ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 42

สรุปบท บทที่ 42 เสี่ยวเซิงเอ๋อร์และองค์รัฐทายาทน้อย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น

บทที่ 42 เสี่ยวเซิงเอ๋อร์และองค์รัฐทายาทน้อย – ตอนที่ต้องอ่านของ ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น

ตอนนี้ของ ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น โดย พระจันทร์ขี้เมา ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายการเกิดใหม่ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 42 เสี่ยวเซิงเอ๋อร์และองค์รัฐทายาทน้อย จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

และไป๋ชงเซิงที่ "หายตัวไป" ขณะนี้ได้ปรากฏตัวขึ้นที่ถ้ำสุนัขของจวนท่านอ๋องหรง

ขณะที่นางมุดคลานเข้ามาจากด้านนอกนั้น สุนัขจิ้งจอกตัวใหญ่ตัวนั้นที่มีชื่อว่าเสวี่ยหลาง ได้นอนอยู่ข้างๆ ถ้ำของมัน

เมื่อเห็นไป๋ชงเซิงปรากฏตัวขึ้น มันก็รีบโถมตัวเข้าไปต้อนรับ

คนและสุนัขกำลังเกลือกกลิ้งอยู่ที่พื้นดิน

ไป๋ชงเซิงหัวเราะชอบใจ "เจ้าหมายักษ์ วันนี้ข้าเอาขาหมูมาให้เจ้าด้วย เจ้าดูสิ"

นางหยิบขาหมูชิ้นใหญ่ออกมาจากกระเป๋า และโยนไปยังจานข้าวของเสวี่ยหลาง

เสวี่ยหลางร้อง "หงิงๆๆ" ทำให้ดึงดูดคนรับใช้ที่คอยดูแลเรือนเข้ามา

เมื่อคนรับใช้เห็นว่าเสวี่ยหลางไม่ได้ทำอะไรไป๋ชงเซิง แต่กับกินอาหารในมือของนาง ทำให้เขารู้สึกตกตะลึงจนลูกตาแทบเด้งออกมา

เขารีบไปตามพ่อบ้านฉี

ทว่ากว่าที่พ่อบ้านฉีจะมาถึงนั้น ไป๋ชงเซิงและเสวี่ยหลางก็หายไปเสียแล้ว

"สุนัขของท่านอ๋องล่ะ?" พ่อบ้านฉีรู้สึกสับสน

เสวี่ยหลางเป็นสุนัขจิ้งจอกที่โดดเด่นที่สุดที่ได้คัดเลือกจากบรรดาสุนัขจิ้งจอกนับร้อยตัว มีความซื่อสัตย์ที่สุด โดยปกติแล้วมีเพียงเขาและท่านอ๋องหรงเท่านั้นที่สามารถเข้าใกล้ได้ คนใช้ในจวนคนอื่นๆ ต่างไม่กล้าเข้าไปให้อาหารมันเลย แต่วันนี้กลับถูกเด็กตัวน้อยคนหนึ่งพาออกไป

"เจ้าเห็นคนจริงๆ หรือ" พ่อบ้านฉีถาม

คนรับใช้พยักหน้าด้วยความกระวนกระวายใจจนร้องไห้ออกมา "บ่าวเห็นจริงๆ ขอรับ เป็นแม่สาวน้อยคนนั้นเมื่อคราวก่อน เมื่อนางเข้ามาเสวี่ยหลางก็โผเข้าไปหานางและเลียนาง แถมยังกินอาหารในมือของนางอีกด้วย"

"เช่นนั้นยังไม่รีบออกตามหาอีก" พ่อบ้านฉีตบลงไปที่หน้าอกของเขาหนึ่งที

ทางนั้น เสวี่ยหลางได้พาไป๋ชงเซิงไปที่หอเป่าซิน

ที่หอเป่าซินก็มีถ้ำสุนัขอยู่อีกหนึ่งแห่ง เสวี่ยหลางนอนหมอบที่ด้านหน้าของคอกสุนัขและส่งเสียงให้กับไป๋ชงเซิง

"เข้าไปจากตรงนี้ก็สามารถเจอเจ้านายน้อยของเจ้าอย่างนั้นหรือ เจ้าแน่ใจหรือ?" ไป๋ชงเซิงกะพริบตาและกล่าวกับเสวี่ยหลาง

เสวี่ยหลางส่งเสียงครวญออกมา และจากนั้นได้มุดตัวเพื่อเข้าไปยังถ้ำสุนัข

ไป๋ชงเซิงเห็นมันเข้าไป จึงได้ตามเข้าไปด้วย

บริเวณโดยรอบของถ้ำสุนัขล้วนเป็นหญ้าวัชพืช ข้างหน้ายังมีบ่อน้ำรกร้างอีกหนึ่งแห่ง ดูเหมือนว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของเรือนขนาดเล็กที่รกร้างหลังนี้

เสวี่ยหลางกัดขอบชายเสื้อของนางเอาไว้ และไป๋ชงเซิงได้เดินตามมันเข้าไป

เมื่อหรงจิ่งหลินได้ยินคำพูดของแม่นมซั่งก็ได้หันไปมองทางฝั่งไป๋ชงเซิง

แสงสว่างในแววตาของเขานั้นเจิดจ้าผิดไปจากปกติ เพราะการปรากฏตัวของไป๋ชงเซิง "เจ้านั่นเอง!"

หรงจิ่งหลินปล่อยมือออกจากเสวี่ยหลาง และรีบวิ่งไปยังไป๋ชงเซิง

ไป๋ชงเซิงก็เดินเข้าไป มือน้อยที่เปรอะเปื้อนยกขึ้นมาเช็ดเหงื่อบนหน้าผากและกล่าวว่า "ข้าตั้งใจมาหาเจ้าโดยเฉพาะเลย"

"เจ้ามาหาข้า?" หรงจิ่งหลินรู้สึกประหลาดใจ

เขาโตมาจนถึงตอนนี้กลับไม่เคยมีเพื่อนที่อายุไล่เลี่ยกันมาเล่นกับเขาเลย

ไป๋ชงเซิงเป็นคนแรก

เขาเดินนำหน้าและจูงมือที่เลอะเปรอะเปื้อนของไป๋ชงเซิงและกล่าวว่า "เจ้าคลานเข้ามาจากถ้ำสุนัขอีกแล้วใช่หรือไม่?"

"อืมๆ"

"เช่นนั้นหลังจากนี้ เจ้าก็เดินเข้ามาจากหน้าประตูจวนอ๋องได้อย่างเปิดเผย!"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น