ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 57

"ใช่ข้าน้อยเองเพคะ" ท่าทีของไป๋ชิงหลิงอ่อนน้อมและน้ำเสียงก็อ่อนลง

จักรพรรดิเหยาตกพระทัยและเงยพระพักตร์ขึ้นมองพระโอรสองค์เล็ก "เหตุใดเจ้าถึงไม่บอกตั้งแต่แรก?"

ริมฝีปากของหรงเยี่ยขยับเล็กน้อย และขณะที่กำลังจะเอ่ยปากพูดไป๋ชิงหลิงก็ได้พูดขึ้นก่อน "เป็นเพราะข้าน้อยไม่ต้องการเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกไป หากคนอื่นทราบว่าข้าน้อยเป็นหมอเทวดา ข้าน้อยเกรงว่าจะทำให้เดือดร้อนไปถึงท่านพ่อบุญธรรมเพคะ"

นางได้รับการเชื้อเชิญจากจักรพรรดิในหลายแคว้น และแน่นอนว่านางจะต้องได้รับความชื่นชอบจากประชาชนคนธรรมดาอย่างแน่นอน

ประชาชนที่เมืองเยี่ยหนานนั้นเห็นนางเป็นเทพธิดาที่ลงมาจากสวรรค์ และมอบร่างกายให้กับนาง แม้แต่จักรพรรดิเหยาเองก็ต้องการเห็นเทพธิดาองค์นี้ แต่ได้ยินมาว่าหุบเขาเซียนไหลนั้นมีความลึกลับซับซ้อนอย่างมากและยากที่จะหาเจอ

พระองค์ได้ส่งคนไปค้นหาอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่พบเบาะแสอะไร คิดไม่ถึงเลยว่าบุคคลผู้นั้นจะอยู่ตรงหน้า

นางคือหมอเทวดาจริงๆ หรือ?

"หมอเทวดาอายุน้อยปานนี้เลยหรือ?" ความสงสัยในพระทัยของจักรพรรดิเหยายังคงไม่หายไป

เพราะหลายปีมานี้ ผู้ที่ปลอมตัวเป็นหมอเทวดานั้นมีจำนวนไม่น้อย

ไป๋ชิงหลิงกลับไม่ได้รู้สึกหงุดหงิดหรือโกรธเคืองกับความสงสัยของจักรพรรดิเหยาเลยแม้แต่นิดเดียว

"ฝ่าบาทเรียกแม่นมคนหนึ่งเข้ามาตรวจสอบร่างกายของข้าน้อยก็ได้เพคะ ลูกของข้าน้อย ข้าน้อยก็เป็นคนลงมือผ่าท้องและคลอดออกมาด้วยตัวเองเพคะ"

"เจ้า ลงมือ......ผ่าท้องตัวเอง!" จักรพรรดิเหยาขมวดคิ้วหนักขึ้น

พระองค์ไม่อาจจินตนาการได้เลยถึงภาพที่คนคนหนึ่งจะผ่าท้องของตัวเองเพื่อคลอดเด็กออกมา นางไม่เจ็บเลยหรือ?

ไม่!

นางผ่าท้องของตัวเอง แต่กลับไม่ตายเพราะอาการสูญเสียเลือดอย่างมาก

ช่างน่าอัศจรรย์เหลือเกิน

จักรพรรดิเหยาเรียกนางกำนัลเข้ามาทันที และให้พาไป๋ชิงหลิงไปยังอีกห้องหนึ่งเพื่อทำการตรวจสอบ

เวลาผ่านไปไม่นานนางกำนัลก็เดินออกมา และรายงานสิ่งที่ตัวเองเห็นทั้งหมดกับจักรพรรดิเหยาตามความจริง "ฝ่าบาทเพคะ บริเวณใต้สะดือของผู้หญิงคนนี้มีรอยแผลเป็นขนาดใหญ่และลึกอยู่หนึ่งรอยเพคะ"

จักรพรรดิเหยาอุทานออกมาด้วยความตกพระทัย "ผ่าท้องให้ตัวเอง เหตุใดเจ้าถึงไม่ตาย ตอนนั้น......เจ้าไม่เจ็บหรืออย่างไร?"

"ข้าน้อยมียาจึงไม่เจ็บเพคะ ข้าน้อยรู้ว่าจะจัดการกับรอยแผลอย่างไร ดังนั้นจึงทำให้ไม่ได้เสียเลือดไปมาก สิ่งเหล่านั้นที่ฝ่าบาทคิดนั้น ข้าน้อยล้วนมีวิธีการแก้ไขทั้งสิ้นเพคะ" ขณะที่ไป๋ชิงหลิงกล่าวออกมา นางได้ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อยและสองมือของนางได้แอบกำชายกระโปรงแน่น

ตอนนั้น นางรู้สึกลำบากอย่างมาก

นางเพิ่งจะทะลุมิติเวลามา ร่างกายก็เต็มไปด้วยบาดแผลจากการถูกทุบตี และมีกระดูกซี่โครงหักหนึ่งเส้น

นางได้กินยาระงับอาการปวดไปเยอะมาก จึงสามารถบรรเทาอาการปวดไปได้

ตอนนั้นนางจึงได้สาบานออกไปว่า เมื่อนางรักษาอาการบาดเจ็บจนหายดีแล้ว นางจะต้องฆ่าผู้หญิงและผู้ชายคู่นั้นให้ตายทั้งเป็น......

