อ่านสรุป บทที่ 418 ความพิเศษของหยกโลหิต จาก ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น โดย พระจันทร์ขี้เมา
บทที่ บทที่ 418 ความพิเศษของหยกโลหิต คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายการเกิดใหม่ ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย พระจันทร์ขี้เมา อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
จวนอ๋องหรง
ยามค่ำคืน
หลังจากเด็กทั้งสองหลับไป หรงเยี่ยก็กลับมาที่ห้องก่อนจะพบว่าไป๋ชิงหลิงไม่ได้หลับ นางกำลังจ้องมองกำไลหยกโลหิตบนข้อมือด้วยความสับสน
หรงเยี่ยขึ้นไปบนเบาะแล้วถามว่า “ชายา เจ้าคิดอะไรอยู่หรือ?”
ไป๋ชิงหลิงกลับมามีสติ นางมองมาที่เขาแล้วพูดว่า “ดูกำไลเส้นนี้สิ ข้าคิดว่ามันแปลกมาก ลวดลายดูเหมือนเป็นอักขระของชนเผ่าหนึ่งหรือแคว้นไหนสักแคว้น”
นางลุกขึ้นนั่ง โน้มตัวเข้าไปในอ้อมแขนของหรงเยี่ย กำลังจะถอดกำไลออกให้เขา แต่นางกลับพบว่ากำไลเหมือนจะปรับขนาดโดยอัตโนมัติ ไม่ว่าอย่างไรนางก็ไม่สามารถถอดมันออกได้
“เอ๊ะ ทำไมถอดไม่ได้?” ไป๋ชิงหลิงหมุนกำไลไปมา
หรงเยี่ยคว้าข้อมือนางแล้วพูดว่า “ขอข้าดูหน่อย”
เขายังหมุนมันกลับไปมาอีกสองสามครั้งก่อนจะขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “เจ้าใสกำไลนี้เข้าไปได้อย่างไร?”
กำไลที่อยู่ตรงหน้าเขาเหมือนจะพอดีกับข้อมือของไป๋ชิงหลิงจนไม่มีที่ว่างให้ดึงออกมา
ไป๋ชิงหลิงยังสังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ ก่อนที่นางจะสวมกำไลนี้ กำไลไม่ได้เล็กถึงเพียงนี้ แต่เมื่อความคิดนี้แล่นเข้ามาในหัวของนาง นางก็รู้สึกว่ามันไร้สาระ
เป็นไปไม่ได้ที่กำไลนี้จะหดและขยายได้เอง ต้องเป็นเพราะไม่ได้สังเกตเห็นเมื่อสวมใส่มันเป็นแน่
ยิ่งกว่านั้น กำไลประเภทนี้มักจะเข้าง่ายถอดยาก
นางดึงมือออกจากหรงเยี่ยอย่างใจเย็นแล้วพูดว่า “ข้าแค่สวมมัน หากถอดไม่ได้ก็ช่างเถอะ มีเพียงการสวมหยกเป็นเวลานานเท่านั้นจึงจะเห็นผล เนื่องจากมันเป็นของมารดาผู้ให้กำเนิดของข้า สวม มันไว้ก็นับเป็นการรำลึกถึงได้”
“ชายาพูดถูก” หรงเยี่ยอุ้มนางมาโอบไว้ในอ้อมแขน “นอนเถอะ อย่าคิดมาก!”
