ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 536

สรุปบท บทที่ 536 ถุงมือของเสิ่นโหรวเม่ย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น

สรุปเนื้อหา บทที่ 536 ถุงมือของเสิ่นโหรวเม่ย – ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น โดย พระจันทร์ขี้เมา

บท บทที่ 536 ถุงมือของเสิ่นโหรวเม่ย ของ ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น ในหมวดนิยายการเกิดใหม่ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย พระจันทร์ขี้เมา อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ถุงมือที่คล้ายสีเนื้อ และปักลายกล้วยไม้อย่างประณีตไว้ข้างบน

เมื่อไป๋ชิงหลิงพูดคำพูดเหล่านี้ หลวนอี้และหรงเยี่ยต่างก็มองไปที่ถุงมือของเสิ่นโหรวเม่ย

หลวนอี๋เดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว คว้ามือซ้ายของเสิ่นโหรวเม่ย แล้วถอดถุงมือของนาง

ขณะที่เสิ่นโหรวเม่ยถูกถอดถุงมือ นางก็ดิ้นรนอย่างแรง “อย่ามาแตะต้องมือของข้า”

“ในเมื่อเจ้าไม่ได้ทำอะไร ก็ไม่จำเป็นต้องซ่อนมัน ยื่นมือออกมา” หลวนอี๋ใช้กำลัง ดึงมือซ้ายของเสิ่นโหรสเม่ยจากข้างหลังมาข้างหน้า

ทันใดนั้นมือที่เต็มไปด้วยแผลไฟไหม้ ก็ปรากฏต่อหน้าทุกคน

เสิ่นโหรวเม่ยร้องไห้และพูดว่า “เห็นแล้วใช่ไหม เห็นชัดเจนหรือยัง พวกเจ้าคิดว่าข้าอยากจะสวมถุงมือตลอดทั้งวันหรือ”

“เม่ยเอ๋อร์!” หรงเชินวิ่งเข้าไป และผลักหลวนอี๋ออกอย่างแรง แล้วกอดนางไว้ในอ้อมแขน แล้วตะคอก “พี่เจ็ด หลวนอี๋ ยังมีเจ้า........พวกเจ้าจะบังคับเม่ยเอ๋อร์ให้ตายถึงจะพอใจหรือ?”

“เสด็จพ่อ ท่านพูดอะไรบ้างสิ ไป๋ชิงหลิงนางเป็นแม่มด ที่ล่อลวงพี่เจ็ดและหลวนอี๋.........”

“ไม่ใช่!” ไป๋ชิงหลิงตะคอกอย่างเย็นชา เธอหยิบถุงมือที่อยู่บนพื้นขึ้นมา แล้วพลิกกลับด้านในถุงมือออกมา

หลวนอี๋ลุกขึ้นยืน และถามด้วยความสงสัย “พี่สะใภ้เจ็ด มีอะไรหรือ?”

ไป๋ชิงหลิงพลิกด้านในถุงมือออกมา แล้วหยิบขึ้นมาใช้จมูกดมกลิ่น

เธอไม่ได้กลิ่นอะไร จึงยื่นถุงมือให้ไป๋ชงเซิง “เซิงเอ๋อร์ เจ้าลองดมดู แค่แป๊บเดียวก็พอ”

ไป๋ชงเซิงสูดดมกลิ่น และขมวดคิ้วทันที “ท่านแม่ มีกลิ่นยาที่แรงมาก”

ไป๋ชิงหลิงมองดูรอยแผลไฟไหม้ขนาดใหญ่บนแขนของเสิ่นโหรวเม่ยอีกครั้ง.........

เสิ่นโหรวเม่ยก็สังเกตเห็นว่าไป๋ชิงหลิงกำลังจ้องมองที่แขนของนาง

นางจึงหลบไปข้างหลังโดยไม่ทันตั้งตัว แล้วจับแขนของหรงเชินอย่างตั้งใจ และพูดอย่างเจ้าเล่ห์ว่า “ถุงมือของข้ามีกลิ่นยาแปลกตรงไหน ผู้หญิงคนไหนที่จะยอมทนกับรอยแผลน่าเกลียดไปตลอดชีวิต เจ้าเองก็พยายามคิดค้นครีมประทินผิวไม่ใช่หรือ ข้าก็หวังว่าจะพยายามลบรอยแผลเป็นบนมือได้ด้วยตัวเอง”

