นางเบิกตากว้างด้วยความตกใจกลัว เหมือนกับเจอสัตว์ประหลาดอยู่ตรงหน้า แล้วก็ถอยหลังอย่างไม่รู้ตัว
เขา...เขาได้สลบไปแล้วไม่ใช่หรือ
นางหันหน้าไปมองผู้คน เห็นว่าทุกคนต่างจ้องมาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย
ไทเฮาทำหน้าเคร่งขรึม " เสิ่นโหรวเม่ย พระชายาหรงมีเจตนาจะหย่ากับอ๋องหรงจริงหรือ"
"่ใช่ ใช่เจ้าค่ะ ข้าได้ยินกับหูตัวเองเลย" เสิ่นโหรวเม่ยจ้องมองไปยังไป๋ชิงหลิง " ไม่เชื่อ ท่านย่าลองถามพี่สะใภ้เจ็ดดู"
"ไม่" ไป๋ชิงหลิงปฏิเสธอย่างทันความ " ข้าไม่เคยบอกว่าจะหย่ากับอ๋องหรง"
นิ้วมือทั้งสองข้างของนางกำแน่น แล้วก็กัดฟันแน่น นางแค้นเสิ่นโหรวเม่ยเข้ากระดูกดำแล้ว
รอให้นางจัดการอ๋องต้วนก่อน จากนั้นก็จะจัดการเสี้ยนหนามนี้อย่างแน่นอน
" เรื่องเกี่ยวกับซื่อจื่อนั้นข้าได้มีปากเสียงกับอ๋องหรงนิดหน่อย แต่ก็ไม่เคยบอกว่าจะหย่ากับอ๋องหรง และอีกอย่างคือข้าจะยอมปล่อยให้เซิงเอ๋อร์ออกจากเมืองหลวงง่ายๆ ได้ยังไง เสิ่นโหรวเม่ยเจ้าต้องรับผิดชอบคำพูดของตัวเองนะ" หลังจากพูดจบ ไป๋ชิงหลิงก็เดินตรงไปหาหรงเยี่ยแล้วก็ใช้มือจับแขนของเขาไว้ " ทหาร รีบประคองท่านอ๋องหรงไปทำแผลก่อน ส่วนเรื่องอื่น ขอท่านย่าช่วยให้ความยุติธรรมแก่ข้าและอ๋องหรงด้วย เพราะคำพูดของพระชายาเฉินทำร้ายจิตใจเด็กน้อยเป็นอย่างมาก"
"ข้า นี่เจ้า... ไป๋เจาเสวี่ย เจ้าไม่กล้ายอมรับ" เวลานี้เสิ่นโหรวเม่ยโมโหจนแทบอาเจียน จ้องมองไป๋ชิงหลิงด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาต
หลวนอี๋เค้นเสียงด้วยความโกรธ " พี่เจ็ดได้รับบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้ น้องแปดยังมีเวลามาใส่ร้ายพี่สะใภ้เจ็ด พี่แปด ต่อให้ตาบอดมองไม่เห็นก็ไม่ต้องถึงกับบอดตลอดหรอก"
" พาอ๋องหรงกลับจวนไปก่อน หรงโหรวเม่ย อ่องเฉิน ตามข้าเข้ามาในห้อง ใครผิดใครถูกเดี๋ยวข้าจะเป็นคนพิจารณาเอง" ไทเฮาพูดด้วยสีหน้านิ่ง จากนั้นก็เดินเข้าจวนไป
ไป๋ชิงหลิงและอิงเหลียนประคองหรงเยี่ยเข้าห้อง หลวนอี๋และไป๋ชงเซิงก็ตามเข้าไปติดๆ
ไป๋ชงเซิงร้องไห้พร้อมกับดึงมือข้างที่มีเลือดของหรงเยี่ย เอ่ย " เสด็จพ่อ สรุปใครทำร้ายท่านกันแน่ ท่านคงไม่ได้คิดจะวิ่งไปเพื่อฆ่าตัวตายหรอกนะ ถ้าท่านทำอย่างนั้น ข้ากับท่านแม่ก็รู้สึกผิดหวังกับท่าน"
"ฮา" หรงเยี่ยหัวเราะเบาๆ แล้วเก็บความเจ็บปวดไว้พร้อมกับเอามือลูบไปบนหัวของไป๋ชงเซิง " พ่อ...จะไป....ฆ่าตัวตาย...ได้ยังไง...พ่อยังต้องดูแล...พวกเจ้า...แม่ลูก..."
"องค์หญิง พาเซิงเอ๋อร์ออกไปก่อน ลี่ว์อีเจ้าก็ไม่ต้องอยู่หรอก ที่นี่ข้าคนเดียวก็เพียงพอแล้ว " นางระงับความโกรธไว้ พูดด้วยความใจเย็น
หลวนอี๋อุ้มไป๋ชงเซิง เอ่ย " เซิงเอ๋อร์ เราออกไปกันก่อนนะ ให้แม่เจ้าได้ช่วยเสด็จพ่อเจ้าก่อน"
"ท่านแม่ ท่านต้องห้ามเลือดให้เสด็จพ่อให้ได้นะ ข้าไม่อยากจะจากเสด็จพ่ออีกแล้ว" ไป๋ชงเซิงถูกหลวนอี๋อุ้มออกไป พูดไปด้วยร้องไห้ไปด้วย
ไป๋ชิงหลิงรู้สึกเหมือนถูกตอกย้ำอย่างแรงอีกครั้ง นางรู้สึกผิดต่อเซิงเอ๋อร์
คนนี้เป็นเด็กที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขในโลกที่ไม่คุ้นเคยนี้กว่าหกปี เป็นเลือดเนื้อของนาง เป็นคนรักของนาง...
นางจะทำใจทิ้งนางแล้วหนีออกจากเมืองหลวงได้ยังไง
นางพยักหน้าอย่างแรง แล้วก็ไม่กล้าหันกลับไปดูเซิงเอ๋อร์อีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...