กล่าวอีกนัยหนึ่ง คงเป็นเพราะไป๋ชิงหลิงอายุยังน้อยเกินไป จักรพรรดิเหยาคิดว่าเป็นเพียงเรื่องบังเอิญที่นางรอดชีวิตจากการผ่าท้องเพื่อคลอดเด็กออกมาในตอนนั้น
เมื่อมีประสบการณ์อยู่ก่อนหน้าแล้ว นางจึงสามารถทำการผ่าท้องทำคลอดให้กับผู้หญิงที่คลอดลำบากได้ ดังนั้นประชาชนจึงพากันสงสัย
ไป๋ชิงหลิงเห็นท่าทีความสงสัยของจักรพรรดิเหยาเข้าพอดี
ไป๋ชิงหลิงรู้สึกปกติอย่างมากกับการที่พระองค์ทรงแสดงความสงสัยมากเช่นนี้
จักรพรรดิองค์นี้มีความหยิ่งทะนง และยังมีความเห็นแก่ตัวอยู่เล็กน้อย อีกทั้งยังให้ความสำคัญต่อชื่อเสียงของพระองค์อีกด้วย!
ฝ่าบาทยังคงหวาดกลัวว่าไทเฮาจะเป็นอะไรไปเพราะนาง และนางก็เป็นคนที่รับคำสั่งจากพระองค์ให้รักษาอาการประชวรของไทเฮา พระองค์กลัวว่าจะต้องแบกรับกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของประชาชนต่างๆ นานาที่อาจเกิดขึ้น
ทว่าหากไทเฮาเป็นอะไรไปภายใต้การดูแลรักษาของหมอหลวง พระองค์สามารถออกคำสั่งประหารศีรษะคนเหล่านั้นได้ เพื่อเป็นการสังเวยชีวิตให้กับไทเฮา
นับได้ว่าจักรพรรดิตั้งแต่ในสมัยโบราณนั้นช่างไร้ความเมตตาและไร้จิตใจ!
"เพคะ ยังต้องรอกล่องยาของข้าน้อยที่ท่านอ๋องหรงเสด็จออกไปเอา จากนั้นข้าน้อยจะใช้เครื่องมือทางการรักษาทำการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อดูว่าอาการประชวรของไทเฮาเกิดขึ้นจากลำไส้ส่วนใดเพคะ" ไป๋ชิงหลิงอธิบายออกไปอย่างใจเย็น
จักรพรรดิเหยาตรัสถาม "เจ้าคิดจะทำการรักษาอย่างไร? ยาที่หมอหลวงให้ไทเฮาเสวย ไทเฮาเสวยเข้าไปก็อาเจียนออกมาหมด"
ไป๋ชิงหลิงคุกเข่าลงข้างๆ เตียงและมองไปยังไทเฮา
อาการประชวรของไทเฮาเช่นนี้ เกรงว่าจะต้องทำการผ่าตัด
นางสงสัยว่าไทเฮาเป็นไส้ติ่งอักเสบเรื้อรัง!
และยังต้องรอให้ท่านอ๋องหรงนำกล่องยาของนางมา จากนั้นนางจึงค่อยหยิบอุปกรณ์ที่ทันสมัยออกมาจากห้วยมิติเวลาเพื่อทำการตรวจสอบ
"ฝ่าบาทอย่าได้ทรงร้อนพระทัยเพคะ หลังจากที่ข้าน้อยทำการตรวจวินิจฉัยเสร็จแล้ว ข้าน้อยจะกราบทูลฝ่าบาทถึงวิธีการรักษาเพคะ"
เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ของไป๋ชิงหลิง จักรพรรดิเหยาเริ่มรู้สึกหงุดหงิดและวิตกกังวลขึ้นอีกครั้ง
เวลาผ่านไปไม่นาน ท่านอ๋องหรงได้ถือกล่องยาของนางกลับเข้ามายังภายในตำหนักอย่างรวดเร็ว
ขณะที่ไป๋ชิงหลิงเห็นเขานั้น นางรู้สึกตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง
ระยะทางทั้งไปและกลับนั้นอย่างน้อยต้องใช้เวลาถึงหนึ่งชั่วยาม แต่เขากลับใช้เวลาไปเพียงธูปหนึ่งดอกเท่านั้น ก็สามารถนำกล่องยาของนางกลับมาได้
"เร็วเข้า" เขาวางกล่องยาลงบนโต๊ะข้างๆ อย่างนุ่มนวล และกล่าวเร่งไป๋ชิงหลิง
ไป๋ชิงหลิงหันไปชำเลืองมองจักรพรรดิเหยาและกล่าวว่า "ฝ่าบาทเพคะ ไม่เช่นนั้นฝ่าบาทออกไปรอข้างนอกตำหนักก่อนก็ได้เพคะ ข้าน้อยจำเป็นต้องปลดฉลองพระองค์ของไทเฮาเพื่อทำการตรวจสอบอย่างละเอียดเพคะ"
