ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 7

สรุปบท บทที่ 7 เมื่อประจันหน้ากับบุรุษ หญิงเช่นข้ากลับถูกเอาเปรียบ: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น

บทที่ 7 เมื่อประจันหน้ากับบุรุษ หญิงเช่นข้ากลับถูกเอาเปรียบ – ตอนที่ต้องอ่านของ ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น

ตอนนี้ของ ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น โดย พระจันทร์ขี้เมา ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายการเกิดใหม่ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 7 เมื่อประจันหน้ากับบุรุษ หญิงเช่นข้ากลับถูกเอาเปรียบ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ใบหน้าน้อย ๆ ของหรงจิ่งหลินตกใจเล็กน้อย แต่สติของเขาก็กลับมาอย่างรวดเร็ว

เด็กชายรีบยัดหยกสีดำใส่ในมือของไป๋ชิงหลิง จากนั้นก็รีบวิ่งออกไปทันที

“เอ๋...” ไป๋ชิงหลิงร้องขึ้นเบา ๆ

แต่เด็กน้อยว่องไวนัก เพียงพริบตาเดียวก็หายไปจากสายตาของนางแล้ว

ไป๋ชิงหลิงลุกขึ้นและวิ่งตามออกไปโดยสัญชาตญาณ

เพียงแต่ ทันทีที่นางเลิกม่านขึ้น นางเห็นแส้สีดำพุ่งตรงมาอย่างรวดเร็วจากด้านหลังของนาง และกำลังจะพุ่งเข้าใส่หรงจิ่งหลินที่กำลังจะกระโดดลงจากรถม้า

หัวใจของไป๋ชิงหลิงแทบจะตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม นางร้องเสียงหลง “ระวัง”

นางไม่ทันได้มีเวลาคิด เมื่อแส้กำลังจะแตะเข้าที่เอวของเด็กน้อย ไป๋ชิงหลิงก็กระโดดพุ่งเข้าหาหรงจิ่งหลิน

“ท่านแม่”

“ว้าย สวรรค์”

เสียงร้องตกใจดังมาจากทุกสารทิศ

ทุกคนได้ยินเพียงเสียงดัง “ตึงตัง” เท่านั้น

หญิงสาวที่ออกมาจากรถม้านั่น กำลังกอดบุตรชายของอ๋องหรงและตกลงมาด้วยกัน

ชั่วขณะหนึ่ง สีหน้าของผู้คนในเหตุการณ์ต่างตื่นตะลึง

นั่นมันบุตรชายของท่านอ๋องหรงนี่!

บุตรชายหัวแก้วหัวแหวนของท่านอ๋องหรง ไม่ว่าใครก็แตะต้องไม่ได้

หญิงสาวผู้นี้... จบ เห่ แล้ว!

“ฮี้ ๆ ๆ ” เสียงม้าร้องดังขึ้นเรียกสติให้ผู้คน ผู้คนต่างหันหน้าไปทางกลุ่มทหารม้าเกราะเงินที่มาจากระยะไกลและคุกเข่าลง

“ถวายบังคมท่านอ๋องหรง”

ไป๋ชิงหลิงมองไปตามเสียง

กลุ่มคนขี่ม้าหุ้มเกราะสีเงินกำลังแหวกฝูงชนตรงเข้ามา

ชายผู้นำกลุ่มสวมชุดขุนศึกพอดีตัวสีม่วงแกมดำ บ่าของเขามีผ้าคลุมสีดำคลุมอยู่ผืนหนึ่ง ยามเมื่อลมพัดผ่าน ผ้าคลุมผืนนั้นก็โบกสะบัดตามแต่ใจ

ในมือของเขาถือแส้ยาวสีดำเส้นหนึ่ง กว่ากึ่งหนึ่งของแส้กองอยู่ที่พื้น บริเวณที่มีแส้ลากผ่านหลงเหลือให้เห็นเป็นรอยขีดจาง ๆ และยังคงมองเห็นรอยเลือดปรากฏที่บนแส้

ไป๋ชิงหลิงรู้สึกแค่เพียงด้านหลังของนางปวดแสบปวดร้อน

หากบอกว่าอ๋องหรงนั้นใช้ความรุนแรง เช่นนั้นในเมืองหลวงก็คงจะไม่สามารถหาบิดาที่ปกป้องบุตรได้ดีไปกว่าเขาอีกแล้ว

นาง ไม่รักชีวิตแล้วหรือ

และแล้วท่านอ๋องหรงผู้นิ่งเฉยมาโดยตลอดก็ลงจากม้า เดินตรงไปหาไป๋ชิงหลิง

ผู้คนต่างกลั้นหายใจ

เพียงครู่เดียว ท่านอ๋องหรงหยุดตรงหน้านาง ดวงตาจับจ้องไปที่ผ้าคลุมหน้าของนางอย่างใคร่รู้

ไป๋ชิงหลิงวางเด็กน้อยลงแล้วผลักให้ไปอยู่ด้านหลังของตน จากนั้นก็ก้าวถอยไปข้างหลัง

อย่างไรก็ตาม ขณะที่นางเริ่มก้าวถอยหลัง จู่ ๆ ชายหนุ่มตรงข้ามก็ยื่นมือออกมา ออกแรงกดให้นางอยู่ตรงหน้าเขา

“ท่าน! ” ไป๋ชิงหลิงเบิกตากว้างด้วยความตกใจ

ยังไม่ทันจะอ้าปาก ฝ่ายตรงข้ามก็ดึงผ้าคลุมหน้าออกอย่างรวดเร็ว และคางอันบอบบางของนางก็ถูกเขาบีบอย่างแรง

“เจ้ารู้หรือว่าสิ่งใดคือความรุนแรง? ” เขาบีบใบหน้าเล็กและบอบบางของนาง พลางใช้น้ำเสียงที่เย็นชาเอ่ยคำพูดชวนคลุมเครือขึ้นว่า “ข้าจะแสดงให้เจ้าได้เข้าใจเอง”

เมื่อพูดจบเขาก็ก้มหน้าลงประกบเข้าที่ริมฝีปากของนาง...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น