“ขอบคุณ” ไป๋ชิงหลิงกินปลาต่อ
แต่นางกินมากเกินไปในครั้งเดียว ในตอนที่กินปลาก็เต็มท้องแล้ว และตอนนี้นางกินปลาครึ่งหนึ่งในคราวเดียว ทำให้นางอาเจียนออกมา
“อ้วก!”
“พระชายา!” ลี่ว์อีอุทานด้วยความตกใจ
เสิ่นหรูเหลียนรีบคว้าอาหารจากนางอย่างรวดเร็ว และพูดด้วยสีหน้าน่าเกลียด “กินไม่ไหวก็ไม่ต้องกินแล้ว”
“ใช้เวลาเดินทางสองวันโดยไม่กินดื่ม ตอนนี้ขาและเท้าของข้าบาดเจ็บ จะมีเวลามากขนาดที่จะหยุดพักบนถนนเพื่อทำอาหารกินได้อย่างไร ถ้าวันนี้ไม่ผ่านภูเขาลูกนี้ ก็จะต้องรออีกวัน ไทเฮาและจักรพรรดิยังคงอยู่ที่วัดเต๋อหลินรอข้า” ไป๋ชิงหลิงเอื้อมมือไปคว้าปลาจากมือเขา
หัวใจของเสิ่นหรูเหลียนบีบรัด เขาคว้าปลาจากมือของนางแล้วโยนมันลงในถ่านโดยพูดว่า “ท่านไม่ต้องกังวลเรื่องการกิน ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าอดตายไปตลอดทาง ข้าไปก่อนล่ะ แล้วเจอกันตอนเที่ยง”
เขารู้ว่านางจะไม่ยอมรับม้าของนาง และจะไม่อนุญาตให้ใครหามนางไปที่วัดเต๋อหลิน ดังนั้นเขาจึงไม่พูดถึงมัน
เขาลุกขึ้นและมองไปที่อิงเหลียนและลี่ว์อี “ดูแลพระชายาให้ดี”
หลังจากพูดจบ เสิ่นหรูเหลียนก็เดินออกจากบ้าน ไม่นานหลังจากนั้น ก็ได้ยินเสียงเกือกม้าที่ดังมาจากข้างนอก
ไป๋ชิงหลิงพูดว่า “เราก็ไปกันเถอะ”
อิงเหลียนรีบหยิบไม้เท้าที่อ๋องหรงทำก่อนที่เขาจะจากไปและพูดว่า “พระชายา หม่อมฉันก็ทำไม้เท้าแบบเดียวกับที่ท่านให้ท่านอ๋องทุกประการ ท่านถือมันไว้ จะทำให้เดินทางสะดวกขึ้นเพคะ”
นางวางไม้เท้าไว้ใต้รักแร้ของไป๋ชิงหลิง
ไป๋ชิงหลิงคว้าไม้เท้า ดูแล้วพูดว่า “ทำได้ดีมากจริง ๆ ”
อิงเหลียนฝืนยิ้มแล้วพูดว่า “ดูเยอะแล้ว ก็จะทำเป็นเองเพคะ พระชายาจะรู้สึกอย่างไรบ้าง มั่งคงไหมเพคะ”
ไป๋ชิงหลิงเดินไปสองสามก้าวขณะพยุงไม้เท้าไว้และพูดว่า “ดีมาก มีไม้เท้านี่ก็สามารถเดินไปที่วัดเต๋อหลินได้แล้ว”
ขณะที่นางพูด นางก็เดินออกจากบ้านไม้ด้วยไม้เท้า และระหว่างทาง นางก็ไม่ได้หยุดพัดเลย
ในตอนแรกก็รู้สึกเจ็บ แต่พอเดินนาน ๆ ก็รู้สึกชา และเจ็บน้อยลง
เมื่อคืนฝนตกทั้งคืนถนนบนภูเขาเดินไม่สะดวก แต่นี่เป็นเส้นทางที่สั้นที่สุด
และนางพบว่า ระหว่างทางมานี้ หมู่บ้านใกล้เคียงกลายเป็นหมู่บ้านร้าง และถึงแม้จะมีคนเหลืออยู่ ก็เป็นหญิงชรา
พวกนางถ้าไม่ตาบอด ก็หูหนวก!
นอกจากนี้ยังมีหญิงชราคนนี้ เห็นคนแปลกหน้าเดินผ่านหมู่บ้าน ทันใดนั้นก็รีบเข้ามาหยิบไม้กวาดแล้วตะโกนว่า “ออกไป ออกไป อย่าเข้ามาในหมู่บ้านนะ ไอ้พวกคนเลว คนเลว……”
“หยุดนะ!” อิงเหลียนรีบวิ่งไปหาไป๋ชิงหลิง คว้าไม้กวาดในมือของฮูหยินอาวุโสแล้วตะโกน
เมื่อหญิงชราเห็นว่าอิงเหลียนไม่สามารถเอาชนะได้ นางจึงปล่อยมือ แล้วก้าวถอยหลัง “พวกเจ้าหัวขโมย ขโมย ขโมย……”
“นางบ้าไปแล้วหรือไง” ลี่ว์อีถามด้วยความสงสัย
ไป๋ชิงหลิงขมวดคิ้วและนิ่งเงียบ
แต่นางได้ตรวจสอบหมู่บ้านอย่างระมัดระวัง
บ้านในหมู่บ้านนี้ดูไม่เหมือนถูกทิ้งร้างมาเป็นเวลานาน แต่ว่า ในหมู่บ้านขนาดใหญ่ มักจะมีชายหนุ่มและหญิงสาวไม่มาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...