"ใช่ข้าน้อยเองเพคะ" ท่าทีของไป๋ชิงหลิงอ่อนน้อมและน้ำเสียงก็อ่อนลง
จักรพรรดิเหยาตกพระทัยและเงยพระพักตร์ขึ้นมองพระโอรสองค์เล็ก "เหตุใดเจ้าถึงไม่บอกตั้งแต่แรก?"
ริมฝีปากของหรงเยี่ยขยับเล็กน้อย และขณะที่กำลังจะเอ่ยปากพูดไป๋ชิงหลิงก็ได้พูดขึ้นก่อน "เป็นเพราะข้าน้อยไม่ต้องการเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกไป หากคนอื่นทราบว่าข้าน้อยเป็นหมอเทวดา ข้าน้อยเกรงว่าจะทำให้เดือดร้อนไปถึงท่านพ่อบุญธรรมเพคะ"
นางได้รับการเชื้อเชิญจากจักรพรรดิในหลายแคว้น และแน่นอนว่านางจะต้องได้รับความชื่นชอบจากประชาชนคนธรรมดาอย่างแน่นอน
ประชาชนที่เมืองเยี่ยหนานนั้นเห็นนางเป็นเทพธิดาที่ลงมาจากสวรรค์ และมอบร่างกายให้กับนาง แม้แต่จักรพรรดิเหยาเองก็ต้องการเห็นเทพธิดาองค์นี้ แต่ได้ยินมาว่าหุบเขาเซียนไหลนั้นมีความลึกลับซับซ้อนอย่างมากและยากที่จะหาเจอ
พระองค์ได้ส่งคนไปค้นหาอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่พบเบาะแสอะไร คิดไม่ถึงเลยว่าบุคคลผู้นั้นจะอยู่ตรงหน้า
นางคือหมอเทวดาจริงๆ หรือ?
"หมอเทวดาอายุน้อยปานนี้เลยหรือ?" ความสงสัยในพระทัยของจักรพรรดิเหยายังคงไม่หายไป
เพราะหลายปีมานี้ ผู้ที่ปลอมตัวเป็นหมอเทวดานั้นมีจำนวนไม่น้อย
ไป๋ชิงหลิงกลับไม่ได้รู้สึกหงุดหงิดหรือโกรธเคืองกับความสงสัยของจักรพรรดิเหยาเลยแม้แต่นิดเดียว
"ฝ่าบาทเรียกแม่นมคนหนึ่งเข้ามาตรวจสอบร่างกายของข้าน้อยก็ได้เพคะ ลูกของข้าน้อย ข้าน้อยก็เป็นคนลงมือผ่าท้องและคลอดออกมาด้วยตัวเองเพคะ"
"เจ้า ลงมือ......ผ่าท้องตัวเอง!" จักรพรรดิเหยาขมวดคิ้วหนักขึ้น
พระองค์ไม่อาจจินตนาการได้เลยถึงภาพที่คนคนหนึ่งจะผ่าท้องของตัวเองเพื่อคลอดเด็กออกมา นางไม่เจ็บเลยหรือ?
ไม่!
นางผ่าท้องของตัวเอง แต่กลับไม่ตายเพราะอาการสูญเสียเลือดอย่างมาก
ช่างน่าอัศจรรย์เหลือเกิน
จักรพรรดิเหยาเรียกนางกำนัลเข้ามาทันที และให้พาไป๋ชิงหลิงไปยังอีกห้องหนึ่งเพื่อทำการตรวจสอบ
เวลาผ่านไปไม่นานนางกำนัลก็เดินออกมา และรายงานสิ่งที่ตัวเองเห็นทั้งหมดกับจักรพรรดิเหยาตามความจริง "ฝ่าบาทเพคะ บริเวณใต้สะดือของผู้หญิงคนนี้มีรอยแผลเป็นขนาดใหญ่และลึกอยู่หนึ่งรอยเพคะ"
จักรพรรดิเหยาอุทานออกมาด้วยความตกพระทัย "ผ่าท้องให้ตัวเอง เหตุใดเจ้าถึงไม่ตาย ตอนนั้น......เจ้าไม่เจ็บหรืออย่างไร?"
"ข้าน้อยมียาจึงไม่เจ็บเพคะ ข้าน้อยรู้ว่าจะจัดการกับรอยแผลอย่างไร ดังนั้นจึงทำให้ไม่ได้เสียเลือดไปมาก สิ่งเหล่านั้นที่ฝ่าบาทคิดนั้น ข้าน้อยล้วนมีวิธีการแก้ไขทั้งสิ้นเพคะ" ขณะที่ไป๋ชิงหลิงกล่าวออกมา นางได้ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อยและสองมือของนางได้แอบกำชายกระโปรงแน่น
ตอนนั้น นางรู้สึกลำบากอย่างมาก
นางเพิ่งจะทะลุมิติเวลามา ร่างกายก็เต็มไปด้วยบาดแผลจากการถูกทุบตี และมีกระดูกซี่โครงหักหนึ่งเส้น
นางได้กินยาระงับอาการปวดไปเยอะมาก จึงสามารถบรรเทาอาการปวดไปได้
ตอนนั้นนางจึงได้สาบานออกไปว่า เมื่อนางรักษาอาการบาดเจ็บจนหายดีแล้ว นางจะต้องฆ่าผู้หญิงและผู้ชายคู่นั้นให้ตายทั้งเป็น......
