พระชายาอันจวินชำเลืองมองนางอย่างเย็นชาแล้วพูดอย่างเหยียดหยาม “ข้าไม่อยากโต้เถียงกับเจ้า คนเลวข้างถนนอย่างเจ้ามีแต่จะลดสถานะข้าลง พระชายาหรง ข้าต้องการให้ท่านอธิบายเรื่องนี้”
“ท่าน...”
“หุบปาก!” ไป๋ชิงหลิงตะคอกอย่างเย็นชา ขัดจังหวะคำพูดของแม่นางหลี่
แม่นางหลี่กัดฟัน นางเกลียดไป๋ชิงหลิงยิ่งนัก
ครั้งแรกที่นางรบกวนจวนติ้งเป่ยโหวก็ไม่ต่างจากไก่สุนัขไม่เป็นสุข[1] จากนั้นจึงเกิดการสังหารลูกสาวคนโตของนาง ยามนี้นางก็มาทำร้ายลูกสาวคนรองของนางอีก นอกจากนี้ยังทำให้พวกนางไม่สามารถกลับไปที่จวนติ้งเป่ยโหวได้
แม้พวกนางจะไม่ถูกขับออกจากตระกูลไป๋ แต่ท้ายที่สุดแล้ว พวกนางอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าตระกูลอื่นเล็กน้อย พวกนางไม่สามารถเข้าสู่แวดวงขุนนางอย่างร่ำรวยได้อีกต่อไป
แต่เพราะอีกฝ่ายเป็นชายาอ๋อง นางไม่กล้าทำอะไร
ในใจแม่นางหลี่ไม่ยินยอมจริงๆ
หลังจากไป๋ชิงหลิงเหลือบมองแม่นางหลี่ นางก็หันศีรษะไปถามป้าเซียงว่า “หมิงฮุ่ยอยู่ไหน?”
“เมื่อวานแม่นางหมิงฮุ่ยไม่ได้มาทำงาน ข้าบอกหญิงผู้นี้แล้ว แต่นางไม่เชื่อ” ป้าเซียงตอบ
ไป๋ชิงหลิงขมวดคิ้ว คิดว่าแม่นางหลี่อาจขังหมิงฮุ่ยไว้ที่เรือน จึงกล่าวว่า “ท่านทำอะไรกับหมิงฮุ่ยหรือเปล่า?”
“ข้า...” แม่นางหลี่เบิกตากว้างแล้วชี้มาที่ตัวเอง “ข้ายังต้องถามหาคนจากเจ้า เจ้าเอาหมิงฮุ่ยไปซ่อนไว้ที่ไหน นางไม่กลับเรือนตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเช้าวันนี้ นอกจากนี้ข้าจะซ่อนนางไว้เพื่อสิ่งใด นางเป็นลูกสาวของข้า ข้ายังทำร้ายนางได้อย่างไร”
ก็จริง
ไม่ว่าแม่นางหลี่จะเลวร้ายเพียงใด นางก็ยังดีต่อลูกสาวทั้งสามคนของนาง
แม้หมิงฮุ่ยจะแย่กว่าเล็กน้อย ด้วยถูกนางแทรกแซงอาชีพของหมิงฮุ่ยซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่หากแม่ไม่สนใจลูกของตน นั่นคือสิ่งที่หนาวเหน็บจริงๆ
พระชายาอันจวินตะคอกอย่างเย็นชา “เจ้าพยายามใช้แผนการสมรู้ร่วมคิดอันใดมาเล่นงานลูกชายข้า!”
แม่นางหลี่ไม่อาจทนฟังคำพูดของพระชายาอันจวินได้ นางรักษาระยะห่างจากจวนอ๋องอันจวินด้วยความเคารพจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นยามที่จวิ้นอ๋องน้อยยังมีสุขภาพดีหรือในยามจวิ้นอ๋องน้อยกลายเป็นคนไร้ค่า ก็ไม่มีประโยชน์อะไรกับนาง
เพราะ...ไม่ว่าอย่างไรก็ตามพระชายาอันจวินก็ไม่มีทางยอมรับลูกสาวของนางหลี่หลานผู้นี้เป็นแน่
นางตะโกนใส่พระชายาอันจวินทันที “พระชายาอันจวินไม่ต้องกังวลว่าลูกสาวของข้าจะยั่วยวนลูกชายของท่าน เพราะลูกชายของท่านจะตั้งใจ ข้าก็ไม่เห็นด้วยกับเรื่องของหมิงฮุ่ยและจวิ้นอ๋อง ท่านอย่าคิดเอาทองมาทาหน้าเลย แค่คนพิการนั่น อย่างไรก็ไม่อาจนับว่ามีสิริมงคล!”
“เจ้า...” พระชายาอันจวินหายใจไม่ออก นางจ้องมองแม่นางหลี่อย่างตกตะลึง ชี้แม่นางหลี่พร้อมกับยกมือขึ้นสูงแล้วพูดว่า “พระชายาหรง ข้าไม่อยากเห็นลูกสาวของหญิงผู้นี้เดินไปเดินมาต่อหน้าข้าลูกชายอีกแล้ว”
“พอแล้ว!” ไป๋ชิงหลิงตะคอกอย่างเย็นชา ดวงตานางกวาดมองทั้งสองคนอย่างเคร่งเครียด
สำหรับไป๋ชิงหลิงทั้งสองคนนี้ไม่ใช่ตะเกียงประหยัดน้ำมัน[2]
“ที่นี่คือโรงหมอ ไม่ใช่สถานที่สำหรับสร้างปัญหา เสด็จอาเคยเล่าเรื่องจวิ้นอ๋องน้อยยามอยู่ในวังมาก่อน เนื่องจากเสด็จอาสะใภ้ต้องการเปลี่ยนหมอหญิงที่มาดูแลจวิ้นอ๋องน้อย จึงต้องขอให้หารือกับเสด็จอาหลังจากกลับจวนอ๋อง แล้วให้เสด็จอามาเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นการส่วนตัว ไม่เช่นนั้นข้าก็ไม่สามารถรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นกับจวิ้นอ๋องน้อยได้”
“ไป๋เจาเสวี่ย!” ใบหน้าพระชายาอันจวินมืดมน นางเรียกชื่อไป๋ชิงหลิงดังลั่น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...