ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 6

สรุปบท บทที่ 6 การพบกันครั้งแรกของซื่อจื่อน้อยแห่งจวนท่านอ๋องหรง: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น

อ่านสรุป บทที่ 6 การพบกันครั้งแรกของซื่อจื่อน้อยแห่งจวนท่านอ๋องหรง จาก ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น โดย พระจันทร์ขี้เมา

บทที่ บทที่ 6 การพบกันครั้งแรกของซื่อจื่อน้อยแห่งจวนท่านอ๋องหรง คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายการเกิดใหม่ ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย พระจันทร์ขี้เมา อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

วันรุ่งขึ้น ยามเที่ยง

ทหารที่ติ้งเป่ยโหวส่งมาได้มาถึงประตูใหญ่ฝั่งประจิมเมืองเฉาจิง

และแน่นอน........

ถูกทหารยามเฝ้าหน้าประตูขวางเอาไว้

จื่ออียกม่านขึ้น มองดูด้านนอกแล้วเอ่ยขึ้น:“ แม่นาง ประตูฝั่งประจิมถูกปิดไว้ ประชาชนทั่วไปและพ่อค้าต่างถูกขวางไว้เพื่อตรวจสอบ ไม่รู้ว่าในเมืองหลวงเกิดเรื่องใหญ่อะไรขึ้น !”

ถ้าหากว่าเมืองเฉาจิงไม่มีเรื่องอะไร ก็คงจะไม่ปิดประตู และค้นร่างกายแบบนี้หรอก

เสี่ยวเซิงเอ๋อร์ไม่เจอผู้คนมานาน นางจึงรีบไปดูที่หน้าต่าง

และชิงอีก็เปิดม่านอีกด้านหนึ่ง เพื่อให้ไป๋ชิงหลิงสามารถมองเห็นวิวภายนอกได้

“ทหารเฝ้าประตูประจิมส่งคนมาเพิ่ม ชุดนักรบเหยี่ยวดำนั้นเป็นทหารองครักษ์เหยี่ยวดำของท่านอ๋องหรง และตอนนี้ท่านอ๋องหรงอยู่ในความดูแลของศาลต้าหลี่ ตั้งแต่ที่ทหารองครักษ์เหยี่ยวดำถูกส่งมา แสดงว่าต้องเกี่ยวข้องกับคดีร้ายแรง”

ไป๋ชิงหลิงชำเลืองมองไปยังทหารคุ้มกันที่สวมชุดดำกลุ่มนั้น

ด้วยดาบในมือของพวกเขา และชุดเกราะที่ศีรษะ ทำให้รอบตัวของพวกเขาแผ่รังสีความน่าเกรงขามออกมา

ทันใดนั้นทหารเหยี่ยวดำสองสามคนก็เดินมาทางด้านของนาง

ไป๋กัวจ้าว ผู้ดูแลจวนติ้งเป่ยโหวรีบหยิบหนังสือผ่านทางลงจากรถม้า

“ใต้เท้าทั้งหลาย พวกข้ามาจากจวนติ้งเป่ยโหว โหวเหย[1]ให้พวกข้าไปรับคนที่เยี่ยนหนาน”

“ไปรับใคร เปิดม่านออก” ทหารองครักษ์เหยี่ยวสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ

ลวี่อีและชิงอีหันกลับไปมองไป๋ชิงหลิง

“เปิดม่าน” ไป๋ชิงหลิงพยักหน้าเล็กน้อย

หญิงรับใช้ทั้งสองรีบเปิดม่านหน้าต่างในทันที

ทหารองครักษ์เหยี่ยวดำสองคนเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว และตรวจดูภายในรถม้า

และในขณะเดียวกันไป๋ชิงหลิง ในตอนที่ทหารองครักษ์เหยี่ยวดำกำลังค้นรถ นางก็ถอดผ้าคลุมหน้าของตัวเองออกอย่างใจเย็น

ทหารองครักษ์เหยี่ยวดำเหลือบมองนางสองสามครั้ง จากนั้นก็หันมาหยิบหนังสือผ่านทางมาจากไป๋กัวจ้าว โดยไม่ทำอะไรยุ่งยาก หลังจากสอบถามสองสามข้อพวกเขาก็ปล่อยไป

ชิงอีรีบดึงม่านรถม้าลงอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็กอดเสี่ยวเซิงเอ๋อร์และพูดว่า ทหารองครักษ์ของท่านอ๋องหรงนั้นทรงพลังจริงๆ

“ยอมล่วงเกินยมบาล แต่ไม่มีทางยอมล่วงเกินท่านอ๋องหรง ข่าวลือนี้น่าจะไม่ใช่เรื่องเท็จ นักโทษที่ถูกท่านอ๋องหรงสอบปากคำ ไม่มีคนไหนที่ไไม่ยอมเปิดปาก” ไป๋ชิงหลิงค่อยๆผูกผ้าคลุมหน้า

ถึงแม้ว่าหลายปีมานี้ นางจะอยู่แต่ในหุบเขาเซียนไหล แต่นางก็มีข้อมูลจากโลกภายนอกมากมาย

อย่างเช่น ภรรยานอกสมรสของท่านอ๋องหรงให้กำเนิดลูก

เพื่อที่จะเลี้ยงลูกชาย เขาจึงโยนอำนาจทางทหารทั้งหมดกลับไปให้ฮ่องเต้

เลิกแย่งชิงอำนาจและเป็นพ่อที่มีคุณสมบัติเหมาะสม

ทำให้ผู้คนทั่วหล้าต่างตกตะลึง......

