เขาสามารถถอยให้กับทุกสิ่ง แต่นี่คือสิ่งที่เป็นขีดจำกัดของเขา
การจากไปของฉุ๋ยฮองเฮาคือบาดแผลของเขา เขาปกป้องศพของฉุ๋ยฮองเฮาไว้ เพื่อจะได้ฝังลงไปพร้อมกับนางในร้อยปีต่อมา
ไม่อาจเกิดมาร่วมกันได้ แต่สามารถตายไปด้วยกันได้!
หากใครเข้ามาแตะต้องขีดจำกัดของเขา เขาไม่สนว่าจะต้องแลกด้วยอะไร เขาจะทำทุกวิถีทางเพื่อเอาชีพของอีกฝ่ายมาให้ได้
ไม่ว่าคนผู้นั้นจะเป็น......ลูกของเขากับฉุ๋ยฮองเฮาก็ตาม
ไป๋ชิงหลิงซึ่งถูกแขวนไว้ด้านบน นางมองเห็นทุกอย่างได้อย่างชัดเจน
สองพ่อลูกเผชิญหน้ากันด้วยดาบ นี่คือความเศร้าโศกของจักรพรรดิ
และเรื่องทั้งหมดก็เกิดขึ้นเพราะนาง
นางหยิบกรรไกรออกมาจากห้วงมิติเวลา ตัดเชือกที่รัดข้อมือของนางอยู่ ทำให้เชือกขาดในทันใด!
ร่างกายของนางตกลงอีกครั้ง เพียงแต่บนร่างร่างกายของนางยังมีเชือกที่รักษาความปลอดภัยของนางอยู่ ดังนั้นเชือกที่รัดคอของนางจึงยังพอมีที่ว่างกับคอของนาง
ทหารองครักษ์เหยี่ยวดำตะโกนออกมา “นายท่าน พระชายาตัดเชือกขาดแล้ว”
หยางสวี่อี้เงยหน้าขึ้น เมื่อเห็นว่าเชือกเส้นสุดท้ายบนร่างกายของไป๋ชิงหลิงกำลังจะขาดลง เขาก็สั่งออกมาด้วยเสียงอันเคร่งขรึม “หากเจ้าอยากตายก็เชิญ ลูกธนูนับหมื่นกำลังเล็งไปที่เจ้า ข้าจะทำให้เจ้าสมความปรารถนา และให้พวกเจ้าได้ตายไปด้วยกัน”
ร่างกายของไป๋ชิงหลิงสั่นเทา ดวงตาที่แดงก่ำจ้องมองมาที่หยางสวี่อี้ด้วยความโกรธ “เจ้ากล้างั้นหรือ!”
“เจ้าก็ลองดูว่าข้ากล้าหรือไม่ รอให้พวกเจ้าสองคนตายไปแล้ว ข้าจะส่งลูกของพวกเจ้าตามไปลงนรก” เพื่อที่จะทำให้ไป๋ชิงหลิงล้มเลิกความคิดที่จะฆ่าตัวตาย หยางสวี่อี้จึงกล่าวเสริมออกมาว่า “แม้แต่อาจิข้าก็สังหารมาแล้ว แน่นอนว่าไม่มีทางมีเยื่อใยกับเซิงเอ๋อร์”
“เจ้า......”
“อึก!” ความโกรธของไป๋ชิงหลิงพุ่งถึงขีดสุด นางกระอักเลือดออกมา
หรงเยี่ยตะโกนออกมาด้วยความเป็นห่วง “พระชายา อย่าทำอะไรผลีผลาม”
“ข้าจะให้เวลาเจ้า ข้าจะรอจนกว่าเจ้าจะนำศพของฉุ๋ยฮองเฮาออกมา ก่อนหน้านั้น ข้ารับประกันว่าผู้หญิงของเจ้าจะมีชีวิตอยู่อย่างปลอดภัย” หยางสวี่อี้กล่าวออกมา
ไป๋ชิงหลิงส่ายหน้าพร้อมคำรามออกมา “อย่าทำเช่นนั้น ห้ามทำเช่นนั้นเป็นอันขาด นางคือเสด็จแม่ของเจ้า หากเจ้านำนางออกมาจากสุสานจักรพรรดิเพื่อข้า เช่นนั้นข้ากับเจ้า......ก็คงไม่อาจกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้ เจ้าอย่าทำเรื่องที่ทำให้ข้าต้องสะเทือนใจถึงเพียงนี้”
แม้ว่าเขาจะไม่เคยเอ่ยถึงฉุ๋ยฮองเฮาต่อหน้านาง แต่ในใจของนางนั้นรู้ดี ฉุ๋ยฮองเฮาคือแสงสว่างในวันเด็กของเขา
นางคือคนในครอบครัวที่มีค่ามากที่สุดของเขา
ต่อให้นางต้องตาย เขาก็ไม่อาจมองข้ามความสำคัญของคนในครอบครัวผู้นี้ไปได้
หากเอานางและฉุ๋ยฮองเฮามาเปรียบเทียบกันในหัวใจของหรงเยี่ย เช่นนั้นความสำคัญของทั้งสองก็อยู่ในแนวทางที่ต่างกันออกไป
ก่อนหน้านี้นางรู้สึกเกลียดเป็นอย่างมากที่หรงเยี่ยลงมือกับคนของตระกูลหยาง แต่เวลานี้นางรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากกับสถานการณ์ในปัจจุบันของหรงเยี่ย
หากนางเลือกที่จะเชื่อเขา ให้เวลากับเขาอีกสักหน่อย วันนี้และเวลานี้ก็คงไม่ต้องมาพบเจอกับเรื่องยากลำบาก ชิงอีก็ไม่จำเป็นต้องตาย
และด้วยเหตุผลที่กล่าวมาทั้งหมด หากนางต้องจบชีวิตลงที่นี่ มันก็เป็นเรื่องที่สมควร
แต่จักรพรรดิเหยาไม่ได้รู้สึกเห็นใจในคำพูดและวิธีการของไป๋ชิงหลิง “พลธนู”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...