“เจ้าโกหก!” ไป๋ชงเซิงตะโกนอย่างตื่นเต้น และกวาดสายตามองเสิ่นโหรวเม่ย “นี้ไม่มีส่วนผสมที่สามารถลบรอยแผลเป็นได้เลย”

จักรพรรดิเหยามองไปที่ไป๋ชงเซิงโดยไม่รู้ตัว

“ในถุงมือนี้มีสีหญ้าเจ็ดดาว กระถินเทศ ดอกลำโพงม่วง มะเค็ด แมงป่องพิษคู่.......โรสแมรี่จากภูมิภาคตะวันตก แม้ว่ากลิ่นของโรสแมรี่จะอ่อนมาก จนแทบจะไม่ได้กลิ่น แต่ข้าได้กลิ่นมัน” ไป๋ชงเซิงพูดชื่อสมุนไพรที่เธอได้กลิ่นออกมาด้วยน้ำเสียงของเด็กน้อย

สีหน้าของเสิ่นโหรวเม่ยก็เปลี่ยนไปทันที

หลวนอี๋มองไป๋ชงเซิงด้วยสีหน้าตกตะลึง ไม่คิดว่าเด็กตัวเล็กแค่นี้ จะมีความสามารถพิเศษเหนือคนอื่นเช่นนี้

แม้แต่จักรพรรดิเหยาก็ยังตกตะลึง

แต่มีความไวต่อสารที่เป็นยามาก โดยเฉพาะสารพิษ

ดังนั้นเมื่อเขาได้กลิ่นบนถุงมือ เขาก็รีบเอื้อมมือไปหยิบถุงมือมาจากมือของหลวนอี๋แล้วพูดว่า “ห้ามสวมถุงมือนี้อีกต่อไป มีสารพิษร้ายแรงติดอยู่บนถุงมือ”

ทันใดนั้นสีหน้าของหรงเชินก็เปลี่ยนไป มือทั้งสองข้างที่กอดเสิ่นโหรวเม่ยไว้ ก็ปล่อยออกอย่างอ่อนแรง จากนั้นเขาก็ก้มหน้ามองผู้หญิงในอ้อมแขนของเขา ด้วยสีหน้าที่ไม่เชื่อ

ถ้าหากไป๋ชิงหลิงทำเพราะมีเจตนาร้าย แต่ว่า หมอเทวดาซูไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น ไม่มีเหตุผลที่จะใส่ร้ายเสิ่นโหรวเม่ย

จักรพรรดิเหยาส่งเสียง“เอ่อๆๆ” แล้วชี้ไปยังถุงมือที่อยู่ในมือหมอเทวดาซู

หลวนอี๋เข้าใจความหมายที่จักรพรรดิเหยาต้องการจะสื่อ “หมอเทวดาซู ท่านสามารถดมกลิ่นพิษบนถุงมือนี้ได้หรือไม่ ว่ามันมีส่วนผสมอะไรบ้าง?”

“ตัวที่กลิ่นแรงที่สุดคือแมงป่องพิษคู่ ตอนนั้นที่ซื่อจื่อได้รับพิษก็มีพิษชนิดนี้อยู่ในร่างกายด้วย ดังนั้นข้าจึงจำพิษชนิดนี้ได้ดี ต่อมาคือหญ้าเจ็ดดาว มะเค็ด กระถินเทศและยังมีดอกลำโพงม่วง ทุกอย่างล้วนมีพิษร้ายแรง สัมผัสโดนผิวหนังเพียงเล็กน้อย ก็สามารถเน่าเปื่อยได้” หมอเทวดาซูพูด พร้อมกับลูบเคราไปด้วย

สีหน้าของเขาเคร่งขรึมผิดปกติ และหันกลับมาถามว่า “องค์หญิง นี่คือถุงมือของใคร?”

ทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่เสิ่นโหรวเม่ย

ไป๋ชิงหลิงชี้ไปที่แขนของเสิ่นโหรวเม่ย “นางไม่ได้ถูกไฟไหม้ แผลบนแขนนั้นเป็นแผลปลอม”

หรงเชินรีบคว้ามือของเสิ่นโหรวเม่ยทันที วางนิ้วลงบนแผลของนาง แล้วใช้แรงกด รอยแผลเป็นที่น่าเกลียดอย่างยิ่งก็ถูกฉีกออก.........

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น