เขานั่งบนเก้าอี้ แล้วก็ดิ้นรนไปมาทำให้เก้าอี้โย้ก องครักษ์เหยี่ยวดำต้องรีบเข้ามาจับเก้าอี้ลงทัณฑ์ไว้ถึงทำให้เก้าอี้ไม่ล้ม
หรงเยี่ยไม่ได้สนใจการตอบสนองของสองคนนั้น เอ่ย " พิษนี้ดีนัก ใช้มันเถิด"
" อืม" ไป๋ชิงหลิงพยักหน้าแล้วก็เดินไปหน้าหรงฉี เอ่ยกับองครักษ์เหยี่ยวดำสองคนข้างๆ ว่า" กดมือเขาไว้ให้แน่น"
องครักษ์เหยี่ยวดำรีบหยิบเชือกแล้วก็มัดมือทั้งสองข้างของหรงฉีไว้กับเก้าอี้ทันที
ฟังเจี้ยนเห็นฉากนี้แล้วก็หน้าแดงหูแดง ร้องตะโกน " ข้ายอมบอก ข้ายอมสารภาพ พวกเจ้าหยุดเดี๋ยวนี้"
หรงเยี่ยส่งสัญญาณมือให้หยุด " หยุดก่อน"
ไป๋ชิงหลิงเก็บเข็มพิษกลับมา เดินถอยหลังก้าวหนึ่ง แล้วก็กวาดสายตาเย็นชาไปหาฟังเจี้ยน เอ่ย " ขัดความสุขจริงๆ ในเมื่อจะสารภาพแล้ว ก็ขอให้มันชัดเจนหน่อย ถ้าไม่อย่างนั้น ต่อให้อ๋องหรงไม่อนุญาต ข้าก็จะไม่ยอมปล่อยคนลองยาที่ดีคนนี้เด็ดขาด อีกอย่างก็ได้รับอนุญาตจากเสด็จพ่อแล้วด้วย"
" นางพิษ...ไม่มีใจเมตตา" ฟังเจี้ยนจ้องมองไป๋ชิงหลิงด้วยความโกรธ เอ่ยพร้อมขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
" จะสารภาพหรือไม่" หรงเยี่ยเค้นเสียงด้วยความเย็นชา
" ข้าสารภาพ ข้าสารภาพ" ฟังเจี้ยนไม่กล้าลังเลอีก เอ่ย " ท่านอ๋องหรงอยากจะรู้อะไร ถามมาได้เลย ข้าน้อยจะไม่ปิดบังเด็ดขาด แต่ข้าก็มีเงื่อนไขหนึ่ง..."
เขาจ้องมองหรงฉี นัยน์ตาเผยให้ความเป็นห่วง
แต่หรงฉีที่นั่งอยู่บนเก้าอี้นั้นกลับส่ายหัวไม่หยุด ส่งสัญญาณให้ฟังเจี้ยนห้ามสารภาพออกมา
ฟังเจี้ยนน้ำตาตก เอ่ย " ข้าขอโทษ ท่านอ๋องต้อน ข้าไม่อาจทนเห็นท่านถูกเหยียบหยามเช่นนี้ได้"
พูดจบ เขาก็หันหน้ามา เอ่ยกับหรงเยี่ย " ข้าน้อยไม่ของชีวิตของท่านอ๋องต้วน แต่หวังว่าท่านอ๋องต้วนจะได้ตายด้วยสภาพศพที่สมบูรณ์ ขอท่านอ๋องหรงรับปากข้าด้วย"
" ได้" อ๋องหรงตอบรับปากอย่างทันความ จากนั้นถามต่อ " เจ้ากับหรงฉีมีความสัมพันธ์อะไรกันแน่"
ฟังเจี้ยนกัดริมฝีปากไว้ ไม่กล้าสู้หน้าอ๋องฉีที่นั่งอยู่ข้างๆ เขา เอ่ย " ข้า...ชื่นชอบท่านอ๋องต้วน"
" เมื่อเจ็ดปีก่อน ท่านอ๋องได้ช่วยข้าไว้บนภูเขาอาน ตอนนั้นข้ายังเป็นแค่เณรน้อยของวัดเต๋อหลินเท่านั้น ไม่มีความสามารถอะไร ไม่ได้รับการยอมรับจากศิษย์พี่ศิษย์น้องด้วย มีครั้งหนึ่งข้าจะฆ่าตัวตาย..."
