วันรุ่งขึ้น ยามเที่ยง
ทหารที่ติ้งเป่ยโหวส่งมาได้มาถึงประตูใหญ่ฝั่งประจิมเมืองเฉาจิง
และแน่นอน........
ถูกทหารยามเฝ้าหน้าประตูขวางเอาไว้
จื่ออียกม่านขึ้น มองดูด้านนอกแล้วเอ่ยขึ้น:“ แม่นาง ประตูฝั่งประจิมถูกปิดไว้ ประชาชนทั่วไปและพ่อค้าต่างถูกขวางไว้เพื่อตรวจสอบ ไม่รู้ว่าในเมืองหลวงเกิดเรื่องใหญ่อะไรขึ้น !”
ถ้าหากว่าเมืองเฉาจิงไม่มีเรื่องอะไร ก็คงจะไม่ปิดประตู และค้นร่างกายแบบนี้หรอก
เสี่ยวเซิงเอ๋อร์ไม่เจอผู้คนมานาน นางจึงรีบไปดูที่หน้าต่าง
และชิงอีก็เปิดม่านอีกด้านหนึ่ง เพื่อให้ไป๋ชิงหลิงสามารถมองเห็นวิวภายนอกได้
“ทหารเฝ้าประตูประจิมส่งคนมาเพิ่ม ชุดนักรบเหยี่ยวดำนั้นเป็นทหารองครักษ์เหยี่ยวดำของท่านอ๋องหรง และตอนนี้ท่านอ๋องหรงอยู่ในความดูแลของศาลต้าหลี่ ตั้งแต่ที่ทหารองครักษ์เหยี่ยวดำถูกส่งมา แสดงว่าต้องเกี่ยวข้องกับคดีร้ายแรง”
ไป๋ชิงหลิงชำเลืองมองไปยังทหารคุ้มกันที่สวมชุดดำกลุ่มนั้น
ด้วยดาบในมือของพวกเขา และชุดเกราะที่ศีรษะ ทำให้รอบตัวของพวกเขาแผ่รังสีความน่าเกรงขามออกมา
ทันใดนั้นทหารเหยี่ยวดำสองสามคนก็เดินมาทางด้านของนาง
ไป๋กัวจ้าว ผู้ดูแลจวนติ้งเป่ยโหวรีบหยิบหนังสือผ่านทางลงจากรถม้า
“ใต้เท้าทั้งหลาย พวกข้ามาจากจวนติ้งเป่ยโหว โหวเหย[1]ให้พวกข้าไปรับคนที่เยี่ยนหนาน”
“ไปรับใคร เปิดม่านออก” ทหารองครักษ์เหยี่ยวสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ
ลวี่อีและชิงอีหันกลับไปมองไป๋ชิงหลิง
“เปิดม่าน” ไป๋ชิงหลิงพยักหน้าเล็กน้อย
หญิงรับใช้ทั้งสองรีบเปิดม่านหน้าต่างในทันที
ทหารองครักษ์เหยี่ยวดำสองคนเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว และตรวจดูภายในรถม้า
และในขณะเดียวกันไป๋ชิงหลิง ในตอนที่ทหารองครักษ์เหยี่ยวดำกำลังค้นรถ นางก็ถอดผ้าคลุมหน้าของตัวเองออกอย่างใจเย็น
ทหารองครักษ์เหยี่ยวดำเหลือบมองนางสองสามครั้ง จากนั้นก็หันมาหยิบหนังสือผ่านทางมาจากไป๋กัวจ้าว โดยไม่ทำอะไรยุ่งยาก หลังจากสอบถามสองสามข้อพวกเขาก็ปล่อยไป
ชิงอีรีบดึงม่านรถม้าลงอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็กอดเสี่ยวเซิงเอ๋อร์และพูดว่า ทหารองครักษ์ของท่านอ๋องหรงนั้นทรงพลังจริงๆ
“ยอมล่วงเกินยมบาล แต่ไม่มีทางยอมล่วงเกินท่านอ๋องหรง ข่าวลือนี้น่าจะไม่ใช่เรื่องเท็จ นักโทษที่ถูกท่านอ๋องหรงสอบปากคำ ไม่มีคนไหนที่ไไม่ยอมเปิดปาก” ไป๋ชิงหลิงค่อยๆผูกผ้าคลุมหน้า
ถึงแม้ว่าหลายปีมานี้ นางจะอยู่แต่ในหุบเขาเซียนไหล แต่นางก็มีข้อมูลจากโลกภายนอกมากมาย
อย่างเช่น ภรรยานอกสมรสของท่านอ๋องหรงให้กำเนิดลูก
เพื่อที่จะเลี้ยงลูกชาย เขาจึงโยนอำนาจทางทหารทั้งหมดกลับไปให้ฮ่องเต้
เลิกแย่งชิงอำนาจและเป็นพ่อที่มีคุณสมบัติเหมาะสม
ทำให้ผู้คนทั่วหล้าต่างตกตะลึง......
เพื่อสามารถให้เขาเป็นอิสระและเสรี อย่างที่ไม่มีใครเคยทำมาก่อน !
หลังจากลดม่านลง รถม้าที่กำลังจะเคลื่อนไปข้างหน้า แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงของหญิงสาวหลายคนเรียกจากด้านนอก:“ซื่อจื่อน้อยเพคะ ซื่อจื่อน้อยเพคะ”
“พวกเจ้าไม่ต้องตามข้ามา รำคาญ”
“แต่ว่า ทางนี้ไม่ใช่ทางที่จะกลับจวนอ๋องนะเพคะ ซื่อจื่อน้อย ได้โปรดเถอะเพคะ กลับไปกับพวกหม่อมฉันเถอะ”
เมื่อรถม้ากำลังจะไปข้างหน้าหยุดลงอีกครั้งหนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...