ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 437

เขากล่าวออกมาว่า “ข้าเชื่อในสิ่งที่เจ้าพูดออกมา แต่ข้ารู้สึกว่าเจ้าไม่ใช่ดวงวิญญาณของผู้หญิงทั่วไป แต่เจ้าคือดวงวิญญาณของเทพธิดาทั้งเก้าสวรรค์”

ไป๋ชิงหลิงเม้มริมฝีปาก หยอกล้อเขาเบา ๆ “ไม่มีเทพธิดาเก้าสวรรค์ผู้ใดโง่เขลาเช่นข้า และถูกผู้อื่นหลอหลวงง่ายถึงเพียงนี้”

“ชิงหลิง!” เสียงของหรงเยี่ยลดลงต่ำในลำคอ จากนั้นเขาก็จับใบหน้าของนางและกล่าวว่า “มนุษย์ย่อมมีใจที่จะตอบแทนบุญคุณ สิ่งนี้ไม่ใช่ความโง่เขลา”

“เช่นนั้นเหตุใดเจ้าจึงไม่บอกข้าตั้งแต่แรก”

หรงเยี่ยจ้องไปที่ดวงตาคู่นั้นของนาง “ข้าบอกว่าพวกเขาใช้ประโยชน์จากเจ้า ทำร้ายเจ้า เจ้าจะเชื่อข้าหรือไม่?”

“ไม่เชื่อ!” ไป๋ชิงหลิงหลับตาลง รู้สึกอึดอัดในใจอย่างพูดไม่ออก “พวกเราจะไม่กลับไปเมืองหลวงจริง ๆ อย่างนั้นหรือ?”

“คนผู้นั้นต้องการสังหารเจ้า เขาเป็นกษัตริย์ผู้เห็นแก่ตัว คำไหนคำนั้น พวกเราจะไม่กลับไปยังเมืองหลวง พวกเราจะอยู่ที่เยี่ยนหนาน เจ้าเป็นหมอรักษาผู้คนต่อไป ส่วนข้าจะเป็นเจ้าชายผู้เกียจคร้าน อยู่บ้านดูแลภรรยาและลูก!” ริมฝีปากของเขายกขึ้นเมื่อพูดถึงเรื่องราวแห่งความสุขเหล่านี้

เนื่องจากพวกเขายังต้องเดินหน้าต่อไป เส้นทางในอนาคตยังต้องวางแผนอย่างรอบคอบ

และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ พวกเขาตกเป็นเป้าโจมตี!

หากพลาดแม้แต่ก้าวเดียว มันอาจจะทำให้ชีวิตของพวกเขาไม่อาจหวนคืนกลับมาได้

ดังนั้นจึงโชคดีเป็นอย่างมากที่นางยังมีชีวิตอยู่!

ไป๋ชิงหลิงนำมือคู่นั้นของเขาออกจากใบหน้าของนาง ขมวดคิ้วพร้อมกล่าวว่า “เจ้าเคยคิดบ้างหรือไม่ เมื่อเจ้าจากมาโดยไม่เหลือสิ่งใดเลย และอาจถึงขั้นถูกตั้งข้อหาว่าเป็นกบฏหรือคนทรยศ และก่อนหน้านี้เจ้าก็ทำให้ผู้คนอีกมากมายตั้งขุ่นเคือง และพวกเขาก็กำลังรอแก้แค้นเจ้าอยู่ ในความเป็นจริงเจ้าไม่อาจละเลยต่อสิ่งเหล่านี้เพียงเพราะข้า หากเจ้ากลับไปยังเมืองหลวง เจ้ายังคงเป็นท่านอ๋องผู้สูงศักดิ์ ข้าสามารถใช้ชีวิตอยู่ในเยี่ยนหนานเพียงลำพังได้ ส่วนลูก ๆ......”

“เจ้าต้องการชีวิตของข้างั้นหรือ!”

“......” ไป๋ชิงหลิงผงะในทันที

เขาไม่สนอาการบาดเจ็บบนร่างกายของตนเอง กอดนางไว้ในอ้อมแขนอย่างสุดแรง “เจ้าคือชีวิตของข้า!”

ไป๋ชิงหลิงถึงกับพูดอะไรไม่ออก

“ข้าทิ้งชีวิตของตนเองไว้ที่นี่ เช่นนั้นจะกลับไปยังเมืองหลวงได้อย่างไร?”

“ระวังบาดแผล......” ไป๋ชิงหลิงผลักแขนของเขาออก แต่เป็นการเคลื่อนไหวที่เบามาก กลัวว่าจะทำให้บาดแผลของเขาได้รับผลกระทบ

แต่สิ่งที่เขาทำคือกอดนางไว้แน่น ไม่อาจจะปล่อยนางออกไปแม้แต่เสี้ยววินาที เขากล่าวออกมาว่า “ชิงหลิง ข้าไม่กลัวฟ้า ไม่กลัวดิน แต่เรื่องที่เกิดขึ้นในสุสานจักรพรรดิวันนั้น ข้ากลัวว่าฟ้าจะพาตัวเจ้ากลับไป กลัวยมบาลจะมาพรากชีวิตของเจ้าไปจากข้า กล้าจนอยากจะสละชีวิตของทุกคนในสุสานจักรพรรดิเพื่อแลกกับชีวิตของเจ้า”

“แต่หากเจ้ายืนอยู่ข้างกายข้า แม้ว่าข้างหน้าจะมีขวากหนามหรือเหวลึก ข้าก็จะไม่กลัวอะไรทั้งนั้น เนื่องจากช้ามีเจ้าอยู่!”

ไป๋ชิงหลิงตกตะลึงอยู่ในอ้อมแขนของหรงเยี่ย สำลักจนพูดอะไรไม่ออก

แขนทั้งสองข้างของนางกอดไปรอบเอวของเขาโดยไม่รู้ตัว จากนั้นกล่าวออกมาว่า “ข้ารักเจ้า อาเยี่ย!”

แค่ประโยคสั้น ๆ เพียงแค่ห้าพยางค์ มันให้ใบหน้าของหรงเยี่ยเต็มไปด้วยความดีใจจนไม่อาจซ่อนรอยยิ้มเอาไว้ได้

หลังจากผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง ทหารองครักษ์เหยี่ยวดำที่อยู่ไม่ไกลก็ปรากฏตัวออกมา

ทหารองครักษ์เหยี่ยวดำสองนายคุกเข่าลงต่อหน้าหรงเยี่ยพร้อมกับกล่าวว่า “หลานเฉินเฟิงพาบุตรบุญธรรมของเขาตรงมาตามแม่น้ำ เดินทางมายังเยี่ยนหนาน นายท่าน ต้องขัดขวางพวกเขาหรือไม่?”

“ทำลายสะพานข้ามแม่น้ำ สองสามวันที่ผ่านมามีฝนตกหนัก ปริมาณน้ำในแม่น้ำจะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล หลานเฉินเฟิงไม่อาจข้ามมาได้” หลังของหรงเยี่ยพิงต้นไม้ มือของเขาวางไว้คอของไป๋ชิงหลิง เอนร่างของผู้หญิงที่คุ้นเคยลงมานอนบนตักของเขา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น