พระโอษฐ์ของจักรพรรดิเหยาขยับเล็กน้อย และจ้องไปที่ไป๋ชิงหลิง ก่อนจะหันหลังเสด็จออกไปจากห้องบรรทม
หรงเยี่ยกลับไม่ได้ออกไป
ไป๋ชิงหลิงเหลือบมองเขา
นางดึงมุ้งที่เตียงของไทเฮาลง จากนั้นหยิบกล่องยาเดินเข้าไปในมุ้ง เท่านี้ก็เพียงพอที่จะปิดบังการเคลื่อนไหวเล็กๆ น้อยๆ ของนางได้
นางรีบเปิดกล่องยาออก จากนั้นค้นหาเครื่องตรวจจับจากห้วงมิติเวลาออกมาหนึ่งชิ้นอย่างมีสติ
ของชิ้นนี้เดิมทีเป็นอุปกรณ์ที่ไม่ได้ทันสมัยเลยในโลกของนาง เทียบเท่ากับเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก เพียงแค่นำไปวางไว้บนตัวของผู้ป่วย ก็ตรวจหาความผิดปกติของอวัยวะต่างๆ ในร่างกายของผู้ป่วยได้
นางทำการวางอุปกรณ์เครื่องฉายรังสีไปยังบริเวณที่ไทเฮารู้สึกเจ็บ และนางก็ได้เห็นสาเหตุของไส้ติ่งอักเสบ ซึ่งมีระดับขั้นรุนแรงมากแล้ว
นางเก็บของกลับเข้าที่และเปิดมุ้งออก
หรงเยี่ยยืนอยู่ข้างหลังของนางพอดี และเมื่อเห็นนางออกมา เขาได้ขมวดคิ้วและถามว่า "เป็นอย่างไรบ้าง?"
"จำเป็นต้องทำการผ่าตัด!"
"ผ่าตัด?" หรงเยี่ยไม่เข้าใจว่าคำนี้หมายความว่าอย่างไร
นางลุกขึ้นยืนและแสดงสีหน้าจริงจัง "คือการผ่าบริเวณจุดที่ไทเฮามีอาการเพื่อเปิดออก และทำการตัดท่อชิ้นเนื้อร้ายออกไป"
"ตัดอะไรออกไป?" เหตุใดเขายิ่งฟังยิ่งไม่เข้าใจ
ไป๋ชิงหลิงกลับมีความอดทนและพยายาม "ไส้ติ่งคือส่วนที่อยู่ล่างขวาของช่องท้อง ซึ่งระหว่างลำไส้ใหญ่ส่วนต้นและลำไส้เล็กส่วนต้น มันทำให้เกิดโรคและลามไปยังบริเวณอื่น วิธีการรักษาด้วยยาต้มแบบเดิมนั้นไม่มีผลอะไรกับไทเฮาเท่าไรนัก มีเพียงการตัดท่อเนื้อทิ้งเท่านั้น"
หรงเยี่ยตั้งใจฟังมากที่สุดก็คือคำนั้นที่นางพูดขึ้นมาเมื่อครู่ "ส่วนที่อยู่ล่างขวาของช่องท้อง"
"เจ้าต้องการผ่าท้องของไทเฮาอย่างนั้นหรือ?" หรงเยี่ยขมวดคิ้ว "เหมือนกับท้องของเจ้า ผ่าออกอย่างนั้นหรือ?"
"เพคะ แต่บริเวณที่ผ่านั้นไม่ใช่บริเวณเดียวกันกับข้า และก็ไม่ยาวมากเช่นนั้น" ไป๋ชิงหลิงค่อยๆ เงยหน้าเล็กน้อย "หากท่านเชื่อใจข้า เช่นนั้นก็ไปกราบทูลฝ่าบาท ข้าจำเป็นต้องมีผู้ช่วยจำนวนหนึ่ง หากสามารถเรียกคนใช้ของข้าเข้าวังมาได้ เช่นนั้นคงจะดีหากเรียกจื่ออีเข้ามา"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...
อ่านถึงตรงนี้แล้วยอมรับเลยว่าเหนื่อยแทนไป่ชิงหลิงจริงๆ...มีเรื่องตลอด...ช่วงดีๆแทบจะไม่มีเลย..แอดขาาาาตามอ่านจนจะทันแล้วนะคะลงต่อเถอะค่ะเข้ามาส่องทุกวันว่าขยับจาก 460ไปบ้างรึยังพรีสสสสส😽😽😽...
เจอแล้ว..เจอแล้ว..เป็นเรื่องที่อยากอ่านมากๆอีกเรื่องนึง..กรี๊ดลั่นรถจนลูกผัวตกอกตกใจ55555....แอดขาาา..อัพต่อไปเรื่อยๆนะคะจะตามอ่านให้ทันแน่นอนค่ะ😄🤗😊...
ตอนนี้ชื่อหรงฉี่กับอ๋องต้วนสลับกันอยู่นะอย่าทำให้สับสนสิคะ...
บท 433 แล้วมีต่อใช่มั้ยคะ...
อ่านแล้ว ยังไม่จบ แต่สถานะทำไมเสร็จสิ้นแล้ว น่าจะยังอีกหลายตอน ทำไมไม่มีการลงต่อคะ...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...