" พูดเฉพาะสิ่งสำคัญ" หรงเยี่ยตัดคำพูดของเขาด้วยสีหน้าไม่อดทน
ไป๋ชิงหลิงหันมามองเขา เห็นว่าสีหน้าของหรงเยี่ยไม่สู้ดีนัก บริเวณหน้าผากมีเหงื่อเย็นออกมา
อาการบาดเจ็บของเขา...
นางเดินไปข้างตัวหรงเยี่ยแล้วก็วางมือบนหน้าผากของเขา แต่ว่าก่อนที่มือของนางจะถูกต้องหน้าผากเขา หรงเยี่ยก็คว้ามือของนางไว้
เขายิ้มเล็กน้อย แล้วเอ่ยปากด้วยเสียงแผ่วต่ำ " พระชายา ข้าไม่เป็นไร"
" เจ้าไปพักผ่อนก่อนไหม เดี๋ยวข้าจัดการเอง " ไป๋ชิงหลิงเอ่ย
หรงเยี่ยมองฟังเจี้ยนแวบหนึ่ง หลับตาลงเอ่ย " พระชายาถามเถิด ข้าจะนั่งฟัง"
" ได้ " ไป๋ชิงหลิงหยิบยาต้นหนึ่งออกมาจากห้วงมิติเวลา แล้วก็ยัดเข้าไปในปากของหรงเยี่ย ดูเขากลืนยาเข้าไป
นางถึงหันหน้ามาถามฟังเจี้ยน " ค่ายทหารอยู่ไหน แล้วคนตายพวกนี้เข้ามายังวัดเต๋อหลินได้ยังไง แล้วกระดูกขาวก่อนหน้านี้ก็ถูกฝังไว้ในสวนทะเลดอกไม้ใช่หรือไม่"
ฟังเจี้ยนตอบตามตรง " ท่านอ๋องต้วนกลัวว่าถ้าหากข้าถูกจับได้จะเปิดเผยตำแหน่งของค่ายทหาร จึงไม่เคยบอกข้าเลยว่า ค่ายทหารอยู่ที่ไหน แต่ว่า ค่ายทหารนั้นอยู่ในหมู่บ้านใกล้ๆ วัดเต๋อหลินนี้ พวกเขาทำนาในเวลากลางวันแล้วก็ฝึกซ้อมในเวลากลางคืน ส่วนนางบำเรอที่ตายไปพวกนั้น ล้วนแล้วถูกนำเข้ามาจากหลังสวนในเวลากลางคืน แล้วก็ฝังลงในทะเลดอกไม้ทันที"
" พวกเจ้าจับเด็กมามากมายขนาดนั้น จัดการยังไง" ไป๋ชิงหลิงเอ่ยถามต่อ
ฟังเจี้ยนเงยหน้าสบตานางเอ่ย " พระชายาเคยได้ยินเกี่ยวกับ การกินหัวใจเด็กแล้วจะมีเยาว์วัยตลอดไหม พวกเราเลี้ยงทหารก็จำเป็นต้องใช้เงิน ฉะนั้นหัวใจของเด็กพวกนี้ถูกนำมาทำเป็นอาหารสมุนไพร ส่งให้กับคนชั้นสูงในวังกิน"
"นี่เจ้า..." เมื่อไปชิงหลิงได้ยินอย่างนี้ก็ทำให้โมโหขึ้นมาทันที
นางก็เป็นแม่ของเด็กสองคนเช่นกัน เมื่อได้ยินว่าหัวใจของเด็กเหล่านั้นถูกนำไปทำเป็นอาหารสมุนไพร ทำให้นางคิดถึงสภาพของจิ่งหลินขึ้นมาทันที
" หัวใจเด็กที่มีอายุน้อยกว่า 6 ขวบถือเป็นตัวนำยาที่ดีที่สุด พวกสนมในวังชื่นชอบกันมาก ส่วนร่างกายของเด็กเหล่านั้นพวกเราก็สับเป็นชิ้นๆ แล้วก็ให้เป็นอาหารของสุนัขในกองทัพ ทำให้สุนัขเหล่านั้นเลี้ยงออกมาแล้วมีนิสัยเหมือนหมาป่า " ฟังเจี้ยนยิ่งพูดก็ยิ่งเร่าร้อน นัยน์ตาเผยให้เห็นถึงความกระหายเลือด
