ไป๋ชิงหลิงหยิบกะโหลกศีรษะบนพื้นขึ้นมา ดูอย่างละเอียด กำลังจะถามเสวี่ยหลางว่าได้มาจากไหนนั้น ก็มีเสียงฝีเท้าดังออกมาจากข้างนอก
นางทำตาเศร้า แล้วก็รีบเก็บกะโหลกศีรษะกับกระดูกอื่นเข้าไปในห้วงมิติเวลา
แล้วก็รีบเดินกลับห้องของตัวเอง มองออกไปข้างนอกผ่านลูกกรงหน้าต่าง
คนที่มาก็คือหรงฉี
เขายืนอยู่ลานหน้าจวน แล้วจ้องมาทางห้องที่นางอยู่ตลอด เหมือนกับว่าสามารถมองผ่านหน้าต่าง แล้วเห็นทุกการเคลื่อนไหวของนาง
สายตาคู่นั้นประกายรังสีสังหารออกมา
เขายกมือขึ้นแล้วก็ชี้มาทางที่นางอยู่ กัดริมฝีปาก มองมาตำแหน่งที่นางอยู่ทำรูปปาก แต่ไม่มีเสียง " ไป๋ชิงหลิง รอดูละกัน"
พูดจบก็วางมือลง แล้วเผยรอยยิ้มที่เยือกเย็นออกมา หันกลับไปแล้วก็เดินออกจากจวนไป
คำใบของเขาคำนั้นเหมือนกับสายลมที่พัดผ่านหูของไป๋ชิงหลิงไป ทำให้ไป๋ชิงหลิงขนลุกไปทั้งตัว
จริงๆ แล้วหรงฉีก็รู้ว่าการเคลื่อนไหวของนาง
วัดเต๋อหลินแห่งนี้ นางไม่เสาะหาเบาะแสก็คงไม่ได้แล้วสินะ
แต่ว่า มีคนที่ไม่ต้องการให้นางหาเบาะแสต่อไป เช้าของวันที่สอง
ไม่รู้ว่าไทเฮาได้รับข่าวจากไหน มายังห้องของนางตั้งแต่เช้าตรู่ เอ่ย " เจ้าเสวี่ย ได้ยินว่าเมื่อคืนเจ้าถูกคนลอบสังหารหรือ แล้วยังได้รับบาดเจ็บที่มือ ไหนให้ข้าดูหน่อยสิว่าสาหัสมากไหม"
" ท่านย่า เจาเสวี่ยไม่เป็นอะไร แค่ถูกกรีดหนังนิดหน่อยเอง ข้าทำแผลเองแล้ว พักผ่อนไม่กี่วันก็คงหายเป็นปกติ แต่ว่าตกใจกลัวมากทำให้เมื่อคืนนอนไม่หลับ" ไป๋ชิงหลิงเหลือบตาลง แล้วก็ใช้มือนวดไปบริเวณแผลเบาๆ พร้อมกับเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน
เวลานี้พอดีก็มีเงาร่างหนึ่งกระโจนเข้ามาในห้อง
ไป๋ชิงหลิงเห็นรองเท้าบูตสีดำคู่นั้นก็เงยหน้าขึ้นอย่างแรง เห็นหรงฉีเดินเข้ามาในห้องอย่างช้าๆ เอ่ย " ท่านย่า กระหม่อมได้ขออนุญาตจากเสด็จพ่อแล้ว หลังจากรับประทานอาหารแล้วก็จะกลับเมืองหลวง ในวัดเต๋อหลินนี้ยังมีอันตรายซ่อนอยู่ อย่าอยู่นานเลย เกรงว่าจะเกิดเรื่องไม่คาดคิดอีก"
ครั้งนี้ ไทเฮาก็อยู่ข้างหรงฉี
นางได้กำมือขวาของไป๋ชิงหลิงไว้ เอ่ย " ใช่ เจ้าทานข้าวกับข้า หลังอาหารเราจะกลับวังทันที"
"จะกลับเมืองหลวงวันนี้เลยหรือ" ไป๋ชิงหลิงทำหน้านิ่วขมวด จากนั้นก็จ้องมองหรงฉี
หรงฉีกกระดิกคิ้วเบาๆ เอ่ย " พ่ะย่ะค่ะ กลับวังวันนี้เลย ไม่กี่วันมานี้ เสด็จพ่ออยู่ที่วัดเต๋อหลินก็ปรับตัวกับสภาพแวดล้อมไม่ได้ อาหารไม่ถูกปาก"
เอาจักรพรรดิมากดดันนางหรือ
ดี แสดงว่าไม่กี่ปีมานี้ก็มีพัฒนาอยู่บ้าง
ไป๋ชิงหลิงไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่กลับพาไป๋ชงเซิงเดินไปห้องอาหารเพื่อกินข้าว
แต่ว่า หรงฉีก็อยู่ด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...