ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 60

"ผ่าตัด?" จักรพรรดิเหยาจ้องมองหรงเยี่ยด้วยพระพักตร์ที่งงงวยไม่เข้าใจ "นี่คือวิธีการรักษาของนาง วิธีการนี้สามารถช่วยชีวิตของเสด็จย่าได้พ่ะย่ะค่ะ"

พระองค์ไม่รู้เลยว่าคำว่าผ่าตัดของหรงเยี่ยนั้น คือการใช้มีดกรีดไปที่บนร่างกายของไทเฮา

หรงเยี่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เชื่อมั่นและแน่วแน่ "หมอเทวดากล่าวว่าจำเป็นต้องผ่าตัดเท่านั้น การเสวยน้ำแกงโอสถไม่สามารถรักษาต้นเหตุของโรคที่เสด็จย่าเป็นได้ การผ่าตัดจำเป็นต้องใช้เวลาครึ่งชั่วยาม นางต้องการความเงียบสงบ ไม่เช่นนั้นจะเกิดความผิดพลาดได้ง่าย เสด็จพ่อได้โปรดกลับไปประทับรอที่บัลลังก์มังกรเถอะพ่ะย่ะค่ะ"

จักรพรรดิเหยาเสด็จกลับไปประทับยังบัลลังก์มังกรด้วยพระพักตร์ที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจและสงสัย

บรรดาหมอหลวงที่ถูกต้อนออกไปนอกตำหนักฮุ่ยหนิง ก็ได้กลับเข้าไปไปภายในพระที่นั่งแล้ว

บรรดาพระสนมทั้งหลายรวมไปถึงฮองเฮาอู่ก็อยู่ที่นั่นแล้ว แม้แต่พระสนมเอกหรงก็อยู่ข้างๆ

พระสนมเอกหรงที่คิดแค้น เมื่อเห็นหรงเยี่ยกล่าวออกมาเพียงครึ่งหนึ่ง จึงได้ถามออกไปด้วยสีหน้าแสร้งเป็นกังวล "เหลือนางเพียงคนเดียวในห้องบรรทมของเสด็จแม่ จะไม่เกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นหรือ การผ่าตัดที่ท่านอ๋องหรงกล่าวมา คือการรักษาด้วยวิธีการใดหรือ เหตุใดถึงไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย หมอหลวงฮั่ว เจ้าเลยได้ยินมาก่อนหรือไม่"

เมื่อหมอหลวงฮั่วถูกเรียก จึงได้ก้าวไปข้างหน้าเพื่อโค้งคำนับ "ข้าน้อยมีประสบการณ์น้อยนิด ไม่เคยได้ยินสิ่งนี้มาก่อนพ่ะย่ะค่ะ!"

ขณะนี้ พระสนมเอกหรงได้หันไปยังหมอหลวงจ้าวและหมอหลวงหลี่ น้ำเสียงของนางแอบซ่อนความชั่วร้ายเล็กน้อย

"หมอหลวงจ้าว เมื่อสักครู่ที่เจ้าพูดหน้าตำหนักว่าไป๋เจาเสวี่ยช่วยดึงลูกธนูออกให้องค์รัฐทายาทจิ่ง เช่นนั้นพวกเจ้ารู้หรือไม่ว่าการผ่าตัดคือการรักษาด้วยวิธีการใด?" พระสนมเอกหรงถาม

ในที่สุดจักรพรรดิเหยาก็นึกถึงประเด็นนี้ขึ้นมา

การผ่าตัดคืออะไร?

นางกำลังใช้วิธีการใดในการรักษาอาการประชวรของไทเฮา?

เหตุใดภายในห้องบรรทมถึงเหลือไว้เพียงทหารองครักษ์อินทรีดำไว้เพียงคนเดียว

พระเนตรที่แหลมคมจับจ้องไปยังหมอหลวงจ้าว และเพื่อหวังจะได้คำตอบจากปากของหมอหลวงจ้าว

หมอหลวงจ้าวเหลือบมองหรงเยี่ยอย่างกระอักกระอ่วนใจ

ช่วงที่อยู่ในจวนท่านอ๋องหรงนั้น เขาก็พอจะเคยได้ยินคำว่า ""ผ่าตัด" อยู่บ้าง

ผ่าตัด คงจะเหมือนกับการดึงลูกธนูออกมาจากองค์รัฐทายาทจิ่งเช่นนั้นกระมัง

แน่นอนว่า อาการประชวรของไทเฮานั้นไม่อาจเทียบได้กับองค์รัฐทายาท ไทเฮาประชวรด้วยโรคฝีไส้ติ่ง เช่นนั้นก็คงจะเป็น......

