ไป๋กัวจ้าวออกมาจากด้านใน ในมือถือกำไลหยกโลหิต เข้าหาไป๋ชิงหลิงแล้วมอบมันให้นาง “พระชายา นี่คือสิ่งที่ท่านโหวสั่งให้ข้ามอบให้ท่าน”
“นี่คือ?” ไป๋ชิงหลิงก้มมอง
กำไลหยกในมือไป๋กัวจ้าวเปล่งประกายสีแดงราวกับเลือด เนื้อหยกมีความใส
นางเอื้อมมือไปหยิบกำไลหยกในมือไป๋กัวจ้าวขึ้นมาตรวจสอบอย่างระมัดระวัง ก่อนจะพบว่าด้านในกำไลหยกนี่มีการสลักอักษรรูนแปลกตาเอาไว้
ไป๋กัวจ้าวกล่าวว่า “ท่านโหวบอกว่านี่คือสร้อยข้อมือที่มารดาของท่านหนูรองมอบให้เขาในเวลานั้น ท่านหนูรองเป็นลูกสาวคนเดียวของท่าน แต่ผู้ท่านหนูรองเสียชีวิตแล้ว ดังนั้นจึงสั่งให้ข้าน้อยมอบกำไลหยกนี้ให้กับพระชายา”
ท่านหนูรองที่ไป๋กัวจ้าวพูดถึงก็คือไป๋ชิงหลิง
เพียงแต่ไม่มีใครรู้ว่าไป๋ชิงหลิงยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขา
ไป๋ชิงหลิงรู้สึกตกใจอีกครั้งกับสิ่งที่ไป๋กัวจ้าวพูดในยามนี้ “ท่านหนูรองเป็นลูกสาวคนเดียวของเขา”
กลายเป็นว่าแม่นางหลิ่วไม่ได้บอกความจริงกับนางทั้งหมด
“ท่านหนูรองคือลูกสาวของท่านโหวใช่หรือไม่?”
“เพคะ” ไป๋กัวจ้าวหยิบจดหมายอีกฉบับออกมา “นี่คือจดหมายที่ท่านโหวเขียนถึงพระชายาหลังจากกลับไปที่ห้องของท่าน ยามนี้ท่านโหวอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ค่อยดีนัก ทั้งยังไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับพระชายากับท่านอ๋องอย่างไร”
“ข้าเข้าใจแล้ว เจ้ากลับไปกล่อมท่านโหวให้ดี” หลังจากไป๋ชิงหลิงได้รับจดหมาย นางก็บอกให้ไป๋กัวจ้าวกลับจวนโหวไปก่อน
นางกับหรงเยี่ยพาเด็กทั้งสองกลับไปที่รถม้า แล้วเปิดจดหมาย
ในจดหมายติ้งเป่ยโหวอธิบายความจริงที่แม่นางหลิ่วกล่าวในห้องโถง
สิ่งที่แม่นางหลิ่วบอกนางนั้นไม่ใช่เรื่องโกหก
ตัวอย่างเช่น แม่นางหลิ่วยังมีพี่สาวฝาแฝด ผู้หญิงที่ติ้งเป่ยโหวนึกถึงในตอนนั้นเป็นหญิงที่ยังไม่ได้แต่งงานเป็นแน่
เพราะแม่นางหลิ่วเกิดความอิจฉาและไม่ยินยอม นางจึงหลอกพี่สาวของนางก่อนที่จะเข้าพิธีแต่งงาน จากนั้นนางจึงลอบสับตัวกับพี่สาวขึ้นนั่งบนเกี้ยวเจ้าสาวที่แต่งให้ติ้งเป่ยโหว และได้กลายเป็นฮูหยินจวนโหว
แต่ติ้งเป่ยโหวมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพี่สาวแม่นางหลิ่ว ในยามนั้นติ้งเป่ยโหวออกไปปกป้องหยานหนาน พี่สาวแม่นางหลิ่วบังเอิญทำหน้าที่ยกข้าวต้มในหยานหนาน ดังนั้นติ้งเป่ยโหวจึงเข้าใจผิดว่าพี่สาวแม่นางหลิ่วเป็นแม่นางหลิ่ว
อีกทั้งยังบังเอิญมากที่พี่สาวแม่นางหลิ่วจำติ้งเป่ยโหวได้ พี่สาวแม่นางหลิ่วก็ชื่นชมติ้งเป่ยโหวเช่นกัน ทั้งสองจึงอยู่ด้วยกันอย่างมีสมเหตุสมผล
แม้พี่สาวแม่นางหลิ่วจะอยู่กับติ้งเป่ยโหวเพียงไม่กี่วัน แต่นางไม่ได้เปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงของแม่นางหลิ่ว เพียงเพราะแม่นางหลิ่วใช้ชีวิตมารดาของพวกนางมาข่มขู่นาง
สองสามวันต่อมาหลังจากรักจืดจาง พี่สาวแม่นางหลิ่วก็ลอบออกจากค่ายทหารไป
ในเวลานั้นพี่สาวแม่นางหลิ่วได้ตั้งท้องไป๋ชิงหลิงแล้ว
เมื่อแม่นางหลิ่วรู้เรื่องนี้ นางจึงขังพี่สาวของนางไว้ในหมู่บ้านชนบท เมื่อนางให้กำเนิดลูกสาว นางก็สังหารคนแล้วพาเด็กไป
บังเอิญแม่นางหลิ่วให้กำเนิดลูกในวันเดียวกับพี่สาวของนาง ดังนั้นนางจึงเลี้ยงเด็กทั้งสองเหมือนฝาแฝด
นอกจากนี้นางยังให้กำเนิด ‘ลูกสาวสองคน’ ในลมหายใจเดียวจึงเป็นที่ชื่นชอบของติ้งเป่ยโหวซึ่งรวมทั้งสถานะมั่นคงในจวนโหว
ฮูหยินอาวุโสไม่กล้าทำอะไรนางอีก!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...