เพื่อสามารถให้เขาเป็นอิสระและเสรี อย่างที่ไม่มีใครเคยทำมาก่อน !

หลังจากลดม่านลง รถม้าที่กำลังจะเคลื่อนไปข้างหน้า แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงของหญิงสาวหลายคนเรียกจากด้านนอก:“ซื่อจื่อน้อยเพคะ ซื่อจื่อน้อยเพคะ”

“พวกเจ้าไม่ต้องตามข้ามา รำคาญ”

“แต่ว่า ทางนี้ไม่ใช่ทางที่จะกลับจวนอ๋องนะเพคะ ซื่อจื่อน้อย ได้โปรดเถอะเพคะ กลับไปกับพวกหม่อมฉันเถอะ”

เมื่อรถม้ากำลังจะไปข้างหน้าหยุดลงอีกครั้งหนึ่ง

ในเวลาเดียวกัน หญิงรับใช้ที่ตามมาก็เปิดม่านออก

“ซื่อจื่อน้อยเพคะ ท่านอ๋องเคยบอกว่าห้ามค้นรถม้าของผู้อื่นโดยพลการนะเพคะ และห้ามออกไปเล่นนอกเมืองด้วยนะเพคะ”

หรงจิ่งหลินหันกลับไปจ้องมองหญิงรับใช้ จากนั้นก็หันมามองไป๋ชิงหลิงที่อยู่เบื้องหน้า เขากัดฟันแล้วพูดว่า:“ พวกเจ้าพาข้าไปหา.....ท่านแม่ของข้าได้ไหม ข้าให้เงินค่าเดินทางกับพวกเจ้าได้ หรือว่า พวกเจ้าอยากได้อะไรข้าก็ล้วนสามารถให้ได้”

ในขณะที่พูด เขาก็ดึงจี้หยกสีดำที่เอวออกมา ส่งให้กับไป๋ชิงหลิง

ชิงอี ลี่ว์อี จื่ออี ทั้งสามคนมองตากัน

เนื่องจากหญิงรับใช้ข้างนอกเรียกเขาว่าซื่อจื่อ ถ้างั้นเขาก็จะต้องเป็นบุตรของท่านอ๋อง

จวนติ้งเป่ยโหวจะกล้าท้าทายอำนาจแบบนี้ได้เยี่ยงไร

ไป๋ชิงหลิงเหลือบมองหยกสีดำในมือของหรงจิ่งหลิน ซึ่งด้านบนสลักคำว่า “นกเหยี่ยว”

ในตอนที่นางอยู่ติ้งเป่ยโหวนางเคยเห็นหยกแผ่นนี้ ถ้าจะบอกว่าเป็นเครื่องประดับ อันที่จริงควรต้องบอกว่า...มันเป็นเครื่องรางสำหรับทหารองครักษ์เหยี่ยวดำ

ในมือของเด็กคนนี้ถือเครื่องรางของทหารองครักษ์เหยี่ยวดำ ถ้างั้นก็แสดงว่า.....เป็นบุตรชายของท่านอ๋องหรง

อันที่จริงไป๋ชิงหลิงควรจะปฏิเสธเด็กคนนี้ แล้วไล่เขาลงจากรถม้า

แต่ตั้งแต่ที่นางเห็นเด็กคนนี้ ร่างกายของนางก็เต็มไปด้วยความเศร้าโศกและความสำนึกผิดที่นางไม่สามารถควบคุมได้ !

แปลกจัง ทำไมถึงมีความรู้สึกแบบนี้ได้

“ท่านแม่ของเจ้าอยู่ที่ใดกัน ?” ไป๋ชิงหลิงโน้มตัวลงเล็กน้อย และถามด้วยน้ำเสียงอบอุ่น

หรงจิ่งหลินกำหยกดำในมือแน่น ในตอนที่กำลังจะเอ่ยปาก เสียงอุทานของหญิงรับใช้ที่อยู่ข้างนอกก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง:“ ท่านอ๋องหรง ท่านอ๋องหรงกลับมาแล้ว....”

[1]โหวเหฺย (侯爷) คือคำที่เรียกนายท่านของจวนโหว หรือบุตรที่จะรับสืบทอดตำแหน่งเจ้าของจวนโหว ซึ่งเป็นบรรดาศักดิ์ที่สูงกว่าขั้น 1 โดยส่วนใหญ่พระราชทานให้พระญาติสนิท และขุนนางที่มีคุณงามความดีต่อแผ่นดิน เริ่มใช้ตั้งแต่ราชวงศ์ฉิน จนมาถึงราชวงศ์โจวจึงได้กำหนดบรรดาศักดิ์นี้ไว้ 5 ขั้น แบ่งเป็น กง โหว ป๋อ จื่อ หนาน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น