่างของแม่นางหลิ่ว
หลังจากนั้นไม่นาน ผู้หญิงที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนกับแม่นางหลิ่วทุกประการก็เดินออกมาจากด้านใน พร้อมกับแบกรับชื่อของ “แม่นางหลิ่ว” เอาไว้
ทางด้านของไป๋ชิงหลิงก็กำลังเผชิญหน้ากับฝันร้ายอย่างยาวนาน
ในฝัน เจ้าของร่างเดิมกำลังดิ้นรนอยู่ในกรง “ข้าจะออกไป ข้าคือไป๋ชิงหลิงตัวจริง เจ้ามันตัวปลอม เจ้ายึดร่างของข้า แต่กลับไม่ช่วยข้าแก้แค้น เจ้าคิดจะไว้ชีวิตของนาง เจ้ามันผู้หญิงเห็นแก่ตัว”
ไป๋ชิงหลิงยืนอยู่ด้านนอกของกรง พูดกับเจ้าของร่างเดิมว่า “เจ้านั่นแหละที่เป็นผู้หญิงเห็นแก่ตัว เพื่อการแก้แค้น เจ้าไม่สนใจว่าชีวิตของเด็กทั้งสองจะต้องตกอยู่ในอันตรายหรือไม่ ข้าขอเตือนเจ้า......เจ้าห้ามออกมาอีกเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นข้าจะพาร่างกายนี้ของเจ้าไปสู่ความตายอีกครั้งหนึ่ง!”
“อย่า อย่านะ......”
ดวงตาของไป๋ชิงหลิงเบิกกว้างอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็หายใจออกมาด้วยความเหนื่อยหอบ
ชายที่อยู่ข้างกายของนางกุมมือของนางไว้แน่น จากนั้นถามออกมาว่า “ฟื้นแล้วงั้นหรือ?”
ไป๋ชิงหลิงหันกลับมาเห็นหรงเยี่ย นางลุกขึ้นมานั่ง มือทั้งสองข้างโอบกอดร่างกายของหรงเยี่ย จากนั้นก็กล่าวออกมาอย่างแผ่วเบา “หรงเยี่ย!”
“หรงเยี่ย!”
นางพึมพำออกมาสองครั้งด้วยความรู้สึกวิตกกังวล เกรงว่าวันใดวันหนึ่งนางจะต้องจากโลกนี้ไป เรื่องราวและคนที่อยู่ที่นี่ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับนาง และจะมีผู้หญิงอีกคนเข้ามาแทนที่ในร่างกายที่นางใช้อยู่ในตอนนี้ และมีชีวิตอยู่ในฐานะและชื่อของนางต่อไป
แม้ว่านางเองก็เข้ามาอยู่ในร่างของคนอื่นเพื่อมีชีวิตอยู่ต่อไป
แต่นี่ก็ผ่านมาหกปีแล้ว นางคุ้นเคยกับร่างนี้ และในบางครั้งนางก็รู้สึกว่านางคือไป๋ชิงหลิง ไป๋ชิงหลิงก็คือนาง
และพวกนางก็เป็นหนึ่งเดียวกัน
“ฝันงั้นหรือ?” หรงเยี่ยกล่าวอย่างอ่อนโยน มือของเขาลูบไปบนแผ่นหลังของนาง
น้ำตาของไป๋ชิงหลิงไหลออกมาอย่างช่วยไม่ได้ กอดร่างของเขาไว้แน่น พยักหน้าและกล่าวออกมา “ใช่ เป็นฝันที่เลวร้ายอย่างมาก ข้าฝัน......ฝันว่าข้าไม่ใช่ตัวเอง ข้าฝันเห็นผู้หญิงอีกคนที่จะเข้ามาแทนที่ข้า และเป็นพระชายาของเจ้า”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...