หรงเยี่ยมองกลับไปที่ไป๋ชิงหลิง พยักหน้าและพูดว่า “ตกลง!”
หรงเยี่ยส่งไป๋ชิงหลิงกลับไปหาองค์หญิงใหญ่ก่อน หลังจากส่งไป๋ชิงหลิงแล้วเขาก็รีบกลับไปที่เมืองไป่หู เพื่อรับเด็กทั้งสองกลับไปที่เมืองหลวง
ในเวลานี้อาการของอิงหมิงหยางก็ดีขึ้นเป็นอย่างมาก ไป๋ชิงหลิงไปที่รถม้าขององค์หญิงใหญ่ และขอให้องค์หญิงใหญ่กลับไปยังเมืองหลวง
“กลับเมืองหลวง?” องค์หญิงใหญ่ขมวดคิ้ว หรี่ตาทั้งสองมองไป๋ชิงหลิง: “เจ้าแน่ใจหรือว่าร่างกายของหมิงหยางสามารถเดินทางได้?”
ไป๋ชิงหลิงกล่าวว่า “เสด็จย่าเพคะ เมื่อข้าเสนอที่จะกลับไปเมืองหลวง ข้าแน่ใจว่าจะควบคุมอาการขององค์หญิงหมิงหยาง และจะไม่มีวันปล่อย ให้นางต้องทนทุกข์ทรมานกับสถานการณ์กะทันหันอย่างที่นางเคยเจอมาก่อน และสำหรับสุขภาพขององค์หญิงหมิงหยาง เสด็จย่ากเห็นว่า พระอาการขององค์หญิงหมิงหยางค่อย ๆ ดีขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น สถานที่แห่งนี้ไม่เหมาะสำหรับการพักฟื้น”
องค์หญิงใหญ่ขมวดคิ้วและเงียบไปครู่หนึ่ง
ซูเหมยที่นั่งอยู่ข้าง ๆ กล่าวว่า “องค์หญิง พระชายาหรงพูดถูก เช้านี้ หม่อมฉันพบว่าองค์หญิงไม่กระอักเลือดอีกต่อไปแล้ว”
องค์หญิงใหญ่เหลือบมองซูเหมย สีหน้าดูผ่อนคลายเล็กน้อย
ไม่ใช่ว่านางต้องการอยู่ที่นี่ แต่หลังจากที่นางออกจากเมืองไป่หู อาการของหลานสาวของพระนางก็แย่ลง นางก็กลัวมากจริง ๆ
เดิมทีนางคิดว่าพักฟื้นอีกสองสามวัน รอให้นางสามารถกินอาหารได้อีกสองคำมัน ค่อยออกเดินทางมันก็ยังไม่สาย
องค์หญิงใหญ่มองดูไป๋ชิงหลิงอีกครั้ง “หากมีอะไรเกิดขึ้นกับหมิงหยางระหว่างทางกลับเมืองหลวง ข้าจะไม่ละเว้นเจ้า”
“หม่อมฉันจะอยู่ในรถม้าเดียวกับองค์หญิง ป้อนน้ำและยาด้วยตัวเอง และดูแลร่างกายขององค์หญิงอย่างใกล้ชิด หากองค์หญิงรู้สึกไม่สบายตัว หม่อมฉันจะหยุด” ไป๋ชิงหลิงลดสายตาลง ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
ใบหน้าขององค์หญิงใหญ่ก็ดีขึ้นอย่างสมบูรณ์เช่นกัน นางโบกมือแล้วพูดว่า “จำสิ่งที่เจ้าพูดไว้ ข้าทนไม่ได้ที่จะเห็นหมิงหยางทนทุกข์ทรมานเช่นนี้อีกครั้ง”
“เพคะ” ไป๋ชิงหลิงลงจากรถม้า
ไม่นานหลังจากนั้น ขบวนรถม้าขององค์หญิงใหญ่ก็ออกเดินทาง
การเดินทางราบรื่นมาตลอด
พวกเขาจะเข้าเมืองหลวงในวันรุ่งขึ้น
องค์หญิงใหญ่พาหมิงหยางกลับไปที่จวนองค์หญิงของตัวเองทันที
ขณะที่รถม้าหยุด ไป๋ชิงหลิงก็ได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งจากภายนอก “หรงอี๋คารวะเสด็จย่าเพคะ”
หรงอี๋ ?
ไป๋ชิงหลิงขมวดคิ้ว ค่อย ๆ เปิดม่านเพื่อมองออกยังไปหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างรถม้าขององค์หญิงใหญ่ ไม่ใช่ใครอื่น นอกจากพระสนมเอกหรง!
ดวงตาของนางเคร่งขรึมลง
คดีวัดเต๋อหลิน พระสนมเอกหรงกลับไม่เป็นอะไร?
มันเป็นไปไม่ได้……
อาชญากรรมของหรงฉี ถือเป็นอาชญากรรมร้ายแรง และจะต้องประหารเก้าชั่วโคตร
แม้ว่าฝ่าบาทจะยังไม่ได้จัดการกับสนมเอกหรง แต่ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่พระสนมเอกหรงจะเข้าไปในพระราชวังได้อย่างอิสระ หรือว่า……
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...