ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 42

และไป๋ชงเซิงที่ "หายตัวไป" ขณะนี้ได้ปรากฏตัวขึ้นที่ถ้ำสุนัขของจวนท่านอ๋องหรง

ขณะที่นางมุดคลานเข้ามาจากด้านนอกนั้น สุนัขจิ้งจอกตัวใหญ่ตัวนั้นที่มีชื่อว่าเสวี่ยหลาง ได้นอนอยู่ข้างๆ ถ้ำของมัน

เมื่อเห็นไป๋ชงเซิงปรากฏตัวขึ้น มันก็รีบโถมตัวเข้าไปต้อนรับ

คนและสุนัขกำลังเกลือกกลิ้งอยู่ที่พื้นดิน

ไป๋ชงเซิงหัวเราะชอบใจ "เจ้าหมายักษ์ วันนี้ข้าเอาขาหมูมาให้เจ้าด้วย เจ้าดูสิ"

นางหยิบขาหมูชิ้นใหญ่ออกมาจากกระเป๋า และโยนไปยังจานข้าวของเสวี่ยหลาง

เสวี่ยหลางร้อง "หงิงๆๆ" ทำให้ดึงดูดคนรับใช้ที่คอยดูแลเรือนเข้ามา

เมื่อคนรับใช้เห็นว่าเสวี่ยหลางไม่ได้ทำอะไรไป๋ชงเซิง แต่กับกินอาหารในมือของนาง ทำให้เขารู้สึกตกตะลึงจนลูกตาแทบเด้งออกมา

เขารีบไปตามพ่อบ้านฉี

ทว่ากว่าที่พ่อบ้านฉีจะมาถึงนั้น ไป๋ชงเซิงและเสวี่ยหลางก็หายไปเสียแล้ว

"สุนัขของท่านอ๋องล่ะ?" พ่อบ้านฉีรู้สึกสับสน

เสวี่ยหลางเป็นสุนัขจิ้งจอกที่โดดเด่นที่สุดที่ได้คัดเลือกจากบรรดาสุนัขจิ้งจอกนับร้อยตัว มีความซื่อสัตย์ที่สุด โดยปกติแล้วมีเพียงเขาและท่านอ๋องหรงเท่านั้นที่สามารถเข้าใกล้ได้ คนใช้ในจวนคนอื่นๆ ต่างไม่กล้าเข้าไปให้อาหารมันเลย แต่วันนี้กลับถูกเด็กตัวน้อยคนหนึ่งพาออกไป

"เจ้าเห็นคนจริงๆ หรือ" พ่อบ้านฉีถาม

คนรับใช้พยักหน้าด้วยความกระวนกระวายใจจนร้องไห้ออกมา "บ่าวเห็นจริงๆ ขอรับ เป็นแม่สาวน้อยคนนั้นเมื่อคราวก่อน เมื่อนางเข้ามาเสวี่ยหลางก็โผเข้าไปหานางและเลียนาง แถมยังกินอาหารในมือของนางอีกด้วย"

"เช่นนั้นยังไม่รีบออกตามหาอีก" พ่อบ้านฉีตบลงไปที่หน้าอกของเขาหนึ่งที

ทางนั้น เสวี่ยหลางได้พาไป๋ชงเซิงไปที่หอเป่าซิน

ที่หอเป่าซินก็มีถ้ำสุนัขอยู่อีกหนึ่งแห่ง เสวี่ยหลางนอนหมอบที่ด้านหน้าของคอกสุนัขและส่งเสียงให้กับไป๋ชงเซิง

"เข้าไปจากตรงนี้ก็สามารถเจอเจ้านายน้อยของเจ้าอย่างนั้นหรือ เจ้าแน่ใจหรือ?" ไป๋ชงเซิงกะพริบตาและกล่าวกับเสวี่ยหลาง

เสวี่ยหลางส่งเสียงครวญออกมา และจากนั้นได้มุดตัวเพื่อเข้าไปยังถ้ำสุนัข

ไป๋ชงเซิงเห็นมันเข้าไป จึงได้ตามเข้าไปด้วย

บริเวณโดยรอบของถ้ำสุนัขล้วนเป็นหญ้าวัชพืช ข้างหน้ายังมีบ่อน้ำรกร้างอีกหนึ่งแห่ง ดูเหมือนว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของเรือนขนาดเล็กที่รกร้างหลังนี้