และความเปลี่ยนแปลงเพียงน้อยนิดบนใบหน้าของนาง ได้ถูกหรงเยี่ยจับจ้องเอาไว้

เขาคิดว่า ผู้หญิงคนนี้ทำลงไปเพราะสถานการณ์บังคับ และจากการสิ้นหวังจากอะไรบางสิ่ง จึงทำให้นางต้องเสี่ยงชีวิตผ่าท้องตัวเองเพื่อเอาเด็กออกมา

ฉะนั้น......

เป็นเพราะอะไรกันแน่ ที่บังคับให้นางต้องทำเช่นนี้?

"พานางเข้าไป" จักรพรรดิเหยาตรัสสั่ง

หรงเยี่ยที่กำลังยืนเหม่อ เมื่อดึงสติได้จึงรีบเดินไปยังไป๋ชิงหลิง และเอื้อมมือไปคว้าแขนนาง จากนั้นประคองร่างกายของนางลุกขึ้น

ขณะที่ไป๋ชิงหลิงลุกขึ้นนั้น นางรู้สึกเจ็บเข่าเล็กน้อย!

นางรีบสะบัดมือออกจากหรงเยี่ยและกล่าวว่า "รบกวนท่านอ๋องกลับไปยังจวนติ้งเป่ยโหว เพื่อหยิบกล่องยามาให้ข้าน้อยด้วยเพคะ"

"อืม" หรงเยี่ยหันหลังกลับและเดินออกจากตำหนักฮุ่ยหนิงไปอย่างรวดเร็ว

ไป๋ชิงหลิงใช้เวลาขณะที่หรงเยี่ยเดินออกไปจากตำหนัก เดินเข้าไปยังห้อบรรทมของไทเฮา จากนั้นได้หยิบเครื่องมือชิ้นหนึ่งออกมาจากห้วงมิติเวลา

เพราะความสงสัยในวิธีการรักษาของนาง ทำให้จักรพรรดิเหยาเสด็จตามเข้าไปด้วย

เมื่อเห็นนางหยิบสิ่งของแปลกประหลาดออกมาจากใต้แขนเสื้อและใส่เอาไว้ที่หู จากนั้นถือโลหะรูปทรงวงกลมที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งแตะไปยังบริเวณรอบๆ หน้าอกของไทเฮา

พระองค์ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว "นี่คืออะไร?"

ไป๋ชิงหลิงกล่าวอย่างใจเย็น "หูฟังตรวจฟังเสียงเพคะ มีเจ้าสิ่งนี้ สามารถได้ยินเสียงหัวใจ เสียงปอดและอวัยวะภายในได้เพคะ"

เมื่อพูดจบ ไป๋ชิงหลิงก็ได้ทำการตรวจสอบอาการอย่างจริงจัง

ขณะที่เคลื่อนย้ายหูฟังตรวจฟังเสียงไปยังช่วงท้องส่วนล่างด้านขวา จู่ๆ ไทเฮาก็ร้องออกมา "เจ็บ!"

จักรพรรดิเหยารีบเดินเข้ามายังหัวเตียง "เสด็จแม่ อดทนเอาไว้"

"ไทเฮาเป็นอย่างไรบ้าง? ฟังออกมาเป็นอย่างไรบ้าง!" จักรพรรดิเหยาเห็นพระพักตร์ของไทเฮาซีดเผือด ทำให้พระองค์รู้สึกวิตกกังวลอย่างมาก

ไป๋ชิงหลิงเก็บหูฟังตรวจฟังเสียงกลับและวางไว้ข้างๆ "เป็นฝีไส้ติ่งเพคะ"

"หมอหลวงฮั่วก็พูดเช่นนี้" ทันใดนั้นจักรพรรดิเหยาก็รู้สึกหมดหวังเล็กน้อย

ในเมื่อก็วินิจฉัยออกมาว่าเป็นฝีไส้ติ่งเช่นกัน เช่นนั้นก็แสดงว่านางอาจไม่ได้เก่งไปกว่าหมอหลวงเลย เพราะถึงอย่างไรหมอหลวงในสำนักหมอหลวงต่างก็มีประสบการณ์และความรู้ที่มากกว่า......

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น