และความเปลี่ยนแปลงเพียงน้อยนิดบนใบหน้าของนาง ได้ถูกหรงเยี่ยจับจ้องเอาไว้
เขาคิดว่า ผู้หญิงคนนี้ทำลงไปเพราะสถานการณ์บังคับ และจากการสิ้นหวังจากอะไรบางสิ่ง จึงทำให้นางต้องเสี่ยงชีวิตผ่าท้องตัวเองเพื่อเอาเด็กออกมา
ฉะนั้น......
เป็นเพราะอะไรกันแน่ ที่บังคับให้นางต้องทำเช่นนี้?
"พานางเข้าไป" จักรพรรดิเหยาตรัสสั่ง
หรงเยี่ยที่กำลังยืนเหม่อ เมื่อดึงสติได้จึงรีบเดินไปยังไป๋ชิงหลิง และเอื้อมมือไปคว้าแขนนาง จากนั้นประคองร่างกายของนางลุกขึ้น
ขณะที่ไป๋ชิงหลิงลุกขึ้นนั้น นางรู้สึกเจ็บเข่าเล็กน้อย!
นางรีบสะบัดมือออกจากหรงเยี่ยและกล่าวว่า "รบกวนท่านอ๋องกลับไปยังจวนติ้งเป่ยโหว เพื่อหยิบกล่องยามาให้ข้าน้อยด้วยเพคะ"
"อืม" หรงเยี่ยหันหลังกลับและเดินออกจากตำหนักฮุ่ยหนิงไปอย่างรวดเร็ว
ไป๋ชิงหลิงใช้เวลาขณะที่หรงเยี่ยเดินออกไปจากตำหนัก เดินเข้าไปยังห้อบรรทมของไทเฮา จากนั้นได้หยิบเครื่องมือชิ้นหนึ่งออกมาจากห้วงมิติเวลา
เพราะความสงสัยในวิธีการรักษาของนาง ทำให้จักรพรรดิเหยาเสด็จตามเข้าไปด้วย
เมื่อเห็นนางหยิบสิ่งของแปลกประหลาดออกมาจากใต้แขนเสื้อและใส่เอาไว้ที่หู จากนั้นถือโลหะรูปทรงวงกลมที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งแตะไปยังบริเวณรอบๆ หน้าอกของไทเฮา
พระองค์ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว "นี่คืออะไร?"
ไป๋ชิงหลิงกล่าวอย่างใจเย็น "หูฟังตรวจฟังเสียงเพคะ มีเจ้าสิ่งนี้ สามารถได้ยินเสียงหัวใจ เสียงปอดและอวัยวะภายในได้เพคะ"
เมื่อพูดจบ ไป๋ชิงหลิงก็ได้ทำการตรวจสอบอาการอย่างจริงจัง
ขณะที่เคลื่อนย้ายหูฟังตรวจฟังเสียงไปยังช่วงท้องส่วนล่างด้านขวา จู่ๆ ไทเฮาก็ร้องออกมา "เจ็บ!"
จักรพรรดิเหยารีบเดินเข้ามายังหัวเตียง "เสด็จแม่ อดทนเอาไว้"
"ไทเฮาเป็นอย่างไรบ้าง? ฟังออกมาเป็นอย่างไรบ้าง!" จักรพรรดิเหยาเห็นพระพักตร์ของไทเฮาซีดเผือด ทำให้พระองค์รู้สึกวิตกกังวลอย่างมาก
ไป๋ชิงหลิงเก็บหูฟังตรวจฟังเสียงกลับและวางไว้ข้างๆ "เป็นฝีไส้ติ่งเพคะ"
"หมอหลวงฮั่วก็พูดเช่นนี้" ทันใดนั้นจักรพรรดิเหยาก็รู้สึกหมดหวังเล็กน้อย
ในเมื่อก็วินิจฉัยออกมาว่าเป็นฝีไส้ติ่งเช่นกัน เช่นนั้นก็แสดงว่านางอาจไม่ได้เก่งไปกว่าหมอหลวงเลย เพราะถึงอย่างไรหมอหลวงในสำนักหมอหลวงต่างก็มีประสบการณ์และความรู้ที่มากกว่า......
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...
อ่านถึงตรงนี้แล้วยอมรับเลยว่าเหนื่อยแทนไป่ชิงหลิงจริงๆ...มีเรื่องตลอด...ช่วงดีๆแทบจะไม่มีเลย..แอดขาาาาตามอ่านจนจะทันแล้วนะคะลงต่อเถอะค่ะเข้ามาส่องทุกวันว่าขยับจาก 460ไปบ้างรึยังพรีสสสสส😽😽😽...
เจอแล้ว..เจอแล้ว..เป็นเรื่องที่อยากอ่านมากๆอีกเรื่องนึง..กรี๊ดลั่นรถจนลูกผัวตกอกตกใจ55555....แอดขาาา..อัพต่อไปเรื่อยๆนะคะจะตามอ่านให้ทันแน่นอนค่ะ😄🤗😊...
ตอนนี้ชื่อหรงฉี่กับอ๋องต้วนสลับกันอยู่นะอย่าทำให้สับสนสิคะ...
บท 433 แล้วมีต่อใช่มั้ยคะ...
อ่านแล้ว ยังไม่จบ แต่สถานะทำไมเสร็จสิ้นแล้ว น่าจะยังอีกหลายตอน ทำไมไม่มีการลงต่อคะ...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...