ตอนที่เสียงพูดของฟังเจี้ยนออกมา ทำให้ใบหน้าที่สง่านั้นเผยความอาฆาตออกมาพร้อมเอ่ย " ข้าจำได้ว่า ท่านอ๋องต้วนยังได้จับพระโอรสไว้องค์หนึ่งด้วย"
พระโอรส
หนังตาของไป๋ชิงหลิงกระตุกแวบหนึ่ง แล้วก็พุ่งไปหาฟังเจี้ยนพร้อมกับกระชากเสื้อที่มอมแมมของฟังเจี้ยน เค้นเสียงถาม " คือ หรงจิ่งหลินใช่ไหม"
ฟังเจี้ยนถูกนางกดทับลงบนเก้าอี้ ยกหัวขึ้นมา ยิ้มมุมปากเอ่ย " น่าจะใช่"
" ตูบ"
ไป๋ชิงหลิงตบไปฝ่ามือหนึ่ง เอ่ยด้วยเสียงคำราม " รีบบอกมา ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน ถ้าไม่อย่างนั้นก็ให้อ๋องฉีตายทั้งเป็น"
" ฮาฮาฮา..." ฟังเจี้ยนหัวเราะออกมาอย่างเสียการควบคุม
ไป๋ชิงหลิงกระชากด้วยแรงที่มี " หรงจิ่งหลินอยู่ไหน เขาอยู่ที่ไหน เจ้าบอกมา..."
" พระชายา" หรงเยี่ยลืมตา ลุกขึ้นมาอย่างกะทันหันแล้วก็เดินมาหาไป๋ชิงหลิง
แล้วก็กอดไป๋ชิงหลิงจากด้านหลัง เรียกสติ " พระชายา เจ้าใจเย็นก่อน"
เขาอุ้มไป๋ชิงหลิงออก ตอนที่เขาอุ้มไป๋ชิงหลิงออกนั้น ขาของไป๋ชิงหลิงก็ถีบลงไปบนตัวฟังเจี้ยน ร้องด้วยใจสลาย " คืนจิ่งหลินให้ข้า คืนเขาให้ข้า..."
หลังจากที่ถูกเขาถีบไปสองทีทำให้ฟังเจี้ยนกระอักเลือด จากนั้นก็ยิ้มต่อ " ใช่ ทำไมข้าถึงได้ลืมเรื่องพระโอรสไปล่ะ ข้าต้องการให้พวกเจ้าส่งท่านอ๋องต้วนลงจากวัดเต๋อหลิน ถ้าไม่อย่างนั้น อ๋องต้วนตาย ซื่อจื่อจิ่งก็ต้องตายเหมือนกัน"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...
อ่านถึงตรงนี้แล้วยอมรับเลยว่าเหนื่อยแทนไป่ชิงหลิงจริงๆ...มีเรื่องตลอด...ช่วงดีๆแทบจะไม่มีเลย..แอดขาาาาตามอ่านจนจะทันแล้วนะคะลงต่อเถอะค่ะเข้ามาส่องทุกวันว่าขยับจาก 460ไปบ้างรึยังพรีสสสสส😽😽😽...
เจอแล้ว..เจอแล้ว..เป็นเรื่องที่อยากอ่านมากๆอีกเรื่องนึง..กรี๊ดลั่นรถจนลูกผัวตกอกตกใจ55555....แอดขาาา..อัพต่อไปเรื่อยๆนะคะจะตามอ่านให้ทันแน่นอนค่ะ😄🤗😊...
ตอนนี้ชื่อหรงฉี่กับอ๋องต้วนสลับกันอยู่นะอย่าทำให้สับสนสิคะ...
บท 433 แล้วมีต่อใช่มั้ยคะ...
อ่านแล้ว ยังไม่จบ แต่สถานะทำไมเสร็จสิ้นแล้ว น่าจะยังอีกหลายตอน ทำไมไม่มีการลงต่อคะ...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...