พวกเขาเคยต่อสู้กับท่านแม่ทัพคนนี้ที่แคว้นฉี และเขาเป็นคนป่าเถื่อนและนิสัยโหดเหี้ยม ขณะเดียวกัน เขายังเป็นองค์รัชทายาทที่ถูกเนรเทศจากแคว้นฉีอีกด้วย
ไม่มีใครเข้าใจความกระตือรือร้นในการฟื้นฟูประเทศของเขา ดังนั้นครั้งนี้เขาจึงเตรียมการมามากพอ ที่จะไม่ปล่อยให้ตัวเองล้มเหลว
สำหรับองค์รัชทายาทที่ถูกเนรเทศแล้ว ไป๋ชิงหลิงเป็นเครื่องมือต่อรองที่ใหญ่ที่สุดของเขา
ทหารองครักษ์เหยี่ยวดำกำเคียวในมือแน่น และไม่ถอยกลับ
อ๋องหรงตะโกนอย่างเย็นชา “ถอยกลับ”
“นายท่าน !” อิงซาไม่แนะนำ
“ถอนตัว!” อ๋องหรงตะโกนอีกครั้ง
พวกทหารองครักษ์เหยี่ยวดำที่ยืนอยู่บนสุสาน รีบลงมาบนพื้นทันที
หยางสวี่อี้ยิ้มมุมปากของเขาด้วยความพึงพอใจและพูดว่า “เจ้ารักอาเสวี่ยมากจริง ๆ อาเสวี่ยไม่ได้แต่งงานถูกคนแล้ว ไม่ว่านางจะแทงเจ้ากี่ครั้ง เจ้าก็ยังเป็นคนเดิมสำหรับนาง一"
“อย่าเรียกข้าว่าอาเสวี่ย” ไป๋ชิงหลิงซึ่งลอยอยู่ในอากาศ ตำหนิด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ข้ารู้สึกสะอิดสะเอียน”
หยางสวี่อี้เงยหน้าขึ้นมองนาง มุมปากของเขาค่อยๆ จมลง และพูดว่า “เป็นเพราะข้าฆ่าชิงอีหรือ?”
“เจ้าไม่สมควรพูดถึงชิงอีอีกต่อไป” ไป๋ชิงหลิงจับเชือกที่มัดมือสองข้างของตัวเองไว้แน่น และพูดคำต่อคำ “ชิงอี...มอบใจให้ผิดคน!”
หยางสวี่อี้หัวเราะ “ฮ่าฮ่า” สองสามครั้ง
เขายกมือขึ้นแล้วพูดว่า “อาเสวี่ย เจ้าใจดีมาก ข้าเพิ่งฆ่าชิงอีและอาจิ แต่คนที่อยู่ข้างหมอนของเจ้า ล้างตระกูลของข้าด้วยเลือด และยังเผาบ้านของข้า ทำให้ข้าไร้ที่อยู่อาศัย น้องชายของข้าก่อนที่เขาจะเสียชีวิตอายุเท่ากับลูกชายของเจ้า เขาถูกกองทหารม้าเหล็กของอ๋องหรงกระทืบเป็นชิ้นเนื้อ เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาบอกข้าว่าข้าไม่คู่ควร ใครกันที่เป็นคนทำให้ข้าเป็นอย่างนี้!”
“เขาเอง……” หยางสวี่อี้เริ่มไม่พอใจมากขึ้น เมื่อเขาพูดสองคำนี้ เขาชี้ไปที่อ๋องหรงด้านล่าง และตะโกนอย่างควบคุมไม่ได้“ก่อนที่ท่านแม่ของข้าจะตาย ยังตั้งครรภ์ได้หกเดือน แต่กลับต้องถูกทรมานจนตาย……”
“เจ้าถามเขาดู ว่าทำเรื่องไร้ศีลยธรรมกับท่านแม่ของข้าอย่างไรบ้าง” หลังจากที่หยางสวี่อี้พูดจบ น้ำตาก็ไหลอาบใบหน้าของเขา ร่างกายของเขาสั่นอย่างรุนแรงจากคำพูดที่รุนแรงของเขา
แต่ประสบการณ์ที่เลวร้ายของเขา กลับทำให้ไป๋ชิงหลิงไม่สามารถกระตุ้นความสงสารในใจได้
และสิ่งที่ทำให้ไป๋ชิงหลิงตกใจยิ่งกว่าคือ อาจิก็ถูกเขาฆ่าเช่นกัน
แล้วคนตระกูลหยางล่ะ?
“อาจิ...เจ้าเป็นคนฆ่า” เสียงของไป๋ชิงหลิงสั่นอย่างเห็นได้ชัด และถามด้วยความไม่เชื่อ
หยางสวี่อี้พูดอย่างตรงไปตรงมา “ใช่ ข้าฆ่า ก่อนที่ฉันจะมาเมืองหลวงพร้อมกับตระกูลหยาง ก็ได้ซุ่มโจมตีหลายครั้ง คนในตระกูลหยางรวมถึงอาจิได้รับบาดเจ็บ ล้วนเป็นแผนของข้า และตราอาญาสิทธิ์ทหารองครักษ์เหยี่ยวดำที่ข้ามีทั้งหมดนั้น มันแค่ของปลอมที่ข้าทำขึ้นเอง”
“เจ้า……” เมื่อไป๋ชิงหลิงได้ยินคำพูดเหล่านี้ หัวใจของนางแทบสลาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...