“ก่อนที่ท่านอ๋องจะจากไป ให้ข้าน้อยนำบางอย่างมาให้พระชายา” อิงซาหยิบกล่องของขวัญออกมาจากแขนเสื้อ ยื่นให้เธอด้วยมือทั้งสองข้าง
ไป๋ชิงหลิงเอื้อมมือไปรับ เปิดกล่องออกดู มีปิ่นหยกปักผมอยู่ด้านใน
และปิ่นปักผมนี้ ก็เหมือนกับปิ่นปักผมที่เธอใช้ตอนอยู่ที่หุบเขาเซียนไหล
ในกล่องยังมีกระดาษที่เขียนข้อความไว้ เธอหยิบออกมา เปิดอ่าน แด่ภรรยาอันที่เป็นรัก!
ไป๋ชิงหลิงขมวดคิ้วเล็กน้อย กำปิ่นปักผมแน่นแล้วถามว่า “เขานำองครักษ์เหยี่ยวดำไปด้วยต้องการจะทำอะไร?”
อิงเหลียนอิงซาตอบพร้อมกันว่า “ข้าน้อยไม่ทราบ”
แม้ว่าพวกเขาจะเดาได้ แต่การเคลื่อนไหวของหรงเยี่ยนั้นเป็นความลับ ทั้งหมดจะต้องถูกเก็บเป็นความลับ
จู่ๆหมอเทวดาซูก็รีบเดินทางมาจากหอยาของตัวเอง เมื่อเห็นไป๋ชิงหลิง
เขาก็คุกเข่าลงกับพื้นอย่างแรง ร้องไห้และพูดว่า “พระชายา ข้าทำให้ท่านต้องผิดหวัง ข้าไม่สามารถช่วยชีวิตซื่อจื่อน้อยได้”
“หมอเทวดาซู!” สีหน้าของอิงซาเปลี่ยนไปมาก
ตอนนี้ไม่มีใครกล้าเอ่ยคำว่า“ซื่อจื่อจิ่ง”สามคำนี้ต่อหน้าไป๋ชิงหลิง นี่คือสิ่งที่นายท่านของพวกเขา ได้กำชับไว้ก่อนจะจากไป
แต่หมอเทวดาซูไม่เข้าใจคำดุของอิงซา เขาคุกเข่าบนพื้น อธิบายกระบวนการที่เขารักษาหรงจิ่งหลิน “ข้าทำตามวิธีที่ท่านเขียนไว้ก่อนหน้านี้ หาคนที่มีเลือดชนิดเดียวกับซื่อจื่อจิ่ง เตรียมถุงเลือดให้พอเพียง แล้วช่วยซื่อจื่อจิ่งเจาะเลือดออก ในขณะเดียวกันก็ให้เลือดซื่อจื่อจิ่งไปพร้อมกันด้วย เข้าหนึ่งออกหนึ่ง เดิมทีสภาพร่างกายดีมาก หลังจากเปลี่ยนถ่ายเลือดไม่ถึงครึ่งเดือน พิษในร่างกายของซื่อจื่อจิ่งก็กำเริบขึ้นอีก และเสียชีวิตกะทันหัน”
เมื่อได้ยินประโยคหลังคำว่า“เสียชีวิตกะทันหัน” ร่างกายของไป๋ชิงหลิงก็สั่น สีหน้าของเธอก็ซีดลงทันที
ไป๋ชงเซิงที่ยืนอยู่ข้างเธอ รีบคว้าแขนของไป๋ชิงหลิงแล้วตะโกนว่า “ท่านแม่ พวกเรากลับห้องก่อน หมอเทวดาซู ท่านกลับหอยาก่อนเถอะ”
“หมอเทวดาซู เชิญกลับหอยาเถอะ” อิงซาก้าวไปข้างหน้าสามก้าว คว้าแขนของหมอเทวดาซู ดึงเขาลุกขึ้นจากบนพื้น และจากเขาออกไป
หมอเทวดาซูตะโกนเสียงดังว่า “พระชายา พวกเราอาจคิดผิด พิษของซื่อจื่อน้อยไม่ได้อยู่ในเลือด แต่อยู่ที่หัวใจ”
ในเวลานี้ หมอเทวดาซูถูกอิงซาพาตัวไปแล้ว ในไม่ช้าก็หายไปจากสายตาของไป๋ชิงหลิง
ไป๋ชิงหลิงกำคอเสื้อที่หน้าอกไว้แน่น อดทนกับความเจ็บปวดในใจ สูดหายใจเข้าลึกๆสองสามครั้ง อิงเหลียนรีบเข้ามาพยุงเธอและพูดว่า “พระชายา กลับเข้าห้องก่อนเถอะ”
“อิงเหลียน.......” ไป๋ชิงหลิงจับแขนของอิงเหลียนไว้แน่น และพูดว่า “ข้าจะฆ่า.......คนที่ป้อนยาพิษให้ซื่อจื่อ”
อิงเหลียนค่อยๆเงยหน้าขึ้น มองเธอด้วยความประหลาดใจ
คนที่ป้อนยาพิษซื่อจื่อในตอนนั้น ไม่ใช่ท่านอ๋องต้วนหรือ?
“เจ้าเข้าใจสิ่งที่ข้าพูดไหม?” เธอหันไปมองอิงเหลียน ขณะที่เธอเดินเข้าไปลานด้านใน
อิงเหลียนไม่ใช่คนโง่ เมื่อได้ยินคำพูดของไป๋ชิงหลิงก็เข้าใจความหมายในทันที “พระชายา ข้ากับอิงซาจะให้ความร่วมมือกับท่าน ท่านต้องการให้พวกข้าทำอะไร?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...