"ขจัดความร้อนชื้นและพิษร้าย จากนั้นระบายตะกอนและหนองเหลวออกมาพ่ะย่ะค่ะ!" หมอหลวงจ้าวกล่าว

เมื่อทุกคนได้ยินก็ต่างพากันจ้องตากัน

และเมื่อจักรพรรดิเหยาได้ยินหมอหลวงจ้าวกล่าวขึ้นมาเช่นนี้ พระองค์ก็ไม่รีบเข้าไปในห้องบรรทมอีก เวลาผ่านไปอีกครู่ใหญ่ ไป๋ชิงหลิงได้เดินออกมาจากข้างใน

อย่างไรก็ตาม ชุดที่นางสวมใส่ออกมานั้นก็ทำให้บรรดาพระสนมและหมอหลวงต่างพากันตกตะลึงอย่างมาก แม้แต่อิงซา ทหารองครักษ์ท่านอ๋องหรงก็สวมเสื้อผ้าที่แปลกประหลาดนี้เช่นกัน

จักรพรรดิเหยาจ้องมองทั้งสองคนด้วยความประหลาดใจ

พวกนางสวมชุดสีเขียว โดยคลุมศีรษะและใบหน้าเอาไว้ ที่มือก็สวมใส่ถุงมือ ซึ่งดูแล้วช่างแปลกประหลาดอย่างมาก

ขณะนี้ ไป๋ชิงหลิงได้ถอดหน้ากากออก เผยให้เห็นใบหน้าที่สวยงามหยดย้อย

พระสนมเอกหรงตกตะลึงอย่างมาก นางจิ้งจอกคนนี้ช่างมีใบหน้าที่สวยงามเหลือเกิน

ไม่แปลกเลยที่เหตุใดท่านอ๋องหรงจะลุ่มหลงในตัวนางเช่นนี้!

ไป๋ชิงหลิงเดินเข้ามาใกล้และกล่าวว่า "อาการติดเชื้อในช่องท้องและบริเวณท่อเนื้อตายของไทเฮาได้ถูกกำจัดออกแล้ว หลังจากการผ่าตัดจำเป็นต้องรีบลุกจากเตียงเพื่อใช้ชีวิตปกติให้เร็วที่สุด หลังจากระบายลมในท้องแล้วก็สามารถเสวยพระกระยาหารได้ตามปกติ พยายามเสวยพระกระยาหารเหลว และห้ามให้แผลโดนน้ำเพคะ"

"เจ้าว่าอย่างไรนะ?" พระสนมเอกหรงได้ยินประโยคสุดท้ายที่นางบอกว่า "ห้ามให้แผลโดนน้ำ" จึงถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแหลมคม "เหตุใดบนร่างกายของไทเฮาถึงมีบาดแผล"

ฮองเฮาอู่ก็ตกตะลึงด้วยเช่นกัน

จักรพรรดิเหยาราวกับอะไรถูกจุดประกาย พระเนตรของพระองค์เต็มไปด้วยความเยือกเย็น "แผลของไทเฮาเกิดขึ้นได้อย่างไร?"

ไป๋ชิงหลิงมองไปยังหรงเยี่ยด้วยความสับสนงุนงง

เขาไม่ได้บอกฝ่าบาทหรอกหรือ?

นางหันหน้าไปมองหรงเยี่ย และพบว่าเขาไม่แสดงท่าทีใดๆ จู่ๆ ไป๋ชิงหลิงก็รู้สึกขบขัน......

นางเชื่อใจผู้ชายคนนี้ได้อย่างไรกัน

เขาเพียงต้องการให้ไทเฮามีชีวิตอยู่ต่อไป ส่วนหลังจากที่นางทำการผ่าตัดให้ไทเฮาเสร็จแล้วจะเป็นอย่างไรต่อนั้น เขาไม่สนใจเลยด้วยซ้ำ

นางจะเป็นตายร้ายดีอย่างไรก็ไม่เกี่ยวข้องกับเขา!

นางรู้สึกว่าตัวเองโศกเศร้าเหลือเกินที่คิดผิดเชื่อใจคนอย่างเขา

อิงซากล่าวตามความเป็นจริง "แม่นางไป๋ทำการผ่าท้องให้ไทเฮา เพื่อตัดเอาชิ้นเนื้อบริเวณที่เป็นหนองออกมาเพคะ"

"ปัง!" จักรพรรดิเหยายกฝ่ามือขึ้นและตบลงไปที่โต๊ะอย่างแรง จากนั้นตรัสออกมาด้วยน้ำเสียงโกรธเกรี้ยว "บังอาจ ร่างกายที่สูงส่งของไทเฮาเป็นสิ่งที่พวกเจ้าสมควรแตะต้องอย่างนั้นหรือ!"

พระสนมเอกหรงกล่าวซ้ำเติมในความโชคร้ายของคนอื่น "หมอหลวงฮั่ว เร็วเข้า รีบเข้าไปดูอาการของไทเฮาเร็วเข้า"

หมอหลวงฮั่วรีบวิ่งเข้าไปในห้องบรรทม และเมื่อวิ่งออกมาอีกครั้ง สีหน้าของหมอหลวงฮั่วกลับแย่ลง "ไทเฮา......ไทเฮาเป็นลมหมดสติไปพ่ะย่ะค่ะ......"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น