ลูกธนูที่เหมือนกับห่าฝนหยุดลงในพริบตา หรงเยี่ยเองก็หายเข้าไปในส่วนลึกของป่า จักรพรรดิเหยาสั่งให้องครักษ์ลับจักรพรรดิและเสิ่นหรูเหลียนไล่ตามศพของฉุ๋ยฮองเฮาไป
หลวนอี๋ยกร่างของฮองเฮาอู่ขึ้นมา ร้องไห้อย่างสิ้นหวัง “เสด็จพ่อ เสด็จแม่ตายแล้ว!”
อะไรนะ?
เนื่องจากเรื่องของฉุ๋ยฮองเฮา จักรพรรดิเหยาจึงเสียสติอย่างรุนแรง ร่างกายของเขาสั่นไหว
เสียงร้องไห้ของหลวนอี๋ดังขึ้นมาจากทางด้านหลังของเขา “เหตุใดท่านต้องสังหารเสด็จแม่ เป็นเพราะฉุ๋ยฮองเฮางั้นหรือ ท่านสามารถสังหารคนทั่วทั้งใต้หล้าเพียงเพราะฉุ๋ยฮองเฮาคนเดียวได้อย่างนั้นหรือ......”
จักรพรรดิเหยาหันหลังกลับมาและมองไปที่หลวนอี๋
เวลานี้เขาถึงพบว่ามีเลือดจำนวนมากไหลออกมาจากปากของฮองเฮาอู่ ทำให้ชุดสีขาวที่นางสวมใส่เปียกชุ่ม ราวกับการตายของฉุ๋ยฮองเฮาในตอนนั้น
นางหลับตาทั้งสองข้าง ในอ้อมแขนของหลวนอี๋ ไร้ซึ่งการเคลื่อนไหว
จักรพรรดิเหยาปล่อยดาบที่อยู่ในมือของเขาทันที รีบวิ่งมาทางฮองเฮาอู่
ในตอนที่เขาเข้ามาตรงหน้าของนาง เขายื่นมือออกมารับร่างของฮองเฮาอู่จากอ้อมแขนของหลวนอี๋ จากนั้นตะโกนออกมาดังลั่น “หมอหลวง หมอหลวง......”
หมอหลวงจ้าวคุกเข่าอยู่หน้าเขา ก้มตัวลงพร้อมกล่าวว่า “ฝ่าบาท ฮองเฮาเหนียงเหนียงบาดเจ็บรุนแรง เวลานี้นางได้จากไปแล้ว”
“เป็นไปไม่ได้!” จักรพรรดิเหยายื่นมือออกมา จับคอเสื้อของหมอหลวงจ้าว ยกร่างของเขาขึ้น กล่าวด้วยใบหน้าอันดุร้าย “ข้าก็แค่ผลักนางเพียงเล็กน้อยเท่านั้น นางจะตายได้อย่างไร”
“ฝ่าบาท!” หัวใจของหมอหลวงจ้าวเต็มไปด้วยความหวาดกลัว แต่เขาก็ยังคงพูดความจริงออกมา “อวัยวะภายในของฮองเฮาเหนียงเหนียงแหลกสลาย ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากภายใน ประกอบกับอาการกระดูกสันหลังหัก ศีรษะด้านหลังของนางถูกเจาะเข้าไปยังสมองที่อยู่ภายใน เหนียงเหนียงจากไปตั้งนานแล้ว!”
“ไร้ประโยชน์” จักรพรรดิเหยาโยกร่างของหมอหลวงจ้าวออกไปอย่างรุนแรง ก้มหน้ามองผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมแขน วางมือไว้บนด้านหลังศีรษะของนาง จากนั้นก็ดึงปิ่นปักผมที่อยู่ด้านหลังออกจากกะโหลกศีรษะของนาง
ปิ่นปักผมปักเข้าไปในศีรษะของนางประมาณสามส่วน มันเปียกชุ่มไปด้วยเลือด
ในตอนที่หลวนอี๋เห็นปิ่นปักผม นางก็ร้องไห้ออกมาอย่างสุดหัวใจ “เสด็จแม่......”
นางร้องไห้และคลานอยู่บนร่างของฮองเฮาอู่ มันเป็นการร้องไห้ที่สุดแสนจะขมขื่น
ทุกคนที่อยู่ที่นั่นต่างพากันคุกเข่า
จักรพรรดิเหยาเขย่าร่างของฮองเฮาอู่ เขาไม่อาจยอมรับความจริงที่เกิดขึ้นได้
เห็นกันอยู่ว่าเขาเพียงแค่ผลักนางออกไปเบา ๆ เท่านั้น
เหตุใดเรื่องราวถึงเป็นเช่นนี้ได้?
เวลานี้สมองของเขาเต็มไปด้วยความว่างเปล่า
ฉุ๋นเอ๋อร์จากเขาไปแล้ว
ยู่เอ๋อร์เองก็จากเขาไปแล้วเช่นกัน
หลังจากนี้เขาก็ต้องใช้ชีวิตอยู่ลำพัง!
ทั้งหมดนี้เป็นฝีมือของผู้ใด?
“หลานเฉินเฟิง!” ดวงตาของจักรพรรดิเหยาเต็มไปด้วยความอาฆาต
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...