ถึงแม้ว่ามันจะเป็นสุนัข เขาก็จะไม่ปล่อยมันไปอย่างแน่นอน
อิงเหลียนไม่ยอม นางพูดว่า"แต่พวกเรามาถึงขนาดนี้แล้ว ถ้ายอมแพ้คงจะน่าเสียดายมาก"
"ข้าไม่เคยยอมแพ้ ออกไปจากที่นี่ก่อน"หลังจากที่ไป๋ชิงหลิงพูดจบ นางก็หันหลังและออกจากสวนหลังจวนไป
เมื่อเดินผ่านหน้าห้องโถงใหญ่ไป๋ชิงหลิงก็หยุดฝีเท้ากะทันหันแล้วเหลือบมองฝูงชนที่อยู่ข้างกระถางธูปสามขาขนาดใหญ่ด้านนอกห้องโถง จู่ๆนางก็เกิดความคิดขึ้นมาจึงรีบกลับไปที่ลานบ้าน
ลี่ว์อีเก็บเสื้อผ้าเสร็จหมดแล้วจึงพูดว่า"องค์หญิง เราเก็บมันเรียบร้อยแล้ว"
"เซิงเอ๋อร์ล่ะ?"
"องค์หญิงน้อยอยู่กับไทเฮาเพคะ"
"เจ้าจงไปหาไทเฮาแล้วบอกกับไทเฮาว่าพวกเราเก็บของเรียบร้อยแล้ว"ไป๋ชิงหลิงพูด
ลี่ว์อีตอบรับ"เพคะ"แล้วหันหลังเดินออกจากห้องไปยังห้องโถงอีกห้องหนึ่งเมื่อลี่ว์อีออกไปไป๋ชิงหลิงก็หันมาพูดกับอิงเหลียนว่า"กลับแล้วเดินออกจากบ้าน ไปที่ห้องโถงอื่น เมื่อลู่ยี่ออกไป ไป๋ชิงหลิงก็หันไปหาหยิงเหลียนแล้วพูดว่า"ไปพาเสวี่ยหลางมา"
"ไม่ต้องหาหรอก"อิงเหลียนหยิบนกหวีดออกมาแล้วเป่ามันอย่างแรง
หลังจากนั้นไม่นาน เสวี่ยหลางก็รีบเข้ามาจากด้านนอก มันกระดิกหางและนั่งลงตรงหน้าไป๋ชิงหลิง
ไป๋ชิงหลิงเหลือบมองที่ประตูแล้วรีบเดินไปปิดประตูและล็อคประตูไว้ จากนั้นจึงหันกลับมาหาเสวี่ยหลางแล้วนั่งยองๆ ต่อหน้าอิงเหลียน นำกองกระดูกที่เสวี่ยหลางเอามาเมื่อคืนออกมา
อิงเหลียนชะงักไป จ้องมองไปที่กระดูกคนที่อยู่บนพื้นด้วยความตกใจ จากนั้นจึงนั่งยองๆแล้วพูดว่า"พระชายา สิ่งเหล่านี้คือ......"
"นี่คือสิ่งที่เสวี่ยหลางนำกลับมาจากข้างนอกเมื่อคืนนี้"ไป๋ชิงหลิงไม่ได้อธิบายว่านางนำสิ่งต่างๆออกมาจากห้วงมิติเวลาได้อย่างไร นางพูดอย่างกระชับ"ข้าหาวิธีที่จะให้จักรพรรดิตรวจสอบวัดเต๋อหลินรวมไปถึงหมู่บ้านแปลกๆและคนชราที่พวกเราพบระหว่างทางไปวัดเต๋อหลินได้แล้ว"
"พระชายาอยากให้เสวี่ยหลางบอกฝ่าบาทหรือเพคะ?"
"อืม!"ไป๋ชิงหลิงตอบด้วยเสียงต่ำ วางฝ่ามือของนางลงบนหัวของเสวี่ยหลางจากนั้นจึงวางกระถางธูปจากห้องโถงลงตรงหน้าเสวี่ยหลาง
เสวี่ยหลางก้มหัวลงแล้วลองดมๆ จากนั้นจึงกัดไปที่หัวโครงกระดูกคน มันวิ่งไปที่ประตู เตะกลอนประตูแล้วจึงเปิดประตูด้วยตนเองแล้วรีบวิ่งออกจากลานบ้านไป......
เสวี่ยหลางวิ่งเร็วมาก เวลามันวิ่งผ่านผู้คนไป เสวี่ยหลางก็จะวิ่งหายไปก่อนที่คนจะเห็นว่ามันคือตัวอะไร
หลังจากนั้นไม่นานเสวี่ยหลางก็ปรากฏตัวขึ้นในตำหนักเจ้าแม่กวนอิม
มีผู้แสวงบุญมากมายหลั่งไหลมาไม่สิ้นสุด
จู่ๆเสวี่ยหลางก็พุ่งเข้ามาทำให้กลุ่มผู้แสวงบุญตกใจ ผู้คนต่างก็ร้องออกมาด้วยความตื่นตระหนกตกใจ
"ตัวที่เพิ่งวิ่งผ่านไปคืออะไร"
"ตัวใหญ่ขนาดนั้น อาจจะเป็นหมูป่าที่วิ่งลงมาจากภูเขาหรือเปล่า?"
"ไม่ใช่ มันคือสุนัข มันคือสุนัข!"
"อ๊ะ...."ในเวลานี้ผู้หญิงคนหนึ่งในฝูงชนกรีดร้องออกมาและตะโกนว่า"ตายแล้ว ตายแล้ว หมา….คน…."
เสียงกรีดร้องของผู้หญิงดึงดูดผู้แสวงบุญที่กำลังเดินเข้าๆออกๆและสายตาของพวกเขาต่างก็จ้องมองไปที่เสวี่ยหลางที่กำลังวิ่งไปวิ่งมา
ในเวลานี้เสวี่ยหลางก็นั่งลงบนพื้นมองดูกระโหลกศีรษะที่อยู่ตรงหน้ามัน
และผู้หญิงที่กรีดร้องคนนั้นไม่ระวังจึงชนเข้ากับเสวี่ยหลาง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...