ไป๋ชิงหลิงพยักหน้า พิงแขนหรงเยี่ย เพียงครู่หนึ่งก็หลับไป
ขณะที่นางหลับ หรงเยี่ยจับมือนางที่สวมหยกโลหิตขึ้นมาอีกครั้งแล้วตรวจดูอย่างระมัดระวัง
เขาออกจากเมืองหลวงเมื่ออายุเจ็ดขวบ ทั้งยังได้เดินทางไปยังชนเผ่าและเมืองต่างๆ มากมาย ได้เห็นอะไรมากมาย
กำไลบนมือของไป๋ชิงหลิงดูไม่เหมือนของที่มาจากแคว้นของเขาเลย
ข้อความด้านบนนี้ค่อนข้างให้ความรู้สึกคุ้นเคย
เขาจดจำรูปภาพและข้อความบนกำไลหยกโลหิตของนางไว้ในใจ จากนั้นจึงจ้องมองไป๋ชิงหลิง
ทุกวันนี้ในยามค่ำคืนเขาไม่กล้านอนเลย
เมื่อใดก็ตามที่ไป๋ชิงหลิงหลับไปภาวะถอดวิญญาณจะเข้าควบคุมสตินางได้ตลอดเวลา
แต่หรงเยี่ยไม่คาดคิดว่าหลังจากไป๋ชิงหลิงกลับมาที่จวนอ๋อง นางจะไม่สูญเสียการควบคุมหลังจากหลับไปเป็นเวลาห้าวันติดต่อกัน
ดังนั้นในคืนหนึ่งหรงเยี่ยจึงใช้ประโยชน์จากการนอนหลับของไป๋ชิงหลิงหยิบกำไลขึ้นมาดูอีกครั้ง เขารู้สึกแผ่วเบาในใจว่าการควบคุมภาวะถอดวิญญาณของไป๋ชิงหลิงเกี่ยวข้องกับหยกโลหิตประหลาดในข้อมือนาง
ในเวลานี้ไป๋ชิงหลิงพลิกตัวกอดเอวเขา หรี่ตาลงเล็กน้อย นางเหลือบมองเขา จากนั้นจึงหลับตาลงแล้วพูดว่า “หรงเยี่ยเหตุใดท่านยังตื่นอยู่?”
นางพูดอย่างง่วงงุนแล้วผล็อยหลับไปอีกครั้งก่อนหรงเยี่ยจะทันได้ตอบกลับ
ป้าเซียงผู้เป็นแม่บ้านที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งให้ดูแลโรงหมอพยายามยื้อยุดการต่อสู้ด้วยท่าทางลำบากใจ
พระชายาอันจวินชี้แม่นางหลี่พร้อมกล่าวว่า “พาตัวนางคนนี้ออกไป นอกจากนี้ ข้าไม่ต้องการให้หมอหญิงที่ชื่อไป๋หมิงฮุ่ยดูแลลูกชายของข้า ทางที่ดีควรให้หมอหญิงคนนั้นออกไปด้วย”
“เดี๋ยวก่อน ดูเหมือนจะมีใครบางคนเป็นห่วงโรงหมอแห่งนี้นะ” แม่นางหลี่โต้กลับ
ไป๋ชิงหลิงเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เอื้อมมือไปดึงแขนป้าเซียง
ป้าเซียงหันมามอง เมื่อพบว่านั่นคือไป๋ชิงหลิง นางก็รีบคุกเข่าลงคำนับอย่างกระวนกระวาย “คะ...คา...คารวะพระชายาหรง...”
“ลุกขึ้น” ไป๋ชิงหลิงพูดขึ้นพร้อมหันมองแม่นางหลี่กับพระชายาอันจวิน
ป้าเซียงไม่กล้าละเลย นางรีบลุกขึ้นยืนแล้วเล่าเรื่องทั้งหมด “พระชายา หญิงผู้นี้มาตามหาไป๋หมิงฮุ่ยตั้งแต่รุ่งสาง ทั้งยังเรียกโรงหมอของเราว่าหอบุปผา พระชายาอันจวินเสด็จมาพอดี คนผู้นี้สนทนากับพระชายาอันจวินสองสามคำ การสนทนาเริ่มเป็นประเด็นร้อนซึ่งนำมาสู่สถานการณ์เช่นนี้”
แม่นางหลี่ยืนเชิดคางอยู่ด้านข้าง ดูท่าทางราวหมูตายไม่กล้าน้ำร้อนลวก[1] นางไม่คิดหักล้างคำพูดของป้าเซียงเลย
พระชายาอันจวินพูดด้วยใบหน้าบูดบึ้งว่า “พระชายาหรง ข้าผู้นี้ให้หน้าท่านมากเพียงพอแล้ว ท่านบอกว่าต้องการให้หยวนเอ๋อร์รักษาที่นี่ ข้ายอมให้เขาอยู่ แต่ท่านไม่สามารถจัดคนสุ่มสี่สุ่มห้าให้มาดูแลลูกชายของข้าได้!”
“ท่านกำลังกล่าวถึงใคร” จู่ๆ แม่นางหลี่ก็หงุดหงิด ชี้พระชายาอันจวินแล้วตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยว
..........
เชิงอรรถ
[1] หมูตายไม่กล้าน้ำร้อนลวก ไม่มีความยำเกรงหวาดกลัวอะไรทั้งนั้น ส่วนมากมักใช้คำนี้ในการว่ากล่าวคนที่หน้าด้าน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...