มีเสียง “ปัง”
อิงเหลียนรีบวิ่งไปโดยสัญชาตญาณ เข้ากอดร่างของไป๋ชิงหลิงและใช้หลังของเขาเพื่อสกัดกั้นแรงระเบิดไม่ให้มีเศษชิ้นส่วนกระเด็นโดนนาง
เมื่อเห็นเช่นนี้ใบหน้าไทเฮาก็มืดลง เสียงนางเต็มไปด้วยความโกรธที่ยากจะควบคุม นางพูดอย่างสงบว่า “องค์จักรพรรดิยามนี้เราต้องค้นหาก่อนว่าใครผลักพระชายาหรงลงบันไดร้อยขั้น”
เหตุผลของจักรพรรดิเหยาถูกดึงกลับด้วยคำพูดของพระมารดา
เขามองอิงเหลียนอย่างดุเดือด จากนั้นจึงชี้ไปที่ลี่ว์อีที่กำลังคุกเข่าข้างมือซ้ายของไป๋ชิงหลิงแล้วพูดว่า “เช่นนั้นบอกข้าหน่อยสิ เกิดอะไรขึ้นที่บันไดร้อยขั้น”
ลี่ว์อีก้มหัวลงคำนับ จากนั้นเขาก็ตอบอย่างไม่ถ่อมตัวหรือเอาแต่ใจ “กราบทูลฝ่าบาท หลังจากไปถึงบันไดร้อยขั้น พระชายาหรงจะทำตามพระประสงค์ของฝ่าบาท นางเดินคลานเข่าไปตลอดทาง แต่เมื่อขึ้นไปได้ครึ่งหนึ่ง บ่าวและองครักษ์เหยี่ยวดำกับพระชายากลับต้องเห็นบันไดหินที่ปกคลุมไปด้วยเศษแก้ว”
“เศษแก้ว!” ท่านผู้เฒ่าเสิ่นเปล่งเสียงต่ำ
ใต้เท้าเว่ยที่อยู่ไม่ไกลขมวดคิ้วพร้อมลูบเคราของตน ดวงตาเขามองกระโปรงเปื้อนเลือดของไป๋ชิงหลิง
ไทเฮาถึงกับจ้องมองไปที่เข่าของไป๋ชิงหลิง แล้วก้มหน้าลงแล้วกล่าวว่า “เล่าต่อ”
“เพคะ” ลี่ว์อีตอบรับแล้วเล่าต่อ “บันไดสิบขั้นของบันไดร้อยขั้นนั้นถูกปกคลุมไปด้วยเศษแก้ว พระสนมเอกหรงอยู่บนนั้นได้แต่เฝ้าดู และพระสนมเอกยังกล่าวว่าเศษแก้วเหล่านั้นล้วนเป็นของขวัญที่นางจัดเตรียมไว้ให้พระชายาคุกเข่าเดิน...”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ คนในหอซานไห่ก็รู้สึกหายใจไม่ออกอีกครั้ง
แม้แต่จักรพรรดิเหยายังรู้สึกเจ็บเข่าเมื่อได้ยินเรื่องนี้
แต่เขายังไม่แสดงสีหน้า ยังคงฟังลี่ว์อีต่อไปด้วยแข็งทื่อ
“พระชายาเดินผ่านบันไดสิบขั้นแล้วเข้าไปหาพระสนมเอก แต่พระสนมเอกกลับเตะพระชายาลงมา...”
“เจ้ากำลังพูดไร้สาระ!” จู่ๆ นางกำนัลที่อยู่ฝั่งตรงข้ามก็โต้กลับทันที
ไทเฮาหยิบถ้วยในมือโยนใส่นางกำนัล...
ถ้วยหล่นลงมาคลุมศีรษะนางกำนัลจนต้องกรีดร้อง ก่อนไทเฮาจะตะโกนด้วยความโกรธ “หุบปาก ยังไม่ถึงคราวเจ้าพูด”
เมื่อเห็นภาพนี้ลี่ว์อีกับอิงเหลียนก็เหงื่อออกมาก
ดูเหมือนพระชายาจะมีลางสังหรณ์เตือนล่วงหน้าให้อย่าพูดมาก
หากพวกเขาโต้เถียงกับนางกำนัลต่อหน้าจักรพรรดิเมื่อครู่นี้ พวกเขาอาจถูกโยนถ้วยชาใส่หัวเช่นกัน
ลี่ว์อีส่ายหัวแล้วบอกความจริงต่อไป “หลังจากพระชายาล้มลง บ่าวก็เห็นพระสนมเอกหรงล้มลงด้วย นี่คือสิ่งที่บ่าวเห็น ขอจักรพรรดิและไทเฮาทรงให้ความเป็นธรรมด้วยเพคะ”
หลังจากพูดจบ ลี่ว์อีก็เคาะหัวลงไปอย่างแรงอีกครั้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...