ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 490

สรุปบท บทที่ 490 คำเตือนและการข่มขู่ของหรงฉี: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น

สรุปเนื้อหา บทที่ 490 คำเตือนและการข่มขู่ของหรงฉี – ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น โดย พระจันทร์ขี้เมา

บท บทที่ 490 คำเตือนและการข่มขู่ของหรงฉี ของ ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น ในหมวดนิยายการเกิดใหม่ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย พระจันทร์ขี้เมา อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ไป๋ชิงหลิงหยิบกะโหลกศีรษะบนพื้นขึ้นมา ดูอย่างละเอียด กำลังจะถามเสวี่ยหลางว่าได้มาจากไหนนั้น ก็มีเสียงฝีเท้าดังออกมาจากข้างนอก

นางทำตาเศร้า แล้วก็รีบเก็บกะโหลกศีรษะกับกระดูกอื่นเข้าไปในห้วงมิติเวลา

แล้วก็รีบเดินกลับห้องของตัวเอง มองออกไปข้างนอกผ่านลูกกรงหน้าต่าง

คนที่มาก็คือหรงฉี

เขายืนอยู่ลานหน้าจวน แล้วจ้องมาทางห้องที่นางอยู่ตลอด เหมือนกับว่าสามารถมองผ่านหน้าต่าง แล้วเห็นทุกการเคลื่อนไหวของนาง

สายตาคู่นั้นประกายรังสีสังหารออกมา

เขายกมือขึ้นแล้วก็ชี้มาทางที่นางอยู่ กัดริมฝีปาก มองมาตำแหน่งที่นางอยู่ทำรูปปาก แต่ไม่มีเสียง " ไป๋ชิงหลิง รอดูละกัน"

พูดจบก็วางมือลง แล้วเผยรอยยิ้มที่เยือกเย็นออกมา หันกลับไปแล้วก็เดินออกจากจวนไป

คำใบของเขาคำนั้นเหมือนกับสายลมที่พัดผ่านหูของไป๋ชิงหลิงไป ทำให้ไป๋ชิงหลิงขนลุกไปทั้งตัว

จริงๆ แล้วหรงฉีก็รู้ว่าการเคลื่อนไหวของนาง

วัดเต๋อหลินแห่งนี้ นางไม่เสาะหาเบาะแสก็คงไม่ได้แล้วสินะ

แต่ว่า มีคนที่ไม่ต้องการให้นางหาเบาะแสต่อไป เช้าของวันที่สอง

ไม่รู้ว่าไทเฮาได้รับข่าวจากไหน มายังห้องของนางตั้งแต่เช้าตรู่ เอ่ย " เจ้าเสวี่ย ได้ยินว่าเมื่อคืนเจ้าถูกคนลอบสังหารหรือ แล้วยังได้รับบาดเจ็บที่มือ ไหนให้ข้าดูหน่อยสิว่าสาหัสมากไหม"

" ท่านย่า เจาเสวี่ยไม่เป็นอะไร แค่ถูกกรีดหนังนิดหน่อยเอง ข้าทำแผลเองแล้ว พักผ่อนไม่กี่วันก็คงหายเป็นปกติ แต่ว่าตกใจกลัวมากทำให้เมื่อคืนนอนไม่หลับ" ไป๋ชิงหลิงเหลือบตาลง แล้วก็ใช้มือนวดไปบริเวณแผลเบาๆ พร้อมกับเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน

เวลานี้พอดีก็มีเงาร่างหนึ่งกระโจนเข้ามาในห้อง

ไป๋ชิงหลิงเห็นรองเท้าบูตสีดำคู่นั้นก็เงยหน้าขึ้นอย่างแรง เห็นหรงฉีเดินเข้ามาในห้องอย่างช้าๆ เอ่ย " ท่านย่า กระหม่อมได้ขออนุญาตจากเสด็จพ่อแล้ว หลังจากรับประทานอาหารแล้วก็จะกลับเมืองหลวง ในวัดเต๋อหลินนี้ยังมีอันตรายซ่อนอยู่ อย่าอยู่นานเลย เกรงว่าจะเกิดเรื่องไม่คาดคิดอีก"

ครั้งนี้ ไทเฮาก็อยู่ข้างหรงฉี

นางได้กำมือขวาของไป๋ชิงหลิงไว้ เอ่ย " ใช่ เจ้าทานข้าวกับข้า หลังอาหารเราจะกลับวังทันที"

"จะกลับเมืองหลวงวันนี้เลยหรือ" ไป๋ชิงหลิงทำหน้านิ่วขมวด จากนั้นก็จ้องมองหรงฉี

หรงฉีกกระดิกคิ้วเบาๆ เอ่ย " พ่ะย่ะค่ะ กลับวังวันนี้เลย ไม่กี่วันมานี้ เสด็จพ่ออยู่ที่วัดเต๋อหลินก็ปรับตัวกับสภาพแวดล้อมไม่ได้ อาหารไม่ถูกปาก"

เอาจักรพรรดิมากดดันนางหรือ

ดี แสดงว่าไม่กี่ปีมานี้ก็มีพัฒนาอยู่บ้าง

ไป๋ชิงหลิงไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่กลับพาไป๋ชงเซิงเดินไปห้องอาหารเพื่อกินข้าว

แต่ว่า หรงฉีก็อยู่ด้วย

"เขาเตรียมการมาก่อน แต่ว่าของบางอย่างนั้นซ่อนไม่อยู่หรอก ในเมื่อเขาถึงกับขุดทะเลดอกไม้ทั้งสวน แสดงว่าของที่อยู่ในดินต้องมีปริมาณมากแน่นอน เขาขนทุกอย่างในคืนเดียวนั้นก็น่าจะต้องมีที่ที่เก็บไว้สำรองแน่นอน" หลังจากที่พูดจบ ไป๋ชิงหลิงก็ขมวดคิ้ว

ปัญหานี้พวกเขาไม่มีเวลาไปหาเบาะแส

ในเมื่อคำสั่งของจักรพรรดิเหยาสั่งมาแล้ว พวกเขาก็จำเป็นต้องกลับวังพร้อมกับคนอื่น

ถ้าหากมีการขัดขืน ยิ่งจะทำให้จักรพรรดิเหยาสงสัยในตัวนางยิ่งขึ้นไปอีก

ไม่ว่ายังไง หรงฉีก็เป็นลูกชายแท้ๆ ของเขาเหมือนกัน เขาเองก็ไม่ต้องการให้คนอื่นขุดคุ้ยเรื่องไม่ดีของลูกชายออกมาแน่นอน

และยิ่งจะเปิดเผยเรื่องทั้งหมดออกมาให้ประจักษ์แก่ผู้คน

แต่ถ้าหากกลับไปแบบนี้ ครั้งหน้าอยากจะเอาหลักฐานมัดตัวหรงฉีก็จะยากยิ่งขึ้นไปอีก

เขาก็จะยิ่งระวังตัวขึ้นไปอีก

อาจจะถึงขึ้นยอมทุ่มทุกอย่าง ใช้ลูกของนางหรือคนใกล้ตัวนาง เพื่อบีบคั้นนาง

ไม่ นางจะให้เขาบีบบังคับไม่ได้

" พระชายา ให้ข้าน้อยอยู่ที่วัดเต๋อหลินเพื่อหาเบาะแสต่อ" อิงหลินพูดด้วยเสียงต่ำ

" ไม่ได้"ไป๋ชิงหลิงเอ่ยตอบ " อ๋องต้วนต้องแอบดูข้าและคนรอบตัวข้าแน่นอน รวมถึงหมาตัวหนึ่งด้วย"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น