เสวี่ยหลางกัดขอบชายเสื้อของนางเอาไว้ และไป๋ชงเซิงได้เดินตามมันเข้าไป

หลังจากที่เดินผ่านเรือนรกร้างนี้ไปแล้ว นางก็ได้มองเห็นหรงจิ่งหลินนั่งอยู่ที่ใต้ชายคาของเรือนอีกหลังหนึ่งเพียงลำพัง

แม่นมซั่งยืนอยู่หน้าเขาและกล่อมเขาไม่หยุด มีคนใช้จำนวนหนึ่งถืออาหารเอาไว้ในมือและล้อมรอบเขาเอาไว้

ทว่าหรงจิ่งหลินกลับนิ่งเฉยและมีสีหน้าบูดบึ้ง ซึ่งดูออกว่าไม่มีความสุขอย่างมาก

ไป๋ชงเซิงก้มลงจัดระเบียบเสื้อผ้าของตัวเอง นางสามารถลองเข้าไปทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้นมาได้

ขอเพียงแค่องค์รัฐทายาทมีความสุข เช่นนั้นเขาจะสามารถพานางเข้าวังไปช่วยเหลือท่านแม่ได้

นางหันกลับไปพูดกับเสวี่ยหลาง "เราวิ่งออกไปพร้อมกัน ข้าจะนับหนึ่งถึงสาม......"

"โอ๊ะ......" ไป๋ชงเซิงยังไม่ทันจะเริ่มนับ เสวี่ยหลางก็ได้วิ่งออกไปจากเรือนรกร้างและพุ่งไปหาหรงจิ่งหลิน

บรรดาคนใช้ต่างพากันตกใจกับการวิ่งเข้ามาอย่างกะทันหันของเสวี่ยหลาง มันเห่าซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ทว่าขณะที่หรงจิ่งหลินมองไปยังเสวี่ยหลางนั้น แววตาของเขาเป็นประกายและส่งเสียงเรียก "เสวี่ยหลาง"

"หงิงๆ!" เสวี่ยหลางวิ่งเข้าไปหา และเดินวนรอบหรงจิ่งหลิน

ไป๋ชงเซิงเดินออกมาจากเรือนรกร้างอย่างเชื่องช้าแม่นมซั่งเห็นนางเป็นคนแรก

เสื้อผ้าบนตัวนางนั้นสกปรกเลอะเทอะไปหมด ใบหน้าก็เปรอะเปื้อนไปด้วยดินโคลน บนศีรษะยังมีดอกหญ้าและใบหญ้าติดอยู่ ดูแล้วช่างน่าอดสูเสียเหลือเกิน

"เจ้า......เจ้ามาอยู่ในจวนท่านอ๋องได้อย่างไร?" แม่นมซั่งถามออกไปด้วยความตกตะลึง

เมื่อหรงจิ่งหลินได้ยินคำพูดของแม่นมซั่งก็ได้หันไปมองทางฝั่งไป๋ชงเซิง

แสงสว่างในแววตาของเขานั้นเจิดจ้าผิดไปจากปกติ เพราะการปรากฏตัวของไป๋ชงเซิง "เจ้านั่นเอง!"

หรงจิ่งหลินปล่อยมือออกจากเสวี่ยหลาง และรีบวิ่งไปยังไป๋ชงเซิง

ไป๋ชงเซิงก็เดินเข้าไป มือน้อยที่เปรอะเปื้อนยกขึ้นมาเช็ดเหงื่อบนหน้าผากและกล่าวว่า "ข้าตั้งใจมาหาเจ้าโดยเฉพาะเลย"

"เจ้ามาหาข้า?" หรงจิ่งหลินรู้สึกประหลาดใจ

เขาโตมาจนถึงตอนนี้กลับไม่เคยมีเพื่อนที่อายุไล่เลี่ยกันมาเล่นกับเขาเลย

ไป๋ชงเซิงเป็นคนแรก

เขาเดินนำหน้าและจูงมือที่เลอะเปรอะเปื้อนของไป๋ชงเซิงและกล่าวว่า "เจ้าคลานเข้ามาจากถ้ำสุนัขอีกแล้วใช่หรือไม่?"

"อืมๆ"

"เช่นนั้นหลังจากนี้ เจ้าก็เดินเข้ามาจากหน้าประตูจวนอ๋องได้อย่างเปิดเผย!"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น